สวัสดีครับน้า
ก่อนอื่นต้องขอบคุณที่ชวนผมส่งงานมาลงใน ‘น่านไดอะล็อก’
เอาจริงๆ ก็รู้สึกดีมากนะ
คิดถึงสมัยวัยรุ่นที่กำลังหาเวทีแจ้งเกิด แล้วมีบรรณาธิการหนังสือให้โอกาสตีพิมพ์ผลงาน แต่ก็เอาจริงๆ อีกนั่นแหละ อย่างที่คุยกันในอินบ็อก ผมไม่คิดว่าตัวเองมีอะไรที่อยากสื่อสารมากนัก ในโลกที่เต็มไปด้วยคอนเทนต์อย่างทุกวันนี้ แม้ตัวเองจะทำคอนเทนต์ขายของอยู่ทุกวัน
แต่เหตุผลของน้าก็ถูก “ถ้าคิดแบบนั้นก็คงไม่ต้องทำอะไรกันละ”
อีกอย่าง ถึงน้ากับผมไม่ค่อยได้สื่อสารกันมากในช่วงหลายปีมานี้ แต่น้าไม่ได้คิดว่าผมเป็นสิ่งชำรุดในวิชาชีพอย่างที่หลายคนเข้าใจ
การเขียนหนังสือ การถ่ายรูป สำหรับผมมันน่าจะเป็นองคพายพที่ไม่มีวันลบออกจากสันดานไปได้ง่ายๆ แม้ความสนใจจะแตกแขนงไปทำเรื่องอื่นๆ มากมายก็ตาม
ผมนับถือน้าในเรื่องการยืนหยัดมั่นคงกับสิ่งที่ตัวเองเชื่อ และทำมันได้ดีมากๆ ในวิถีของคนเขียนหนังสือ (มันอาจจะมีคำอธิบายที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น)
การที่น้าค้นพบว่า ‘น่าน’ คือ ‘บ้าน’ ที่เรียกว่า ‘บ้านของหัวใจ’ ก็คงไม่ผิดนัก ผมก็รู้สึกอิจฉานะ เพราะตัวเองยังหาไม่เจอ และไม่แน่ชัดนักว่าการลงหลักปักฐานมันจำเป็นไหม ในวัยนี้
ยิ่งเห็นน้าตั้งใจทำ ‘น่านไดอะล็อก’ เพื่อถ่ายทอดเรื่องราวของสามัญชนคนธรรมดา ที่มีความเกี่ยวพันกับ ‘น่าน’ ผมว่ามันเป็นการงานที่สอดคล้องกับวิถีของน้าที่สุดแล้ว
เอาละ โปสต์การ์ดมันไม่ควรจะยาวนัก เขียนมาทักทายพอหอมปากหอมคอ พร้อมกับรูปถ่ายสองสามใบ
สวัสดีครับ
มิตร
ปล. ภาพชุดนี้ผมเคยเขียนและโพสต์ว่า..
ทุกอย่างจะคลี่คลายเมื่อพายเรือ
เราจะเป็นคนใหม่เมื่อกลับขึ้นฝั่ง
สายน้ำไม่เคยจดจำผู้ใด
ป่าเสม็ดโบราณ, สวนพฤกษศาสตร์
เรื่องและภาพโดย สมิทธิ ธนานิธิโชติ
หมายเหตุ : เพื่อนเก่า ร่วมงานกันใกล้ชิดสมัยทำนิตยสาร open ส่งข้อความสั้นๆ มาถึงบรรณาธิการ หลังห่างหายกันไปนานปี ถัดจากนี้ เราหวังว่าจะได้เสพงานใหม่ๆ ของเขา
เกี่ยวกับผู้เขียน : สมิทธิ ธนานิธิโชติ เป็นช่างภาพและนักเขียนสารคดี มีผลงานหนังสือของตัวเอง เช่น บางสิ่งไม่เปลี่ยนไป ใจที่เปลี่ยนแปลง, เรามองดาวกันคนละดวง ฯ เคยทำเกสต์เฮาส์ชื่อ ‘บางน้อยคอยรัก’ สนใจศิลป์และศาสตร์ในโลกกาแฟ ทุกวันนี้ยังถ่ายรูปตามโอกาส คั่วกาแฟ I roast coffee therefore I am ติดตามงานของเขาได้ที่เพจ Smitthi eyes