nanpoésie
nanpoésie

‘ฉันไม่ใช่ซากศพในประวัติศาสตร์’

ฉันไม่ใช่ซากศพในประวัติศาสตร์

 

จะให้หมอบพับเพียบต่อความตายได้อย่างไร

ในเมื่อฉันยังเยาว์วัย

อยากเป็นคนโตสูงใหญ่และเปี่ยมฝัน

อยากเป็นผีเสื้อในดงดอกไม้หอม

อยากเป็นนกโผทะยานไปสู่ท้องฟ้ากว้าง

 

ฉันตายในวันที่หนึ่งของ เดือน กรกฎาคม

ทางเดินนั้นทอดยาวไปด้วยฝูงอีแร้งที่เกาะอยู่ตามต้นไม้

มีคนตายเป็นเบืออยู่ริมฝั่งแม่น้ำ

สงครามถูกตีพ่ายเมื่อไม่มีปราชญ์นำศึก

ไยเที่ยวโยนความชั่วร้ายให้ฝูงอีแร้ง

ไม่มีความเป็นธรรมในความโศกเศร้า

ยามที่ฉันจะกลายเป็นซากศพ

ขอสักนิด

โปรดบอกเหตุผลที่ฉันสมควรจะตาย

 

อย่ามัวแต่กล่าวสรรเสริญความดีในชีวิตฉันเลย

นี่ ไม่ใช่เวลาที่ฉันควรจะตาย

ฉันไม่ใช่ใบไม้ร่วงในนิทรรศการใบไม้เปลี่ยนสี

ที่เนินรุ้งแพรวพราวและขอบฟ้าโชนแสง

ฉันต้องใช้เวลาเดินทางไปสู่วัยชราอย่างช้าๆ

เข็มนาฬิกาของโลกใบหนึ่งถูกลดทอนด้วยเหตุอันใด

 

ฉันตายในวันที่หนึ่งของ เดือน กรกฎาคม

โดดเดี่ยวและไร้มิ่งมิตร

นอนอกกระเพื่อมในห้องอับร้อน

ประตูความหวังแง้มแคบ

ความเหลื่อมล้ำปลิวไสวเหมือนม่านหน้าต่างโบราณ

มีเหล่ากุหลาบแห้งตาย ที่ยังพยายามทรงค่าตัวเอง

นั่นเสียงหัวเราะของบรรดาอีแร้งริมทะเล

เฝ้าดูพวกเราสิ้นใจตายตามกันไป

 

อ้อ… พวกเราตายไปนานแล้ว

 

มีแต่โครงผีกระดูกที่เดินออกไปใช้ชีวิตบนถนนสายความเศร้า

แล้วพวกเราเอาแต่เขียนคำว่า “ฉันต้องรอด” แปะไว้ที่บนหัวเตียง

ในห้องเล็กๆ ที่ไร้ความหวัง

ฉันเห็นตัวเองนอนสงบนิ่ง

ดั่งลมทะเลคลื่นครวญอีกกี่ครั้ง

คุณถึงจะได้ยินเสียงร่ำไห้อันตอกตรึง

โปรด จดจำฉันไว้ในประวัติศาสตร์ของความตาย

 

 

nandialogue

 

บทกวีโดย ปันนารีย์

You may also like...