interview

เหนื่อยก็จริง นักวิ่งเทรลตอบ ‘การวิ่งคือความทรมานที่บันเทิง’  

เพราะหนังเรื่องหนึ่ง จึงมีนักวิ่งคนนี้.. เริ่มจากวิ่งตามถนนรอบบ้าน ที่บ่อบำบัด สนามกีฬา จนวันหนึ่งขยับไปวิ่งเทรลระดับหลักร้อยกิโลเมตร

‘นุ่น’ ณัฐชยา ตั้งเที่ยงธรรม วัย 38 ปี เรียนมัธยมฯ ที่เชียงใหม่ แล้วเข้ากรุงไปต่อปริญญาตรี สาขา food science ที่ ม.เกษตร จบแล้วข้ามห้วยไปทำงานเป็นครูสอนฟิตเนสอยู่ 4-5 ปี ก่อนตัดสินใจกลับน่านเพราะเห็นว่าแม่เริ่มอายุเยอะ อยากมาช่วยแบ่งเบาธุรกิจการงาน

ทุกวันนี้ประกอบอาชีพขายกาแฟ (เปิดคาเฟ่ชื่อ HERE ) เก้าโมงถึงหกโมงเย็น เฝ้าร้าน ค่ำลงไปซ้อมวิ่ง วิ่งวนๆ ซ้ำที่เก่า วิวเดิม ก็ไม่ชอบ ชอบแนว city run ซึ่งถนนที่น่านดีพอใช้ กว้างและเรียบ แต่ก็มีบ้างที่เจอรถวิ่งสวนเลน และอีกครั้งหนึ่ง–ที่โดนหมากัด

ซ้อมในเมืองตามวิถีชาวบ้าน แต่ถึงเวลาแข่งขันนิยมพฤกษ์ไพร เป็นนักวิ่งสายเทรล เคยเดินทางไปวิ่งต่างประเทศ

ข้างผนังคาเฟ่มีเหรียญรางวัลแห่งหยาดเหงื่อห้อยอยู่เกินสิบ นั่นเป็นจุดเริ่มต้นแรกสนทนา จะสาธยายทั้งหมดคงใช้เวลาหลายวัน เราขอให้เธอเลือกหยิบบางเหรียญลงมา และเล่าเรื่อง

เห็นแขวนเหรียญรางวัลไว้เยอะแยะ ถ้าต้องเลือกมาเล่าสักสามสี่รายการจะเลือกอะไร

เหรียญแรกเลย ขอเลือก The North Face Thailand ถามว่าเป็นสนามที่สนุกมั้ย ไม่ถึงกับสนุกมาก แต่ด้วยความที่เป็นสนามร้อยกิโลฯ แรกในชีวิต เลยอยากจะเล่า เป็นการตัดสินใจลงครั้งแรก ทั้งที่ก่อนนี้มีประสบการณ์สูงสุด 50 กิโลฯ แต่คิดว่าสนามนี้ไม่ยากเกินไป ถามพวกนักวิ่งหลายๆ คนแล้วเขาแนะนำให้ลองดู

วิ่งที่ไหน ปีไหน

เขาใหญ่ มกราฯ ปี 2016 เป็นการวิ่ง 50 กิโลฯ สองรอบ รวมเป็นร้อย ..ความประทับใจก็ไม่มีอะไร แค่เป็นร้อยกิโลฯ แรก 

ทำได้ดีแค่ไหน น่าพอใจมั้ย

ไปแบบไม่คาดหวัง แค่ขอจบแบบไม่ทุลักทุเลเกินไป จบได้ตามแผนที่ซ้อมมาก็ถือว่าประสบความสำเร็จ เพราะเป็นครั้งแรก สตาร์ทตอนตีห้าครึ่ง ไปถึงคัทออฟ 18 ชม. ภายในวันนั้น 

โอเค มาเหรียญที่สอง..

