editor nandialogue
the editor

การคุยกันทำให้ชาติเจริญ

แจ้งข่าว ชวนมางานเปิดตัวสื่อใหม่ nan dialogue 27 Nov.

‘คนต้องมีบ้าน ข่าวสารต้องการที่อยู่อาศัย’

 

รุงรังรบกวนจิตใจอยู่ตลอด ตั้งแต่รู้ข่าวข้าวกิโลฯ ละ 7 บาท ขณะราคาน้ำมันพุ่งขึ้นไปลิตรละ 30 กว่าบาท

คนกลุ่มหนึ่งเฮ เมื่อ ปตท. ทำกำไรในไตรมาสสาม 8 หมื่นกว่าล้าน

ชาวนาที่จังหวัดน่านบอกข้าวหนึ่งกิโลฯ ของพวกเขา มีค่าเท่าราคามาม่าซองเดียว

คับแค้นและเจ็บปวดมาตลอด เรื่องข้อเสนอของคนหนุ่มสาว ว่าด้วยการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ ซึ่งถูกรัฐตอบแทนด้วยคุก คุก คุก และกระสุนปืน เราเห็นอะไรบ้างจากปรากฏการณ์นี้ นอกจากคนแก่หวงสมบัติ ขัดขวาง ปิดป้อง ทำลาย สายลมของการเปลี่ยนแปลง

ชราหลงเลือนออกปานนั้น เสื่อมโทรมทรงทรุดปานนั้น ฝืนทวนเข็มนาฬิกาโลกอารยะปานนั้น คุณคิดว่าจะประวิง ผัดผ่อน เลื่อน ไล่ไปได้สักกี่น้ำ ไหวเหรอ กับการใช้ความศักดิ์สิทธิ์สูงส่งที่ไม่เคยมีอยู่จริง ปะทะกับความจริงของยุคสมัย

แน่ใจนะว่าไหว เปลี่ยนใจได้นะ

เฮ้ย อดีตจอมปลอมที่คุณเคยชินกับการอวดอ้างมันมอดไหม้ไปนานแล้ว รู้จักแหกตาก้มลงมองดูปัจจุบันซะบ้าง เดินออกไปจากห้องสีทองชุบหน่อย เออๆ เดินดีๆ ระวังเด็กมันจะวิ่งชน

ไม่ค่อยมีข่าวสารที่ดีให้ชื่นใจบ้างเลย สองปีที่ผ่านมา

ทั้งฝ่ายผู้ถืออำนาจนำในการเมืองไทย และโควิด ทั้งสองสิ่งพร้อมใจกันโหมซัดทุบตีผู้คนในทุกองคาพยพ หลายคนที่เคยแข็งๆ ถูกสองแรงวิกฤตินี้ประหัตประหาร จนแทบยืนไม่อยู่ ไม่ว่าในเชิงเศรษฐกิจและผลสืบเนื่องต่อจิตใจ
ไม่มี เท่าที่พยายามนึกและสอดส่องมองหา เรายังมองไม่เห็นปัจจัยบวก

โควิด (และการบริหารจัดการที่ห่วยนรกแตก) เผาไหม้ความมั่นคงเดิมๆ เหี้ยนเตียน ฝ่ายผู้ถืออำนาจนำในการเมืองไทยยกเท้ากระทืบซ้ำ ทำลายอนาคตประเทศอย่างเลือดเย็น ผิดมนุษย์มนา

เราจะอยู่กันอย่างไร
เราพอจะลงมือทำอะไรกันได้บ้าง

เสนอร่างแก้รัฐธรรมนูญจากเสียงประชาชนเรือนแสน ถูกคนจำนวนสามสี่ร้อย (ภายใต้นายเหนือหัวไม่กี่คน) ปัดทิ้ง และดูหมิ่นหยามเหยียดเจ้าของอำนาจแท้จริง

ศาลสถิตยุติธรรมสะกดคำว่า ‘ยุติธรรม’ ไม่ถูก ด้วยว่าพวกเขาสมาทานอุดมการณ์ศักดินา และไม่เคยพิพากษาในนามมหาชน

นายกรัฐมนตรี เจ้าของใบหน้าเดียวกันกับคนทำรัฐประหาร ทำผิดอยู่โต้งๆ แต่ไม่เคยต้องรับผิด วันๆ ลอยหน้าลอยตาและขยันโชว์ความโง่เขลาในดีกรีที่เหลือเชื่อว่ามนุษย์ผู้หนึ่งจะโง่งมและไร้รสนิยมได้ขนาดนี้

เราจะอยู่กันอย่างไร
เราพอจะลงมือทำอะไรกันได้บ้าง

ผมก็เหมือนคุณนั่นแหละ คือเหนื่อยหน่ายเต็มที อุตส่าห์ร่ำเรียนหนังสือ ทำการทำงานกันมาร่วมสามสิบปี ณ ขณะวันเวลาที่ควรจะเป็นโอกาสเก็บเกี่ยว เบิกบานกับชีวิต กลับกลายมาถูกผีห่าซาตานขับรถถังออกมาปล้นชิง

