หมอนวดเมืองน่าน
interview

‘กรรมกรในร่ม’ สาวโรงงาน ร้านคาราโอเกะ และคุก –ชีวิตจริงของหมอนวดนักวิ่งสมัครเล่น

ทุกเช้า, ตีห้าเศษๆ ชีวิตเริ่มต้นด้วยการสวมรองเท้าออกไปวิ่ง

สาเหตุมาจากการมองตัวเองว่าชรา และอาการซึมเศร้ากำเริบรุนแรง

ไม่เอา, ไม่ชอบ, อยากเปลี่ยนแปลงชีวิต, สุนัน เกตุสีไพร วัยห้าสิบ บอกตัวเองว่าถึงเวลาปรับ ย้าย เดินออกมาจากโลกใบเก่า

สามสี่เดือนแรกยังวิ่งไม่ไหว เธอใช้การเดิน เดินวันละชั่วโมงสองชั่วโมงทุกเช้า กระทั่งฝ่าเท้า ปอด ระบบหายใจและระเบียบวินัยเข้าที่ ค่อยขยับมาจ็อกกิ้งช้าๆ เมื่อโควิดเดินทางมา ยิ่งเป็นแรงผลัก ส่งเสริมให้กิจกรรมเพื่อสุขภาพนี้เดินหน้า เข้มงวด เอาจริงเอาจัง

ตลอดสามปีที่ผ่านมาเธอวิ่งไม่หยุด และวางเป้าหมายใหญ่ขึ้น อยากเข้าร่วมเกมมาราธอน

ตื่นไปติดตามดูด้วยตา มองแข้งขาและอนาโตมี่แล้วก็ไม่เห็นอุปสรรค

ผู้หญิงคนนี้เกิดที่เพชรบูรณ์ จบประถมฯ ทำงานโรงงานเป็นสิบๆ ปี ก่อนจะแลนดิ้งที่งานนวด รับจ้าง แล้วพัฒนามาเป็นเจ้าของ ‘สุนัน นวดแผนไทย’

ไม่ใช่เลือดน่านแท้ๆ แต่ก็เป็นไปแล้ว
เคยติดคุก ชอบดื่มเบียร์ และแน่นอนว่าหลงใหลการวิ่ง

กรรมกรในร่ม–คำของเธอ จะมีสีสันเร้าใจแค่ไหน แม้ไม่ใช่เอฟซีหมอนวด เชิญเปิดประตูเข้ามาทัศนา

 

หมอนวดเมืองน่าน

 

นวดมากี่ปีแล้ว

ประมาณสิบกว่าปี

ชอบอะไรในอาชีพนี้ ทำไมถึงทำมาเป็นสิบปี ?

เงินดี อิสระ ได้ช่วยเหลือคน ชอบ ยิ่งเวลาคนเขาเจ็บป่วยมา เราบีบนวดให้รู้สึกผ่อนคลาย มันก็ดีต่อใจ ส่วนมากลูกค้าเป็นคนมีอายุ มีอาการเจ็บป่วย คือเราไม่ได้โฆษณาว่ารักษาหาย หน้าที่เราแค่คลายเครียด บำบัดบรรเทาความเจ็บป่วยบางอย่าง ไม่ใช่แบบที่ไปหาหมอที่โรงพยาบาล

ทำไมถึงมาเป็นหมอนวด

ไม่มีอาชีพอื่นที่ดีกว่านี้ เรียนมาน้อย ทำงานโรงงานปลากระป๋องที่สมุทรสาคร เช็กของหมดอายุ จ่ายของเข้าในไลน์ผลิต จัดซื้อ ย้ายหลายฝ่าย ทำงานใช้แรงเพราะจบแค่ชั้นประถมฯ

ที่ไม่เรียนต่อเพราะว่า..

ครอบครัวไม่มีเงิน พ่อแม่ทำนาทำสวน เขาบอกว่าจะเรียนไปทำไม เราเป็นคนบ้านนอก เดี๋ยวไม่กี่ปีก็ต้องเลี้ยงน้อง มีครอบครัว ความคิดคนแก่น่ะ เขาพูดแบบนั้น เพราะไม่มีเงินส่งเสีย ยากจน ดิ้นรนมาตลอด ไม่ได้อยู่บ้าน

พอออกจากโรงเรียนแล้ว งานแรกที่ทำคือ..

เจียพลอยที่กรุงเทพฯ ได้วันละแปดสิบบาท อยู่ห้องแถว เขามีรถมารับไปจากเพชรบูรณ์เลย สมัยก่อนแปดสิบบาท เก็บตังค์ส่งพ่อแม่ได้นะ ทำอยู่ปีสองปี ก่อนจะตามเพื่อนไปสมุทรสาคร ทำโรงงานปลากระป๋องอยู่สิบห้าปี แรกๆ ยังบูม ก็ดีอยู่ หลังๆ เล่นแชร์ แล้วล้ม เลยเสียหลัก กลับบ้านเพชรบูรณ์ แล้วไปอุตรดิตถ์ ทำร้านคาราโอเกะ มีหุ้นเล็กๆ น้อยๆ ไม่เชิงเรียกว่าเจ้าของหรอก เป็นลูกจ้างมากกว่า