อันนี้เป็นงานโป่งแยงเทรล ปี 2016 เป็น zero edition พี่ที่จัดวิ่งเคยรู้จักกันมาก่อน สอนฟิตเนสอยู่ด้วยกันที่กรุงเทพฯ ตอนหลังเขาผันตัวมาเป็นนักวิ่ง และมาจัดที่เชียงใหม่คือศูนย์พฤกษศาสตร์ โป่งแยง อ.แม่ริม ระยะสูงสุดของรายการคือ 66 กิโลฯ เราก็ลงเลย คิดว่าพร้อมมากกับระยะนี้ เป็นการวิ่งที่สนุกที่สุด เปิดประสบการณ์วิ่งเทรล สนามวิ่งดี อากาศดี และติดอันดับแบบไม่คาดหวัง คงเพราะสนุกเลยทำได้ดี เข้าเส้นชัยโดยติดหนึ่งในสามของผู้หญิง เป็นถ้วยรางวัลวิ่งเทรลถ้วยแรกในชีวิต 

ที่บอกว่าวิ่งสนุกนี่คือยังไง

ได้เห็นวิว เห็นสนามสวยๆ เห็นผู้คนที่เราวิ่งผ่านหมู่บ้าน เขาต้อนรับพวกนักวิ่ง

มีคนเข้าร่วมวิ่งสักเท่าไร

น่าจะหลักร้อย เพราะเป็น zero edition คือยังไม่เป็นครั้งที่หนึ่งเลย สนามทดลองว่างั้นเถอะ คนรู้จักน้อย และต้องเดินทางไกลซึ่งทางผู้จัดก็อำนวยความสะดวก จัดรถตู้ให้ มีค่าใช้จ่ายนะคะ แต่ขับตรงไปส่งถึงงาน เราแค่จองที่พัก ขากลับก็มีรถตู้ ส่งถึงกรุงเทพฯ เลยตัดสินใจไปร่วมงานง่ายขึ้น จำได้ว่ามันสนุก ทั้งที่ผ่านมาหกปีแล้ว เทรลเขาใหญ่กับเชียงใหม่ไม่เหมือนกันเลย เขาใหญ่ไม่สนุกเท่า เส้นทางไม่ค่อยดี พอมาวิ่งเชียงใหม่ เรารู้แล้วว่าชอบแบบนี้ ร่มรื่น เป็นทางดินที่วิ่งสนุก

แล้วอีกเหรียญ..

กุมภาฯ 2017 เป็นร้อยกิโลฯ อีกครั้ง ที่เลือกเพราะเป็นการวิ่งต่างประเทศครั้งแรก trans lantau ฮ่องกง วิ่งบนเกาะลันเตา พิเศษคืองานนี้เขาจะปล่อยตัวตอนห้าทุ่มครึ่ง ปกติการวิ่งร้อยกิโลฯ มักจะปล่อยตัวตีห้า ถ้าวิ่งไม่เร็วมาก ส่วนใหญ่จะเข้าเส้นชัยกลางคืน คือวิ่งข้ามคืน แต่อันนี้เหมือนเขาจงใจให้วิ่งข้ามคืนไปเลยตั้งแต่แรก

ไม่นอนเลย ?

ใช่, คือเราต้องเตรียมนอนมาก่อน เพราะเขาระบุไว้ชัดเจนว่าปล่อยตัวห้าทุ่มครึ่งนะ เราต้องจัดการตัวเองว่าจะนอนยังไง เดินทางยังไง ด้วยความที่ปล่อยตัวกลางคืน เขาวางแผนไว้แล้วว่า ถึงยอดเขานี้ คุณจะเจอพระอาทิตย์ขึ้นนะ ถ้าวิ่งได้ตามเวลา เราเห็นพระอาทิตย์ขึ้นจริงๆ ซึ่งมันก็สวยค่ะ หรือช่วงวิ่งลงภูเขาตอนเย็น คุณจะเห็นพระอาทิตย์ตก เขาคิดมาหมดแล้ว และการที่เป็นสนามต่างประเทศ การใช้ภาษามันก็ต่างออกไป แต่ภาษานักวิ่งก็ไม่ยาก วิ่งตามสเต็ปของเรา รายการนี้ถือว่าวิ่งได้ค่อนข้างดี และพบว่าชอบการปล่อยตัวตอนกลางคืน ชอบวิ่งตอนกลางคืน มืดๆ รู้สึกว่ามีสมาธิ โฟกัสกับแค่ไฟฉายหนึ่งดวงกับเส้นทางของเรา ถามว่าง่วงมั้ย มันมีง่วงบ้าง วิ่งๆ ไป มีคนหยุดนอนตามทาง จำได้ ตอนที่จะไปถึงจุดขึ้นกระเช้า คนทั่วไปเขาข้ามด้วยกระเช้าใช่มั้ย แต่เราต้องเดิน ตามถนนช่วงนั้นคนนอนเพียบ เราก็ง่วง แต่พยายามไม่หยุดเพราะกำลังทำเวลา อยากให้จบทันเรือเฟอร์รี่ที่จะข้ามกลับมาที่เกาะฮ่องกง ไม่งั้นต้องค้างที่ลันเตาอีกคืนซึ่งเราไม่มีที่นอน เพราะจองที่พักไว้ที่เกาะฮ่องกงแล้ว วางแผนชัดเจนว่าต้องวิ่งให้จบกี่โมง เพื่อให้ทันเรือรอบสุดท้าย เป็นการกดดันตัวเองเล็กๆ

