the letter

ฤดูแดด

พี่หนึ่งครับ

แดดจัดจนแสบตา อาคารตึกรามใดๆ ที่หุ้มด้วยวัสดุสะท้อนแสงหรือสีอ่อน เมื่อถูกแสงแดดหน้าร้อนใกล้เส้นอาร์กติกทาบทับ มันจะสะท้อนสว่างจนแทบจะมองไม่เห็นเลยทีเดียว

พร้อมๆ ไปกับอาการคันหู คันตา คันจมูก อาการจามซ้ำๆ จากการแพ้เกสรของหลากหลายต้นไม้ โดยเฉพาะต้น björk น้ำหูน้ำตาก็ไหล ไม่เป็นอันทำอะไรเพราะแพ้อากาศ

ฤดูกาลนี้เป็นฤดูกาลแพ้สำหรับคนขี้แพ้ครับ

เมือง Umeå เป็นเมืองขนาดเล็ก แต่ถือว่าเป็นเมืองท่าสำคัญของทะเลบอลติคทางเหนือ ท่าเรือนี้เป็นจุดเชื่อมต่อขนส่งสินค้าที่ส่งมาจากดินแดนทางบกขึ้นไปทางเหนือเลยเส้นอาร์กติก มาลงเรือสินค้าเข้าสู่ทะเลบอลติค นอกจากนี้ยังเป็นท่าเรือติดต่อไปยังเมือง Vaasa ของฟินแลนด์ ทางฝั่งตะวันออกของอ่าวบอธเนียนี้

แม้อ่าวบอธเนียนี้จะสำคัญต่อการค้ามาก อุปสรรคที่สำคัญคือ เมื่อเข้าสู่ฤดูหนาวเมื่อไหร่ มันจะกลายเป็นน้ำแข็ง ในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง กองกำลังนาซีต้องการเหล็กจากเหมืองแร่เหล็กใน Kiruna อย่างมาก เส้นทางที่จะใช้ส่งไปเยอรมนีจึงต้องออกทางทะเลเหนือของนอร์เวย์ แทนที่จะลงทางทะเลบอลติค เรื่องภัยความมั่นคงของทางฝั่งอ่าวบอธเนียนี้จึงมาจากรัสเซียมากกว่า ซึ่งฟินแลนด์รู้เรื่องนี้ดี เมื่อผ่านสงครามวินาศสันตะโรกับรัสเซียมา

ผมจะเห็นคนฟินแลนด์ข้ามมาเมือง Umeå มาเที่ยว มาพักผ่อนทางฝั่งสวีเดนอยู่เป็นจำนวนมาก เพราะเป็นช่วงหน้าร้อน และคนหยุดเพื่อพักผ่อน การเดินทางใกล้ๆ ก็ทำให้ประหยัดเงินเที่ยวได้มากอยู่ โดยเฉพาะในช่วงที่เงินเฟ้อทำให้ทุกอย่างแพงสิ้นดี

แต่กลุ่มนักท่องเที่ยวอีกกลุ่มหนึ่ง ซึ่งจะขับรถ SUV มาถึงเมืองนี้เพื่อท่องเที่ยว เดินป่า เล่นน้ำ รถขับเคลื่อนสี่ล้อของพวกเขาจะมีจักรยานเสือภูเขาหรือจักรยานวิบากติดมาด้วย ในกรณีที่นิยมกิจกรรมแนวผจญภัย

คนเหล่านี้คือคนนอร์เวย์ ที่จะมาช่วยจับจ่ายซื้อของ ช่วยสนับสนุนธุรกิจการท่องเที่ยวของสวีเดน ประเทศซึ่งคนมีรายได้น้อยกว่า ดังนั้นถ้าเห็นรถ SUV ขับเคลื่อนสี่ล้อเจ็ดที่นั่งขับมาแถวๆ ทางเหนือ ย่อมจะพอเดาได้ว่า ต้องเป็นทะเบียนที่มีตัวย่อ NO บ่งบอกชื่อประเทศนอร์เวย์ค่อนข้างจะแน่

Umeå ยังเป็นเมืองมหาวิทยาลัยด้วย คนเหนือของสวีเดนก็จะส่งบุตรหลานมาเรียนที่นี่ เขามีคณะแพทย์ที่มีเครื่องไม้เครื่องมือดี รวมทั้งมีคณะทางมนุษยศาสตร์ที่วิจัยเรื่องภูมิภาค Sápmi และคน Sámi อันมีส่วนทำให้ความเคลื่อนไหวเรียกร้องสิทธิชนพื้นเมืองนั้นเข้มแข็ง ดินแดนและคนเหล่านี้อยู่มาก่อนที่คริสต์ศาสนาจะเดินทางเข้าไปปราบพวกเขาเสียเหี้ยน