ไปได้มั้ย

ก็พอได้ แต่ปี 49 มีอุบัติเหตุ เขามาเฉี่ยวชนเราแล้วเขาตาย รถมอไซค์ทั้งคู่ พรบ. หมดอายุ เขาเรียกเงินหลักแสน เราไม่มี วิ่งหาได้สี่ห้าหมื่น สู้ไปสู้มา มันไม่ไหว เลยติดคุก แปดเดือน เหมือนแปดปี …เขาขี่รถแซงซ้ายเราไป แต่มันเบียดกันมาก เลยเกี่ยวขา ล้ม หัวไถลไปไกลหลายเมตร ฟาดฟุตบาธ เลือดคั่งในหัว อีกสามวันญาติเขาโทรฯ มาบอกว่าตาย เป็นคดีอาญา เราไม่มีเงิน ไม่มีญาติพี่น้อง อุทธรณ์มาแล้วหาเงินให้คู่กรณีไม่ได้ สุดท้ายก็ติดคุกที่อุตรดิตถ์ 

ชีวิตในคุกเป็นยังไงบ้าง

เหมือนในละคร แต่คดีเรามันไม่ได้เลวร้าย ไม่ใช่อย่างพวกยาเสพติด ไม่ได้ไปฆ่าคน แต่ในคุกมันไม่มีอะไรโอเคอยู่แล้ว ห้องขนาดเดียวกับที่เรานวดอยู่นี่ นอนกัน 40-50 คน นอนเบียดกัน นั่งห้องน้ำก็มองเห็นกัน

นอนหลับมั้ย

ไม่หลับ ก็เลยอ่านหนังสือ มีเท่าไร อ่านไป เขาเปิดไฟทั้งคืน กลัวคนในห้องขังทะเลาะกัน อ่านทุกเล่ม อ่านจนตาเสีย คือมันแย่ เข้าไปใหม่ๆ มันทำใจลำบาก ชีวิตทำไมเป็นแบบนี้ นอนร้องไห้ทุกคืน แก่เพราะติดคุกนี่แหละ (หัวเราะ)

ใช้เวลานานเท่าไรถึงค่อยพอปรับตัวได้

เป็นเดือน อยู่ในนั้นไม่มีเพื่อน แต่นานไปก็มีคนซัพพอร์ทเราบ้าง เพราะไปนวดให้เขา ได้ชั่วโมงละยี่สิบบาท เพื่อจะได้ซื้อของใช้ ชีวิตตัวคนเดียวต้องดิ้นรนเอาตัวรอด ซื้อสบู่ ยาสีฟัน เพราะเราไม่มีญาติไปเยี่ยม ไม่มีใครเลย เวลาแปดเดือน อยู่คนเดียวตลอด เป็นนักโทษชั้นดี หลังๆ ผู้คุมก็เอ็นดูเราพอสมควร

วันที่ออกมาวันแรกเป็นยังไง

ไม่มีใครมารับเลย เงินก็ไม่มีสักบาท ผู้คุมให้เงินมาห้าร้อย ชื่อเกษร จำได้ วันหนึ่งอยากจะกลับไปตอบแทน เขาสงสารเรา คงเห็นไม่มีญาติ ไม่มีเงิน เราจะไปไหน กลับบ้านยังไง ยังไม่รู้ ได้เงินมาห้าร้อย ค่อยๆ คิด ตั้งหลัก แล้วไปหาเพื่อน นอนบ้านเขาคืนหนึ่งแล้วติดต่อทางบ้าน รุ่งขึ้นกลับบ้าน แม่ร้องห่มร้องไห้ นึกว่าดีใจที่เห็นเรากลับบ้าน แม่บอก น้องชายไม่ดูแลอะไรเลย เราไม่อยู่แล้วแกลำบาก (หัวเราะ) เลยไปบวชชีพราหมณ์ 9 วัน สะเดาะเคราะห์ ตั้งหลักสักพัก ผู้ใหญ่ที่รู้จักกันโทรฯ หา เขารับมาเที่ยวที่น่าน ไปกลับสองสามรอบ เริ่มเห็นช่องทาง ก็เลยมาทำงานนวด

เคยเรียน ?

เรียนตอนทำร้านคาราโอเกะ ที่ลับแล เขาเปิดสอนพิเศษ 153 ชั่วโมง เรียนประมาณสามเดือน เป็นรุ่นแรกเลยนะ เป็นโครงการสร้างอาชีพ จ้างวันละร้อย ให้ไปเรียน ดีมั้ยล่ะ นอกจากไม่เสีย ยังได้เงินใช้ด้วย ชีวิตเหมือนจะเลวร้าย แต่ก็ไม่ กลับมาดี โชคดีว่าเราคว้าโอกาส ตอนนั้นอายุเริ่มเยอะไง พอมีทางเลือกอะไร ก็เรียนไว้ มันไม่เสียหาย 

แรกๆ ก็รับพาร์ทไทม์ ทำที่ร้านคนอื่นก่อน ?

ใช่ เพราะยังมือใหม่ ไม่เก่ง ประสบการณ์ไม่มี ค่อยฝึกทำไป เป็นลูกจ้าง หมอนวดพาร์ทไทม์ เขาเรียกก็ไป ได้ชั่วโมงละร้อย ร้านละไม ลูกค้าเยอะ เขาเรียกเราไปช่วย ก็ดี เริ่มมีคนติด ลิมิตอยู่ที่สามสี่ทุ่ม ยกเว้นไปนวดที่โรงแรม นอกรอบ ทำอยู่หกเจ็ดปี ก่อนจะมาเปิดของตัวเองที่นี่ มีปัญหาเรื่องแม่ด้วย ขาไม่ดี ต้องฝึกเดิน อยู่ชั้นบน บ้านไม้ก็เสียงดังรบกวนคนอื่น ต้องย้าย อ้าว พอไปอยู่อีกที่หนึ่ง ก็มีปัญหาอีก ชีวิตมันจะได้มาที่นี่ไง ก็โอเค นอกจากนวด จุดนี้มันเป็นทำเลใกล้แหล่งท่องเที่ยว หน้าร้านว่างๆ ก็ให้เช่าจักรยาน ขายต้นไม้อะไรไปเรื่อยเปื่อย