ซึ่งทำได้ ?

ได้ค่ะ ทันเรือรอบสุดท้าย แต่สนามนี้.. พอกลับถึงที่พักแทบจะน็อก อาเจียน อาหารไม่ย่อย เพราะอาหารของรายการนี้เน้นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป มันคงไม่ถูกกับท้องเรา ปกติกินข้าว 

ไปวิ่งต่างประเทศ มีเพื่อนหรือไปคนเดียว ?

มีเพื่อนค่ะ การไปวิ่งไกลๆ ควรจะมีเพื่อนไปด้วยหนึ่งคน เพราะเขาจะคอยช่วย หรือมานัดเจอเราที่เส้นชัย บางคนอาจเป็นเพื่อนวิ่ง ก็แล้วแต่ จำได้ว่าพอข้ามเรือกลับมา ขึ้นแท็กซี่ปุ๊บ หลับ คล้ายๆ น็อกไปเลย เพื่อนต้องคอยช่วยดู

แล้วตอนไปวิ่งเขาใหญ่ หรือโป่งแยง มีเพื่อนมั้ย

ไปกับพี่สาว กับแฟนพี่สาว แต่เขาลงระยะสั้นกว่า เราลงระยะไกลสุด และเขาจะมาคอยซัพพอร์ทเรา

เหรียญสุดท้าย..

สนามนี้เป็นผู้จัดเดียวกับโป่งแยง เรียกว่า CM 6 มีตั้งแต่ CM1 ถึง CM6 ทั้งหมด 6 ระยะ มีตั้งแต่สั้นสุดคือประมาณ 22 กิโลฯ ไป 40 ไป 60 ไกลสุดคือ 130 กิโลฯ แต่ไม่ได้ลงอันนั้น ลงแค่ CM5 คือ 105 กิโลฯ สนามนี้วิ่งเป็นลูป สตาร์ทแล้ววิ่งไปเฮดควอเตอร์ หลังจากนั้นวิ่งลูป กลับมาที่เฮดควอเตอร์ กลับไปที่ลูปใหม่ กลับเฮดควอเตอร์ ทุกลูปจะต้องสตาร์ทและจบที่เฮดควอเตอร์ ถามว่าพิเศษยังไง รายการนี้เคยลงมาแล้วสองรอบ แต่วิ่งไม่จบ สองปีติดเลย 

เพราะว่า ?

ปีแรก รู้สึกว่าวิ่งแล้วมีอาการป่วยๆ เลยออกก่อน วิ่งได้ครึ่งทางแล้ว แต่คล้ายเครื่องมันดับ คงเพราะเราไปหยุดนอน หยุดแล้วดับเลย ตื่นมาวิ่งต่อไม่ได้ เลยตัดสินใจออก 

กลางวันหรือกลางคืนที่หยุดนอน ?