ภูมิภาคนี้ยังเป็นแหล่งทรัพยากรสำคัญทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นป่าไม้ หรือน้ำ ผมมีโอกาสได้ไปเดินแม่น้ำ Vindelälven ซึ่งเป็นแหล่งน้ำเดียวในไม่กี่แห่งในสวีเดนที่การเคลื่อนไหวท้องถิ่นเขาลุกขึ้นต่อต้านการสร้างเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำ ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมขนาดยักษ์ที่ส่วนกลางไปดึงเอาทรัพยากรของทางเหนือมาใช้

เย็นย่ำหลังจากเดินทางกลับมาที่พักด้วยความเหน็ดเหนื่อยจากแสงแดด ผมสั่งเบียร์แก้วหนึ่งที่บาร์ของโรงแรม

“คุณพูดภาษาไทยใช่ไหม” ชายคนที่นั่งอยู่ที่บาร์คนนั้นหันมาทักผม ท่าทีเขาดูโผงผาง กำลังปลดปล่อยความสบายใจกับการพูดคุยกับบาร์เทนเดอร์ ดูจากข้างนอก ยังไงๆ ก็ต้องตัดสินว่าเขาเมาแล้ว

“คุณรู้ได้อย่างไร” ผมถามด้วยความสงสัยจริงๆ แต่เขาผงะสั้นๆ แสดงความรู้สึกว่าเขาอาจกำลังรุกล้ำความเป็นส่วนตัวของผม

“เปล่า ผมเพียงแต่เดา ผมได้ยินภาษานี้เสมอตอนผมทำงานที่โรงแรมในปักกิ่ง”

 ดูจากข้างนอก ยังไงๆ เขาก็ต้องฟังภาษาของคนเอเชียตะวันออกผิด แม่ง เป็นพวกเหยียดผิวแหงๆ เห็นใครหัวดำก็ว่าเป็นจีนทั้งนั้น

“ผมต้องรับแขกของโรงแรมที่มาจากประเทศไทยเสมอ มาเป็นคณะๆ มาทำงานและสัมมนาที่ปักกิ่ง ผมชอบคุยกับคนไทย คุยสนุก ผมไปอยู่ปักกิ่ง ทำงานที่นั่นแปดปี ผมคุ้นเคยกับคนไทยมากที่สุด”

“คุณมาจากไหน” ผมถาม เดาในใจว่าต้องเป็นรัสเซียหรืออะไรสักอย่าง

“ดูจากข้างนอก” นั่นไง เห็นคนขาวพูดจาโผงผาง ฟังเป็นภาษาสลาฟ รวมเป็นคนกลุ่มเดียวกันทั้งหมด แม่ง เป็นพวกเหยียดผิวแหงๆ

“ผมเป็นลูกครึ่ง พ่อผมเป็นโรมาเนีย แม่ผมเป็นอิตาลี นั่นก็สามสี่ภาษาแล้วที่ผมพูดได้ ส่วนงานในภาคโรงแรมที่ผมทำ ทำให้ผมพูดประมาณแปดภาษา ไม่งั้นก็บริการลูกค้าไม่ได้ และผมต้องเดินทางตลอด เป็นธรรมดาของการเป็นลูกจ้างในภาคการโรงแรม”

เขาหยิบแก้วขึ้นมา ผมยกแก้วขึ้นชนกับเขา ถามเขาว่า–ถึงเบียร์แก้วที่สามแล้ว เขาจะพูดภาษาอะไร ?

เขาหัวเราะ “แน่นอนสิว่าต้องภาษาไทย” ก่อนก้มหน้าลงด้วยความอายนิดๆ

“ผมขอโทษที่รบกวน ขอให้คุณดื่มอย่างมีความสุข”

ผมกล่าวขอบคุณ ตบไหล่เขาเบาๆ และลาจากการสนทนานั้น.

ปรีดี

Leipzig

13 July 2023

 

 


 


เกี่ยวกับผู้เขียน : ปรีดี หงษ์สต้น นักเขียน นักแปล นักวิชาการ ย้ายไปอยู่ประเทศสวีเดน เลี้ยงลูกไปพร้อมๆ กับสังเกตสังกาชีวิตที่เคลื่อนย้ายผ่านเวลาสถานที่ ภายใต้ระเบียบเสรีนิยมประชาธิปไตย

You may also like...