ค่าเช่าเท่าไร

สี่พัน ช่วงโควิดงดจ่ายสองเดือน เจ้าของเขาเข้าใจ

ทั่วทั้งจังหวัดน่าน มีหมอนวดสักกี่คน

กี่คนไม่รู้ แต่มีร้านนวดสามสิบกว่าร้าน เฉพาะที่เข้ากับสาธารณสุขนะ และมีหลายกลุ่ม อย่างพวกสปา เขาก็มีหมอนวดเยอะ ร้านสุนันถือว่าบ้านๆ ไม่หรูหรา อยู่แบบนี้จะว่าลำบากก็ได้ ไม่ลำบากก็ได้ อย่างน้อยมันไม่ต้องตากแดด ไม่ร้อน ไม่ใช่รับจ้างวันละสามร้อย แต่ต้องทำให้ลูกค้าเชื่อมั่น ไว้ใจ ชีวิตกรรมกรในร่ม จะว่าสบายมันก็ไม่หรอก

นวดสูงสุดวันละกี่ชั่วโมง

ถ้าสตาร์ทเช้า คนละสองชั่วโมง ลูกค้าห้าหกคน ก็คูณไป ..เฉลี่ยราวๆ สิบชั่วโมง

ราคาตอนนี้เท่าไร

ชั่วโมงละสองร้อย ถ้าสองชั่วโมงก็คิดสามร้อย 

มีหมอนวดพาร์ไทม์มาทำงานด้วย ?

มี รอเรียกอยู่ที่บ้านเขาบ้าง ทำอยู่ร้านอื่นบ้าง

คนจะทำงานนวดได้คงต้องมีความรู้เรื่องร่างกาย อวัยวะต่างๆ พอสมควร ?

ใช่, ต้องเรียน มีวิชา มีหลักสูตร ไม่ใช่ทำมั่วๆ ถ้าเป็นอะไรขึ้นมาจะรับผิดชอบเขาไม่ไหว

มันมีอันตรายแค่ไหนยังไงมั้ย ถ้านวดผิด

ถึงชีวิตได้ เป็นหมอนวด ถ้าคุณไม่เรียนมา ไปกดผิดพลาดมันไม่คุ้ม ต้องเรียน มีความรู้ สมัยนี้ต้องมีใบประกาศฯ

เท่าที่ทำมา ร่างกายคน จุดที่มีปัญหามากที่สุดคืออะไร

ส่วนมากเป็นออฟฟิศซินโดรม คอ บ่า ไหล่ นั่งทำงานกับคอมพ์นานๆ จะปวดเมื่อย การนวดมันก็ช่วยบรรเทา แต่ถ้าไปใช้ชีวิตแบบเก่า หรือมีพฤติกรรมซ้ำๆ อีก ก็เป็นอีก พวกโรคกระดูกทับเส้น ถ้าเป็นระยะแรก นวดช่วยได้ มีสิทธิ์หาย ไม่ต้องใช้ยา แต่ถ้าปล่อยปละละเลย มันก็ไม่ไหว 

หลักๆ เป็นเรื่องคอ บ่า ไหล่ แล้วรองไป..

แข้งขา เอว ไม่แน่นอนหรอก แล้วแต่คน 

 

หมอนวดเมืองน่าน

 

หมอนวดสุนันเชี่ยวชาญเรื่องไหน

ทุกเรื่อง (หัวเราะ) หัวจรดเท้า ลูกค้าเข้ามาเขามาจะบอกว่าวันนี้เน้นฝ่าเท้า วันนี้คอ บ่า ไหล่ เราก็ใช้เวลานานหน่อยกับตรงที่เขาเจ็บ ที่บอกให้เน้น ถ้าเป็นพวกหมอนรองกระดูกต้นคอ จะแนะนำให้ไปหาหมอก่อน ตรวจเช็กให้ดีก่อน เพราะนวดยังไงก็ไม่เบาขึ้น อาจจะเบาขึ้นดีขึ้นวันเดียว เดี๋ยวก็เป็นอีก ควรไปดูก่อนว่าอาการอยู่ระดับไหน แล้วค่อยมาบรรเทากับการนวด ..ร้านนี้ลูกค้าวัยหกเจ็ดสิบขึ้น ไม่ค่อยมีวัยรุ่น

หมอนวดชอบคุยหรือเงียบๆ

ดูลักษณะคน บางคนไม่ชอบพูด เราปล่อยให้หลับไป บางคนพูดมาก ถ้ามีลูกค้าเยอะ ก็คุยเบาๆ ถ้าไม่มีใคร ก็ตามสบาย ดูลูกค้าเป็นหลัก เราทำงานบริการ จำให้ได้ทุกคน เขาชอบแบบไหน สรีระใกล้เคียง แต่การเจ็บปวดไม่เหมือนกัน การแก้ไม่เหมือนกัน เราต้องละเอียด

ชอบลูกค้าแบบไหน

คนหนุ่มสาว เพราะคนอายุเยอะ เราต้องระมัดระวังมาก อันตราย กระดูกกระเดี้ยเขาไม่ค่อยดีแล้ว เกิดผิดพลาดมันลำบาก แต่จริงๆ คือได้หมด รับได้ทุกเพศทุกวัย

ที่บอกว่าอันตราย เคยทำอะไรผิดพลาดบ้างมั้ย

ไม่เคย แต่เพื่อนๆ ก็มีบ้าง

ถึงขั้นไหน

เลือดออกปาก นวดแล้วความดันขึ้น หรือบางทีเส้นเลือดฝอยข้างในแตก นวดไปๆ บวม เอายาหม่องทา มันจะแดงและบวมขึ้นเรื่อยๆ ถ้าไม่ประคบเย็น ยิ่งไปกันใหญ่ ต้องส่งโรงพยาบาล เคยมี อยู่ร้านเก่าก็มี หมอนวดนั่งสั่นเลยแล้วกัน กลัวเขาจะเอาเรื่อง

ถึงขั้นตายคามือไม่มีนะ ?