ช่วงค่ำๆ แล้วค่ะ ง่วงมาก กะว่าหยุดนอนซะหน่อย แต่พอตื่น คนอื่นอาจวิ่งต่อได้ เราไปไม่ไหว เลยออก

นอนที่ไหน

เฮดควอเตอร์ เขาจะมีทุกอย่างให้ ไม่ว่าห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ ที่นอน เราอยากพัก กินข้าว ทำอะไร ทำไป ก่อนที่จะวิ่งลูปต่อไป ปีแรกวิ่งไม่จบ ปีที่สอง กะว่ามาแก้มือ เลือก CM5 อีก ปีนี้รู้สึกแย่ที่ต้องออกเพราะวิ่งแล้วมัน.. เป็นฟีลข้างใน ร่างกายไม่เป็นอะไรเลย สมบูรณ์มาก ไม่ได้หยุดนอน ไม่อะไรเลย แต่วิ่งแล้วไม่สนุก มันคิดอะไรอยู่ในหัวไม่รู้ตอนนั้น อยากพอ อยากไปหาอะไรกินแล้ว ไม่อยากวิ่ง สรุปคือวิ่งได้แค่สี่สิบกิโลฯ ออกเลย ปีแรกยังวิ่งได้เยอะกว่า ก็ งงตัวเองเหมือนกัน พอปีที่สาม..

ยังไง แพ้ไปสองปีแล้วเอาอีก ?

ใช่ๆ หลายคนก็ถาม จะลงอีกเหรอ เราก็แบบ เหมือนมันคาใจ เราจะไม่จบสนามนี้จริงๆ เหรอ มันจะยากขนาดไหนกัน จริงๆ สนามนี้คนก็ว่ายากเพราะจัดหน้าฝน ถ้าเจอฝน วิ่งได้ช้า มันลื่น

ฝนตกก็วิ่ง ?

ถ้าไม่ตกหนักในระดับพายุเข้า ลมแรง ผู้จัดจะปะเมินว่าอันตรายมั้ย ถ้าไม่หนักเกินไป ไม่มีลม ไม่มีพายุ ก็วิ่ง คือจะมีเสื้อ เป็นอุปกรณ์บังคับเลย เสื้อกันลม ..ก่อนโควิดมั้งตอนนั้น น่าจะ 2019 ไปด้วยความรู้สึกว่าฉันต้องจบ ถ้าไม่จบ มันคงไม่ได้แล้ว ช่วงห้าสิบกิโลฯ แรก ทำเวลาดีมาก เรียกว่าถ้าช่วงหลังทำได้ดีแบบนี้ จบแบบติดถ้วยแน่นอน คิดไปถึงขนาดนั้นเลย แต่ครึ่งแรกกับครึ่งหลังเหมือนหนังคนละม้วน ด้วยความที่ไปใส่ครึ่งแรกเต็มๆ พอครึ่งหลัง มีปัญหาเรื่องการกิน วิ่งเยอะแล้วกินไม่ค่อยได้ เหมือนท้องเราไม่รับอาหาร คนอื่นไม่เป็นนะ เป็นอยู่คนเดียว ครึ่งหลังกินไม่ได้ อาศัยจิบน้ำอย่างเดียว ซึ่งพอไม่ได้กิน พลังงานมันร่อยหรอ แถมมีอาการง่วง เป็นการวิ่งที่ง่วงที่สุดในชีวิต ไม่เคยวิ่งๆ ไปแล้วง่วงขนาดนี้มาก่อน ต้องหยุดแวะหลับ ทุกๆ สิบหรือยี่สิบนาที เลยทำให้ช่วงครึ่งหลังเสียเวลาหยุดนอนไปมาก ครึ่งแรกทำเวลาไว้ 8 ชม. ครึ่งหลังปาไปสิบกว่า เป็นสนามร้อยกิโลฯ ที่ใช้เวลาวิ่งนานที่สุดในชีวิต ไม่เคยมีสนามไหนวิ่งนานเท่านี้ อาเจียนไปสองรอบ แต่ตัดสินใจว่าไม่หยุด คือถ้าคนอื่นเห็น เขาคงบอกว่าหยุดเถอะ แต่เราหยุดไม่ได้ จะมาแพ้ทั้งสามปี มันไม่ไหวแล้ว อาเจียนก็อาเจียนไป เอาของเก่าออกแล้ววิ่งไปต่อ