ปล้นเสร็จ พวกมันนั่งเก้าอี้ ชี้นิ้วอบรมจริยธรรมเราอีก

เหี้ยได้ใจจริงๆ

ในความรุงรังรบกวนจิตใจ ในความคับแค้นเจ็บปวด ผมกับเพื่อนสองสามคนคุยกัน และตัดสินใจทำ nan dialogue ‘สื่อใหม่ รายสัปดาห์ สัมภาษณ์คนน่านทุกสาขาอายุ’ เริ่มออนไลน์ครั้งแรก ต้นเดือนสิงหาคม ที่ผ่านมา

ถามว่า มันช่วยให้ราคาน้ำมันลดลงหรือเปล่า, ไม่ใช่แน่นอน ถามว่า มันช่วยให้ข้าวราคาสูงกว่ามาม่าหนึ่งซองใช่มั้ย, ย่อมไม่ใช่ และยิ่งไม่ใช่, ไม่ช่วยให้คนตายจากความรุนแรงของรัฐฟื้นคืนชีพ ไม่ช่วยให้ ‘ผู้พูดความจริง’ หลุดพ้นจากเรือนจำ และไม่มีอำนาจใดทำให้ผู้ลี้ภัยการเมืองได้กลับบ้าน

nan dialogue เป็นเพียงเสียงกระซิบ หรือบางทีเอะอะกู่ตะโกน เสียงของข่าวสารท้องถิ่นที่ตอกย้ำว่า ประเทศไทยไม่ใช่แค่กรุงเทพมหานคร

จะเรียกว่าเป็นสำนักข่าว สำนักคุย อะไรก็ช่าง เราตั้งใจเปิดพื้นที่ใหม่ขึ้นมา พยายามฟังเสียง บันทึกเสียง และกระจายเสียงของประชาชน เสียงคนน่าน สู่หู สู่ตา สู่สากล

อำนาจบริหารการเมืองกระจุก หากเป็นไปได้เราอยากเป็นส่วนหนึ่งของการกระจายอำนาจทางข่าวสาร สร้างสนามทางความคิดความเชื่อความสงสัยใคร่รู้ที่หลากหลาย

กินแครอทอย่างเดียว โตไปอาจเป็นกระต่าย คำถามและความหลากหลายเท่านั้นที่ทำให้คนเป็นคน

แม้ในความรักต่อวิชาชีพ แต่ nan dialogue เกิดจากความโกรธ เราจะไม่ทนกับการถูกทำให้เงียบ ถูกทำให้กลัว ถูกทำให้จมอยู่ในความมืด จะไม่ประนีประนอมกับการถูกโจรปล้นชิงเวลา ความสุข และทุกโอกาสของชีวิต

สามเดือน ใกล้ๆ จะครบสี่เดือนผ่านไป เรามีเพื่อนพี่น้องหลายคน ไม่ว่า หนุ่ม หนังสือเดินทาง, จ๊อก พะงัน, ปรีดี หงษ์สต้น มาช่วยคิดช่วยเขียน (และเร็วๆ นี้ เตรียมพบกับ วัฒน์ วรรลยางกูร) ขอบคุณทุกคน มือทุกมือ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แหล่งข่าวผู้ให้สัมภาษณ์ ที่ช่วยกันบอกเล่าความปกติ ยืนยันศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ที่มีสิทธิเสรีภาพการพูดคุย ถกเถียง วิพากษ์วิจารณ์

nan dialogue เกิดจากความโกรธ รากของมันคือความอึดอัด ไม่พอใจ กับภาวะไร้พื้นที่ ไร้สิทธิและเสียง สิ่งนี้คือแรงผลักให้เราสลัด ลดเลิกความเหนื่อยหน่าย รวบรวมสติสมาธิตั้งโต๊ะเจรจา เราเชื่อของเราเหมือนเดิมแหละว่ามีอะไร คุยกันดีกว่า

มันคงไม่ง่ายนัก ที่จะเปลี่ยนจากโกรธเป็นกอด

แต่เรามองไม่เห็นวิธีอื่นจริงๆ นอกจากเปิดพื้นที่ สร้างเวทีสื่อสาร แลกเปลี่ยน นี่คือการงานของเรา

นั่งลงที่โต๊ะเก้าอี้ชุดนี้สิ และเล่าเรื่องของคุณ

เสาร์ที่ 27 พฤศจิกายน 2021 เจอกันที่ห้องสมุดบ้านๆ น่านๆ ครับ.

 

nandialogue

 

ปล. 1 งานส่วนใหญ่ของ nan dialogue จะแชร์ไว้ในเฟซบุ๊ก worapoj panpong แต่เพื่อไม่ให้หลุดหลงตกหล่น ฝากผู้อ่านที่สนใจการงานของเรากดติดตามได้โดยตรงที่เว็บไซต์หรือแฟนเพจ nan dialogue

2 วันงานเปิดตัว นักเขียนนักดนตรี ธีร์ อันมัย ขวัญใจแม่ยกเมืองน่าน จองตั๋วเรียบร้อยแล้ว พร้อมเดินทางไกลมารับหน้าที่ภาคบันเทิงครบรสเหมือนเดิม

 

เรื่อง: วรพจน์ พันธุ์พงศ์

You may also like...