ไม่มีๆ มีแต่ป่วยมาเจ็บมาแล้วหายคามือ 

ชอบนวดผู้ชายหรือผู้หญิงมากกว่า

ทั้งสอง รักเสมอกัน และมันอยู่ที่สรีระของคน อ้วน ผอม ไม่แน่ อ้วนบางคนก็นวดง่าย บางคนเกร็ง เขาไม่เคยนวด

โจทย์ไหนยากสุด

ลูกค้าเขิน เกร็ง ต้าน กล้ามเนื้อต้านเรา หรือคนเนื้อนิ่มๆ แล้วเขาให้นวดหนักๆ เน้นๆ อันนั้นงานหินเพราะเส้นอยู่ลึกติดกระดูก ต้องใช้แรงเยอะ ไม่งั้นเขาไม่รู้สึกผ่อนคลาย คนตัวใหญ่บางทีก็นวดง่าย ไม่แน่นอน

ใช้แรงเยอะ ?

เยอะ นวดจบก็เรียกว่าเหนื่อยอยู่ แต่ต่อรวดเดียวได้ห้าคน ต่อยาวๆ ได้ แค่พักกินลูกอมสักเม็ด หาย เอาความหวานเข้าตัว (หัวเราะ) ข้าวไม่ต้องก็ได้ ขอลูกอมสักเม็ดหรือกล้วยสักลูก 

สิบชั่วโมงต่อเนื่องไม่ธรรมดานะ ?

ตอนนี้ยังหนุ่มอยู่ (ภาษาน่าน หนุ่มใช้เรียกทั้งหญิงชาย) ถือว่าหนุ่ม ยังได้อยู่ อีกหน่อยอาจไม่ได้แล้ว อายุเริ่มเยอะ

งานที่ถูกเนื้อต้องตัว หรืออยู่กับชายสองต่อสอง ถือว่าอันตรายมั้ย

ไม่ แต่อาจโดนลวนลามเล็กๆ น้อยๆ มีบ้าง กับบางคน คนเรามันไม่เหมือนกัน มี พวกชอบพูดแทะโลม แล้วเราไปพูดกำกวมกับเขา แบบนี้มีสิทธิ์ คำพูดวาจานี่สำคัญ ไปที่เสี่ยง อย่างโรงแรม อยู่กันสองคน ไม่มีใครเลย ไม่เสี่ยงเท่าคำพูดลักษณะส่อ

ประสบการณ์สิบกว่าปี เคยเจอมาร้ายแรงแค่ไหน

แค่จับนิดๆ หน่อยๆ ..ไม่ถือ (หัวเราะ)

มีวิธีแก้ปัญหาหรือเอาตัวรอดยังไง

ใช้กลยุทธ์วิชาชีพ ทุกส่วนของร่างกาย เราเป็นหมอนวดใช่มั้ย บางที ขอโทษนะคะ เอาตีนเหยียบไว้ ใช้หัวเข่าทับไว้บ้าง เพราะลูกค้าชายบางคนที่คิดไม่ซื่อ ถ้าเราปล่อยหรือดัดบางท่า เขาเอามือมาจับข้างหลังเรา จับก้น ลูบขาก็มี 

แล้วทำไง

เรามีเทคนิคการทับ ไม่ให้เขาดิ้น โดยรวมถือว่าน้อยมาก ไม่มีปัญหา หรือเราแก่ก็ไม่รู้นะ (หัวเราะเสียงดัง) เลยไม่เจอ หน้าตาอย่างนี้ เขาเลยไม่นึกอยาก (หัวเราะ)

เคยมีมั้ย นวดไปแล้วรู้สึกได้ว่าผู้ชายเริ่มต้องการขึ้นมา..

มี ถ้าเจอก็จะบอกเขา ว่าอย่าทำร้ายหมอ ต้องการอะไร คุณไปหาที่อื่น ปล่อยหมอไปเถอะ คุยกันตรงๆ แบบนี้ รู้เรื่อง ไม่เคยเจอคนคุยไม่รู้เรื่อง ส่วนใหญ่สุภาพ ถึงบอกว่ามันอยู่ที่ท่าที การพูดจา ถ้าพูดสองแง่สองง่าม มันก็เสี่ยง โดยประสบการณ์ การใช้กำลังบังคับข่มขืนไม่มี ไม่เคยเจอ

ก็ไม่ถือว่าเป็นงานอันตราย หรือสุ่มเสี่ยงนัก ?