ใช้เวลาเท่าไร

เคยวิ่งเร็วสุด โป่งแยง 19 ชม. กว่าๆ ร้อยห้ากิโลฯ นะคะ หลังจากนั้นเฉลี่ยก็ประมาณ 21 ชม. แต่อันนี้น่าจะหลุดไปถึง 23 เกือบๆ 24 ชม. เขาคัตออฟไว้ที่ 25 ชม. มั้ง ถ้าจำไม่ผิด ก็เฉี่ยวๆ เกือบจะไม่จบ เค้นทุกอย่างที่มี นับถือคนที่วิ่งไกลกว่านี้คือ CM6 เขาก็สุดยอด เราไม่กล้าลงไกลขนาดนั้น รู้ร่างกายตัวเองว่ามีปัญหาการกิน วิ่งระยะไกล การกินสำคัญมากเพราะมันคือแหล่งพลังงาน จะวิ่งโดยไม่กิน มันเป็นไปไม่ได้

เวลาพักกิน ทำไมวิ่งต่อได้ ไม่จุกเหรอ ?

มันต้องฝึกค่ะ พวกที่วิ่งเร็วๆ เขาก็กินนะ แต่มีวิธี คืออาจจะไม่ได้กินข้าวเป็นหลัก บางคนใช้เจล มันไม่ต้องย่อย ดูดซึมทันที ไม่จุก เจลเดี๋ยวนี้มีหลายยี่ห้อ หลายรสชาติ แต่เราเป็นคนไม่กินเจล เพราะไม่ต้องการพลังงานเร็วขนาดนั้น ไม่ได้วิ่งเร็วขนาดนั้น กินอาหารปกติ แค่เลือกให้ถูก เช่น กล้วยน้ำว้า หรือผลไม้อย่างอื่น ถ้าข้าว ก็หนักไปนิด แต่บางคนชอบอัดๆ แน่นๆ 

กินแล้ววิ่งได้ยังไง ?

ใช่, เขามาถึงจุดพักแล้วนั่งกินข้าวเหมือนกินอาหารตามสั่งเลย กินเสร็จเขาวิ่งต่อได้ กินข้าวเป็นจานๆ กินมาม่าคัพเป็นถ้วยๆ ส่วนตัวนี่ไม่สามารถ กินได้นิดหน่อย

ทำไมนักวิ่งไม่วิ่งคนเดียว ทำไมต้องเข้าร่วมรายการที่นั่นที่นี่ บางทีเดินทางข้ามประเทศ ?

อย่างแรกเลย เส้นทางวิ่ง เราหาไม่ได้ คนหาเก่งอาจหาทางวิ่งเอง แต่การไปร่วมวิ่ง เราไม่ต้องคิดเยอะ แค่วิ่งตามริบบิ้นที่ผู้จัดมาร์กเส้นทางไว้ให้ แค่นั้น เราไม่ต้องเตรียมของ เตรียมแค่สิ่งที่เขาบังคับ เช่น น้ำ ขั้นต่ำลิตรครึ่งหรือสองลิตร มันเป็นเรื่องความสะดวก และเราได้เจอนักวิ่งคนอื่นๆ คือถ้าเป็นช่วงซ้อม เราหาทางซ้อมเอง บางทีถ้ามีโอกาสไปเชียงใหม่ ก็ไปวิ่งตามเส้นทางที่เคยลงแข่ง เท่าที่เราพอจำได้ แต่การวิ่งงาน เขามีจุดซัพพอร์ทให้เราทุกอย่าง มันง่ายกว่า

เกี่ยวกับเรื่องการเอาชนะมั้ย แข่งขัน เอาถ้วย ?

ไม่ขนาดนั้น เพราะไม่เน้นแข่งขัน เราเน้นเข้าร่วม แต่การได้ถ้วยนิดๆ หน่อยๆ เหมือนเป็นรางวัลปลอบใจ แสดงว่าฝึกซ้อมมาดี เตรียมตัวมาดีกว่าคนอื่น เราถึงติดอันดับ ก็แค่นั้น

จุดเริ่มต้นมายังไง ทำไมคนคนหนึ่งถึงอยากมาวิ่งร้อยกิโลฯ

เริ่มจากวิ่งถนนธรรมดา วิ่งมาราธอน ตอนเรียนมัธยมฯ ก็เล่นกีฬาทั่วไป วิ่งเป็นกีฬาที่ไม่ชอบเลย เมื่อก่อนไม่รู้สึกสนุก แต่วิ่งเป็นกีฬาพื้นฐานของนักกีฬาทุกคน ทุกประเภท ขนาดว่ายน้ำ ยังต้องวิ่ง