ไม่ๆ เราว่าเป็นอาชีพที่โอเค หาเงินได้ เดือนหนึ่งสองสามหมื่นนะ ถ้าเศรษฐกิจดีๆ ก็สามหมื่นขึ้น ดีกว่าข้าราชการชั้นผู้น้อย แต่เราต้องทำงานให้ดี วางตัวให้เหมาะสม การเทคแคร์ต่างๆ ทุกขั้นตอน แม้แต่คำพูด เราต้องใส่ใจ จำลูกค้าให้ได้ คนนี้ชอบแบบนี้ๆ บางคนชอบแรง ชอบเบา แค่ลูบเบาๆ พอ มันแล้วแต่บุคคล สรุปคือเราต้องละเอียด

นวดมาแล้วสักกี่คน

โอ้ นับไม่ถ้วน ทั้งหญิงชาย ผ่านมือมาเยอะ (หัวเราะ) ผ่านผู้ชายมาเยอะ ตายไปแล้วก็มี เขามีอายุเนาะ ถึงเวลาก็ต้องไปตามวิถีคนแก่

ถึงพันคนมั้ย

น่าจะเลย วันละห้าหกคน ..เยอะอยู่นะ ทำเป็นอาชีพจริงจังมาสิบห้าปี เปิดร้านเองที่นี่ห้าหกปี ใหม่ๆ ยังใช้ที่นอนปิกนิก แอร์ไม่มี ลูกค้าก็ตามเรามา เราเลี้ยงแม่ด้วยไง ลำบาก เงินทองไม่มี เขามาช่วย พวกขาประจำ ลูกค้าทุกคนถือว่าเป็นผู้มีอุปการะคุณ สามวัน กลับมานวดครั้งหนึ่ง บางคนอาทิตย์ละครั้ง มีหลากหลายกลุ่ม ทีแรกนึกว่าไม่ถึงห้าสิบ นี่เกือบร้อยแล้วนะ ลูกค้าประจำที่หมุนเวียนมา ก็โอเค ..ปีนี้จัดโปรฯ นวดสิบครั้ง แถมครั้งหนึ่ง เลยรู้ว่ามีคนเยอะ

ใครคิดระบบโปรฯ

คิดเอง สมัยเราลำบาก เขาตามมาช่วย ทุกวันนี้เริ่มสบายขึ้นมา ไม่มีภาระ ก็จัดโปรฯ คืนให้เขาไป เรานวดเอง เป็นเจ้าของ บางทีแจกแถมเวลา ทำให้เกิน ไม่ซีเรียส เหมือนพี่ๆ น้องๆ ถ้าหมอนวดพาร์ทไทม์เขาจะตรงเวลา เพราะต้องไปที่อื่นต่อ

แบ่งยังไง

นวดสองชั่วโมง ได้สามร้อย เขาเอาสอง เราหักร้อยนึง แต่ถ้าชั่วโมงเดียว เขาเอาร้อย เราร้อย มีติ๊ป ให้หมอเขาไปทั้งหมด น้ำมัน หยูกยา ค่าน้ำไฟ เราจ่าย ..พออยู่ได้ค่ะ เฉลี่ยๆ ไป เอาเยอะกว่านั้นคงไม่ไหว ลำบากกันหมด

 

หมอนวดเมืองน่าน

 

โควิดกระทบเยอะมั้ย

ปิดร้านไปสองเดือน รัฐบาลช่วยมาหมื่นห้ามั้ง หลังจากนั้นเปิด ระมัดระวัง ทำตามนโยบาย เขามาตรวจเป็นระยะ ..ก็กังวลบ้างทุกวันนี้ โชคดีเรายังไม่ติด แข็งแรง ออกกำลังกายทุกเช้า ไปวิ่งที่บ่อบำบัดประมาณสี่ห้ารอบ ให้ระบบปอดทำงาน หายใจดี จ็อกกิ้งเบาๆ เต้นไปด้วย ทีแรกก็อายเขา เดี๋ยวนี้ไม่อายแล้ว ตีห้ากว่าๆ ตื่น ไปวิ่งคนเดียว แต่มีเพื่อน เจอกันบ้าง หมอนวดด้วยกัน ดูแลสุขภาพ ไม่งั้นจะไม่มีแรงสู้ ช่วงนี้อันตราย

ถือว่าพอเอาตัวรอดมาได้ ?

ก็เดือดร้อน แต่ไม่เยอะ พอได้ค่ากินค่าอยู่ ค่าน้ำค่าไฟ แต่ไม่มีเก็บ

กลับมาปกติหรือยัง

ยัง จะแย่ลงอีกมั้ยไม่รู้ บ้านเรา คนน่านติดเยอะ ลูกค้าบางคนกลัว เราพยายามสื่อสารว่าใครเสี่ยง ดูแลตัวเองหน่อยนะ รับผิดชอบต่อสังคม ต่อตัวเอง ถ้ารู้ว่าเสี่ยง อย่ามา เพราะที่นี่ก็เสี่ยงอยู่แล้ว คือเราไม่เป็นอะไร แต่ถ้าคุณภูมิตก คุณอาจติดจากที่นี่ไปได้ ถึงเราไม่เป็น แต่บางคนภูมิไม่ดี มันพลาดได้ ซึ่งส่วนใหญ่เขาก็รู้กัน ลูกค้าประจำส่วนมาก ต่างจังหวัดหรือนักท่องเที่ยวไม่ค่อยมีอยู่แล้ว ช่วงนี้

ที่ว่ายังไม่ปกตินี่คือลดลงไปสักเท่าไร

ห้าสิบเปอร์เซ็นต์เลยมั้ง ยังไม่ดีง่ายๆ หรอก ..รออยู่ ถ้ากลับมาดีเมื่อไร เรื่องเบียร์นี่ไม่ต้องถาม (หัวเราะ)

ดื่มมานานเท่าไรแล้ว

ประจำ ได้เรื่อยๆ แต่ตอนทำโรงงานยังไม่ดื่ม ไม่มีเวลา ไม่มีเงิน ประสบการณ์ชีวิตเลวร้ายมาเยอะ แต่สอนให้เรารู้เยอะ 

ขอโทษ ทุกวันนี้โสด หรือว่าเคยแต่งงานมามั้ย

ไม่มี.. โฉด แต่ไม่สนิท (หัวเราะ) โสด ไม่สนิท 

ยังไง..

โสด แบบมีแมงเจาะบ้าง แต่ยินดีให้เจาะเพราะอยากเรียนรู้ ชีวิตมันต้องหลายรสชาติ ร้องไห้อย่างเดียวไม่ได้หรอก มันต้องมีหัวเราะบ้าง ร้องไห้มาเยอะแล้ว

ดื่มเวลาสุขหรือเศร้า

ได้หมด แต่เรามีลิมิตของตัวเอง

อาทิตย์ละกี่ครั้ง

ช่วงนี้เหรอ ? ทุกวัน (หัวเราะ) วันละขวด ดื่มคนเดียว เลิกงานแล้วเปิดเพลงเหมือนอยู่ในร้านเหล้าคนเดียว ชอบปลีกวิเวก มีเพื่อนเป็นบางครั้งเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดความรู้ คนเราอยู่คนเดียวไม่ได้ ต้องมีเพื่อนบ้าง จะได้อยู่ในโลกแบบมีประสบการณ์ อยู่คนเดียวอันตรายกับความคิดตัวเอง 

ตอนนี้ชอบโดดเดี่ยว ปลีกวิเวก แล้วตอนวัยรุ่นเคยมีช่วงที่ติดเพื่อนมั้ย

มีน้อย เพราะทำแต่งาน ค่ำลงก็ทำโอฯ ถึงบ้าน นอน ตื่นไปทำงาน ชีวิตมีเท่านี้ เลยไม่ค่อยมีเพื่อน หนุ่มยังไม่มีคุยเลย เพราะที่โรงงานก็มีแต่พม่า

ไม่ชอบหนุ่มพม่าบ้างเหรอ

เขาพูดคนละภาษา

แล้วตอนทำร้านคาราโอเกะ..

ไม่มี ชีวิตมันไม่ดี ..เคยมี บางเช้า ตื่นมากินเก้าขวด เบียร์ขวดเล็ก บางทีมียาเสพติดด้วย 

กินตอนเช้าเก้าขวด ?

ก็ถอนไง (หัวเราะ)

แล้วยาเสพติดที่ว่าคืออะไร

ยาบ้า

การที่คนคนหนึ่งเดินไปหายาบ้านี่มันเพราะว่าอะไร

ไม่ได้เดินไปหา มันเดินมาหาเรา เพราะเราอยู่ในกลุ่มนั้นพวกนั้น เพื่อนมันให้ช่วยเก็บ เราแค่ลอง ไม่ได้ติด ลองแล้วชีวิตไม่เห็นมีอะไรดีขึ้นมา ก็จบ ไม่เอา ของไม่ดี ไม่เอา ลองแล้ว พอ ไม่มีประโยชน์ บุหรี่ก็เคยดูด เดี๋ยวนี้ไม่เอา เหม็น ที่ดูดเพราะเข้าผับไง ไปเย้วๆ กับเขา เห็นหน้าตาแบบนี้ก็เคยเข้าผับนะคะ (หัวเราะ)

ตอนนี้คือเหลือแค่เบียร์ ตกเย็น เลิกงาน เอาสักขวด ?

ใช่, ทุกวันนี้ถือว่าสบายใจ ไม่มีใคร เป็นผู้หญิงตัวคนเดียว พ่อแม่ไม่อยู่แล้ว มีแต่น้อง และเขาก็มีครอบครัว หากินของเขา เราคอยซัพพอร์ทห่างๆ โทรฯ มาทีไร สะดุ้งทุกที กระเป๋าดิ้น (หัวเราะ)

ร้านนี้เช่าอยู่ แล้วที่น่านนี่คืออยู่ตรงนี้ เท่านี้ หรือว่ามีที่ดินตัวเองอยู่นอกเมืองด้วยหรือเปล่า

มีโครงการ แต่ยังไม่มีตังค์ ชอบเมืองน่าน อยากมาอยู่เมืองน่านถาวรเพราะคนใจดีเยอะ น่ารัก ไม่อยากกลับเพชรบูรณ์ ที่โน่นเราไม่มีใครเลย ไม่มีสมบัติพัสถาน เราทำงานที่นี่ เปิดร้าน ก็อยากสำรองไว้ ถ้าวันหนึ่งเกิดน้องไม่มีทางไป ก็มาอยู่กับเราได้ เราจะสอน บอกหนทางทำกิน ..อยากปักหลักที่น่านนี่แหละค่ะ คนเดียวก็ได้ มีคู่ก็ดี วางแผนทำธุรกิจที่นี่ อยากซื้อที่ไว้ทำกิน เราตัวคนเดียว สบายๆ อิสระเสรี อยากดื่ม อยากเที่ยว พักงาน ไปได้

สัปดาห์หนึ่งหยุดกี่วัน

ไม่หยุด นอกจากมีธุระจำเป็น ..หยุดก็ขาดรายได้

มันเป็นยังไง ชีวิตผู้หญิงตัวคนเดียว ไม่มีครอบครัว ?