ตอนมัธยมฯ เล่นอะไร

บาสเก็ตบอล เคยเป็นนักกีฬาโรงเรียนบ้าง เป็นคนที่เล่นกีฬามาตั้งแต่เด็ก แม่อยากให้ว่ายน้ำ ออกกำลังกาย เล่นบาสฯ เพราะชอบ พอเข้ามหาลัย เรียนเยอะขึ้นก็ไม่ได้เล่นอะไรจริงจัง เราเป็นคนรูปร่างค่อนข้างท้วม เล่นกีฬาเพื่อคุมน้ำหนักน่ะ เอาง่ายๆ เล่นบาสฯ บ้าง เดินบ้าง แค่ดูแลสุขภาพปกติ

แล้วการวิ่งมายังไง

จริงๆ มาช้านิดนึง ถ้ามาเร็ว น่าจะทำได้ดีกว่านี้ คือ.. (หัวเราะ) พูดแล้วก็ตลกตัวเอง เริ่มต้นมาจากหนังค่ะ มีหนังของค่าย GTH เรื่อง ‘รักเจ็ดปี ดีเจ็ดหน’ ที่มันแบ่งเป็นสามตอน เขาถ่ายทอดเรื่องการวิ่งมาราธอนจนเรารู้สึกอยากวิ่งบ้าง 

ดูเมื่อไร

น่าจะอายุ 29-30 คือเรียนจบมานานและไม่ได้ทำงานตามที่เรียน ไปสอนฟิตเนส มันเริ่มจากไปสมัครฟิตเนสเพื่อดูแลสุขภาพทั่วไป ช่วงนั้นเทรนด์ฟิตเนสมาแรง ก็เล่น จอยคลาสที่เขาจัดไว้ จอยจนครูบนเวทีคงเห็นอะไรบางอย่างในตัวเรา เขาถามว่าลองมาเทรนเป็นครูมั้ย เราก็เพิ่งจบ ไม่มีงาน เลยลองเทรน และได้โอกาสไปช่วยเขาสอน เลยยึดอาชีพนั้นมาเรื่อยๆ มีรายได้เลี้ยงตัวเอง ไม่คิดมาก ทำอยู่ 4-5 ปี ถึงกลับน่าน เพราะแม่อายุมากขึ้น ลาออกละกัน ทำไป ความก้าวหน้ามันก็ไม่มีหรอก แค่สอนและรับเงินไปเดือนๆ

กลับมาน่าน ตั้งใจมาทำอะไร

ยังไม่คิดอะไร แค่กลับบ้านก่อน แม่มีธุรกิจอยู่แล้ว เขาอายุเยอะ ถือว่ามาช่วยเขานั่นนี่ ไม่มีเป้าหมายอะไร จนมาดูหนังเรื่องนี้ เลยเป็นจุดเริ่มต้นของการออกมาวิ่งจริงจัง

วิ่งคนเดียว ?

คนเดียวค่ะ หัดวิ่งที่บ่อบำบัด ยังไม่รู้จักการวิ่งบนถนนด้วยซ้ำเพราะคิดว่ามันอันตราย พอเริ่มมีประสบการณ์ จะไม่ชอบวิ่งวนเป็นวงกลม อยากเปลี่ยน ออกไป city run วิ่งรอบเมือง

สรุปว่าหนังมันมีอะไร ถึงทำให้คนไม่ชอบวิ่งออกมาวิ่งได้

พี่ต้องลองไปดู ..น่าจะเป็นหนังไทยเรื่องแรกที่พูดเรื่องกีฬาวิ่ง ผู้กำกับชอบวิ่ง เขาคงเอาประสบการณ์มาถ่ายทอด ไม่รู้เหมือนกัน แต่ดูแล้วได้แรงบันดาลใจว่าฉันจะต้องจบมาราธอนสักครั้งหนึ่งในชีวิต ในหนัง พระเอกเป็นนักวิ่ง ส่วนผู้หญิงไม่ดูแลตัวเองเลย ผู้ชายชักชวนให้หาเป้าหมายอะไรสักอย่างในชีวิต คือการวิ่งนี่แหละ เป็นเรื่องเล็กมาก แต่สำหรับคนมุ่งมั่นจะไปมาราธอน มันคือเรื่องใหญ่ ต้องมีวินัยในการซ้อม ตื่นเช้ามาซ้อม ต้องดูแลตัวเอง

หนังเรื่องนี้มีส่วนมาผลักโดยตรง ?