แฮปปี้ (หัวเราะ) เหงาเป็นบางครั้ง แต่เช้ามาไปวิ่งก็หายแล้ว ช่วงเหงาๆ เราจะไม่อยู่คนเดียวเยอะ หากิจกรรมทำ พยายามปรับอารมณ์ตัวเอง โดยรวมไม่ถึงกับว้าเหว่ เหงานิดนึง ธรรมดา เหมือนทุกๆ คน โชคดีเราไปไหนมาไหน ทำอะไรคนเดียวได้หมด เวลาคุยกับใครที่อยู่คนเดียวก็เชียร์กัน อยากให้คนที่ต้องอยู่คนเดียวแข็งแกร่ง เก็บประสบการณ์ที่ไม่ดีเป็นครู แต่เราไม่กอดมันไว้ เลือดกอดแต่สิ่งดีๆ สิ่งไหนไม่ดี ทิ้งไป ความทุกข์มันคือหนาม กอดแล้วเจ็บ กอดแล้วเหนื่อย กอดหมอนข้างหรือกอดตัวเองน่ะดีที่สุด

 

หมอนวดเมืองน่าน

 

พูดได้มั้ยว่ารักอาชีพหมอนวด

รัก ถ้าไม่มีอาชีพนี้นี่แย่เลย ดีใจที่ได้ไปเรียนมา ขอบคุณโชคชะตา ฟ้าหลังฝนเป็นแบบนี้ 

ที่ว่ารักคือยังไง

ทำให้ลูกค้ามีความสุข ทำให้คนหายเจ็บป่วย มันแฮปปี้ มันโอเค เวลาเรานวดแล้วเขาเบา โล่ง ผ่อนคลาย เรารู้สึกดี คือดีต่อใจเราเลย มันเป็นอาชีพที่.. เท่าที่ทำมาหลายอย่าง มันสู้อาชีพนี้ไม่ได้ เพราะเรามีใจรัก ทุกงาน ถ้ามีใจคือแฮปปี้ แต่เราแฮปปี้กับงานนี้มากที่สุด

คิดว่าจะนวดไปถึงเมื่อไร

จนกว่าไม่มีแรง ถ้ายังแข็งแรงแบบนี้ ร่างกายยังไหว น่าจะทำได้ถึงเจ็ดสิบ เคยเห็นหลายคนทำได้ เจ็ดสิบกว่า ยังทำงานอยู่สบายๆ เมื่อก่อนหมอนวดส่วนใหญ่เป็นคนแก่ ตอนหลังหนุ่มสาวเยอะ บางคนมาทำเพราะคิดอยากไปประเทศนอก เงินมันดีด้วยไง

เคยคิดไปนวดต่างประเทศเหมือนคนอื่นๆ มั้ย

ไม่เคยอยู่ในหัว มีคนเคยถามว่าทำไมไม่ไป โถ.. จะไปยังไง อายุรุ่นนี้แล้ว และอยู่ที่นี่ อยู่บ้านเมืองเรา ถ้าขยัน อยู่กินได้สบาย ผลหมากรากไม้เต็ม กับข้าวกับปลาทำกินเองได้
ชอบทำกับข้าว

สนุกกับอาชีพอยู่ ?

ใช่, ได้เจอผู้คนมากหน้าหลายตา ได้เจอคนที่มีความรู้ คนมานวดเขามีความรู้กันหมดเลยนะ ชาวไร่ชาวนาก็มี และต่างคนต่างแลกประสบการณ์ เราเป็นคนฟัง ฟังมากก็มีประสบการณ์ เก็บสิ่งดีๆ มาใช้กับชีวิต หมอนวดคนอื่นๆ ไม่รู้นะ แต่สุนันทำแบบนี้มาตลอด และมันโอเค ฟังเขาแล้วเราเอามาปรับใช้

ไม่เบื่อกับการเจอคน ?

ถ้าเบื่อเจอคนก็แย่ เราจะหากินยังไง เบื่อคน เราจะหาเงินที่ไหน อาชีพนี้เบื่อคนไม่ได้

ร้อยพ่อพันแม่ ปรับได้ รับได้หมด ?

ช่วงที่เรามีอะไรในใจ หรือเป็นทุกข์ มันก็มีเสียเซลฟ์บ้าง แต่เราจะไม่แสดงกิริยาที่มันน่าเกลียดออกมา เราอยู่กับลูกค้าแค่สองชั่วโมง แล้วก็จากกันไป พยายามเทคแคร์ให้ดี สิ่งในใจที่ไม่โอเค เดี๋ยวก็จบ ..เคยมีน้องๆ มาฝึกงาน สอนเบสิก เราบอกเขาว่าอาชีพนี้ดีนะ ถ้ามีใจรัก อาชีพไม่น่ารังเกียจ เมื่อก่อนคนอาจมองว่าเป็นหมอนวด ดูไม่ดี มีเมียเป็นหมอนวด ไม่ดี เดี๋ยวนี้คนเปลี่ยนทัศนคติใหม่ รายได้ดี เขาโกอินเตอร์แล้ว

เป็นงานที่กึ่งๆ แพทย์ ?

เรียกว่าผู้บำบัดดีกว่า เราไม่ใช่แพทย์ แค่เป็นหมอนวด เป็นผู้บริการช่วยให้ผ่อนคลาย เรื่องสายตาคนมอง มันอยู่ที่การกระทำของหมอนวดแต่ละคนด้วย แต่เปลี่ยนไปเยอะ ตอนนี้ใครมีเมียเป็นหมอนวดก็ถือว่าโชคดี (หัวเราะ) 

เป็นหมอนวด แล้วเสพติดการนวดมั้ย ต้องใช้บริการหมอนวดคนอื่นๆ ?

ก็มี เดือนละครั้งสองครั้ง เพื่อคลายกล้ามเนื้อ ทำงานทุกวัน แขนกับขาจะเท่ากันอยู่แล้ว

มีวิธีเลือกหมอนวดแบบไหน

ดูว่าใครนวดแล้วมันรู้สึกถูกคู่กัน เหมือนเรากับลูกค้านั่นแหละ จะให้ถูกใจเสมอทุกคนไม่มีหรอก แต่ละคนมันชอบคนละอย่าง น้ำหนักมือไม่เท่ากัน

สุนันสไตล์นี่คือยังไง

ได้หมด (หัวเราะ) เบา แรง ร็อก หมอลำ ได้หมดทุกท่า จะเอาแบบคุณนายคุณหญิง หรือเอาแบบไหน ขอให้บอก

ทำงานใช้มือตลอดเวลาแบบนี้ ดูแลมือยังไงบ้าง

รีดน้ำมันเรื่อยๆ ไม่งั้นมันจะแข็ง กระด้าง ต้องบริหาร วอร์มมือ ทำทุกเช้า ดูแลความสะอาด ดูเล็บมือ เวลาโดนคนจะได้ไม่เจ็บ ไม่มีบาดแผล มือต้องไม่แข็ง ..ความแข็งแรงของมือหมอแต่ละคนไม่เหมือนกัน เทคนิคแต่ละคนก็ไม่เหมือน หมอนวดทุกคนที่เขายืนหยัดอยู่ได้ แปลว่าต้องดูแลตัวเอง เพราะเราทำงานกับคน

ปัญหาของอาชีพนี้คืออะไร

น้อยนะ ..มีแค่บางทีลูกค้ามาถึง อยากนวดตอนนี้ เดี๋ยวนี้ เขารีบ และบางทีเราติดงานอยู่ เขาไม่ค่อยรอ ถ้าเราไม่มีหมอในมือ ใจเริ่มเต้น โทรฯ ไป บอกสิบห้านาที จะมาตรงเวลามั้ย ..ก็พยายามบอกให้ลูกค้าเปลี่ยนเสื้อผ้ารอเลย กลัวเขาจะไป (หัวเราะ) เปลี่ยนผ้ารอเลยค่ะ ไม่งั้นเขาหนี ต้องให้เขาถอดกางเกงไว้ก่อน

มีชุดให้เปลี่ยน ?

มีค่ะ แต่บางคนเตรียมพร้อมมาแล้ว กางเกงหลวมๆ ก็ไม่มีปัญหา ปิดม่าน จบ บางคนไม่ยอมให้ปิดม่าน เขาจะคุยกัน คนไทยเราก็แปลก ถ้าคุยไม่เห็นหน้า คุยไม่ได้ นี่เรื่องจริงนะ ต้องเห็นหน้า ปิดม่านไม่ได้ ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยว มาเป็นกลุ่ม นวดไป คุยกันไป

ปกติร้านปิดกี่โมง

สองทุ่ม แต่ถ้าโทรฯ มาตอนหนึ่งทุ่ม เรารับ ก็จบเคสสามทุ่ม เช้า เขียนว่าเปิดแปดโมง แต่ช่วงนี้สุนันรับสิบโมง เพราะไปออกกำลังกาย กลับมาทำความสะอาด เราอยู่คนเดียว ทำเองทุกอย่าง

ไปนวดนอกสถานที่ ราคาต่างกันมั้ย

ราคาเดิม แต่ถ้าไปโรงแรมจะอีกราคาหนึ่งคือ สองชั่วโมง หกร้อย เอาว่าหมอนวดต้องได้อย่างต่ำห้าร้อย ถึงจะคุ้ม นวดดี ไม่ดีไม่รู้ แต่ถือว่าประกันความเสี่ยง เพราะมันก็อันตรายบ้าง ไม่รู้คนอื่นคิดยังไง ช่วงนี้ไม่ค่อยได้ถามใคร ไม่ค่อยมีด้วยมั้ง เรียกไปโรงแรม โควิด ลูกค้าไม่กล้าเรียกหมอนวด

ทุกวันนี้มีความหวัง ความฝันอะไร

ซื้อที่ทำธุรกิจ ไม่ต้องเช่า เก็บกินไป เหงาก็เที่ยว ดื่ม เข้าวัด เข้าป่า ..วัดก็เข้า เหล้าก็กิน (หัวเราะ) ไม่มีอะไรมาก ทุกวันนี้ถือว่าสุขภาพดี ทำธุรกิจได้ ความคิดเปิดกว้าง นานๆ เสียศูนย์บ้าง ธรรมดา ทำงานของเราไป

มีเคสประทับใจมากๆ บ้างมั้ย

ไม่มี กับลูกค้า เราเสมอกันทุกคน ชาวไร่ชาวนา ไม่แบ่งแยก บางคนเป็นผู้ใหญ่มียศตำแหน่ง จบดอกเตอร์ คุยกับเรา ไม่ถือตัว ก็ดี บางคนถือตัว เราต้องวางระยะห่างให้ถูก เพราะงานแบบนี้มันไม่ผูกพันกันนาน แค่ช่วงสั้นๆ ผ่านแล้วผ่านไป หน้าที่ของเราคือสองชั่วโมง ทำตรงนั้นให้ดี จบ.

 

 

nandialogue

 

nandialogue

เรื่องและภาพ: วรพจน์ พันธุ์พงศ์

You may also like...