ใช่, จากคนที่ไม่ชอบวิ่ง ทำให้ออกมาวิ่งห้ากิโลฯ สิบกิโลฯ และขยับไปร้อยกิโลฯ ได้ เพราะหนังเรื่องนี้ พอดีตอนนั้นกระแสวิ่งเทรลเริ่มมา น่าจะผสมผสานเกี่ยวกับการเดินป่า จากแค่เดิน มาลองวิ่ง ลองไปลงสนาม ก่อนจะค้นพบว่าการวิ่งเทรลสนุกกว่าวิ่งถนน เลยเลือกไปทางนั้น

การวิ่งต้องใช้วินัยสูง ซ้อมเยอะ และจะมากจะน้อยมันก็เหนื่อยแน่ๆ ทำไมมนุษย์คนหนึ่งถึงวิ่งไปหาความทุกข์ทรมานให้ตัวเอง ทำไปเพื่อ ?

คนชอบพูดว่าการวิ่งคือความทรมาน ใช่ค่ะ แต่มันเป็นความทรมานที่บันเทิง มันสนุกค่ะ จริงที่ทรมาน และไม่ได้สบายเหมือนนอนอยู่บ้านแน่ๆ แต่มันสนุกกว่านอนอยู่บ้าน รับรองเลยว่าออกไปวิ่งแล้วสนุก ถามว่าทรมานมั้ย ความทรมานแก้ไขได้ด้วยการฝึกซ้อม ยิ่งคุณซ้อม เตรียมตัวมาดี คุณจะวิ่งสนุกขึ้น ถ้าคุณซ้อมน้อย คุณจะได้แค่ความทรมานที่มันไม่สนุก

ความสนุกนั้นคือ ?

อาจเป็นเรื่องฮอร์โมน อะดรีนาลีนมันหลั่ง แค่ใส่รองเท้า ก้าวขาออกไปจากบ้าน ทำให้เราไปเจออะไรที่ไม่เคยเจอ ไปอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยน อยู่บ้านก็ในตึกแค่นี้ใช่มั้ย ถ้าเราออกไป มันคือป่า หรือเลือกสถานที่ไหน ก็เหมือนไปชมวิว บางคนอาจตั้งหน้าตั้งตาวิ่ง ก็มี คือเขาโฟกัสอยู่กับตัวเอง เราก็เป็น ที่ชอบวิ่งเพราะว่าเราได้อยู่กับตัวเองจริงๆ เราฟังแค่เสียงธรรมชาติ อยู่กับปัจจุบัน อยู่กับตัวเอง คิดถึงอนาคตแค่ว่าเราจะไปทันเช็กพอยต์ถัดไปมั้ย คิดแค่นั้น ที่วิ่งผ่านไปแล้วคือผ่านไปแล้ว เราไม่ย้อนกลับไปกังวลเสียดาย เมื่อกี๊น่าจะแบบนั้นแบบนี้ ไม่ใช่ เราแค่วิ่งไปทีละก้าว ทีละก้าว

นักวิ่งต้องมีข้าวของเครื่องใช้อะไรบ้าง

เรื่องมันยาว (หัวเราะ) คนชอบพูดว่ามีรองเท้าคู่เดียวก็วิ่งได้ ตอนแรกก็คิดแบบนั้น อยู่ๆ ไปมันไม่จบคู่เดียว แต่จะกลายเป็นสาม สี่ ห้า หกคู่ ไหนจะเสื้อผ้า..

เอารองเท้าก่อน มันยังไง ซีเรียสแค่ไหน ราคาเท่าไร จริงมั้ยที่บอกว่าวิ่งคือการออกกำลังกายที่ถูกที่สุด ?

ถ้าแค่ออกกำลังกาย คู่เดียวหรือสองคู่ ใส่สลับกัน มันก็จบ แต่พอหาข้อมูลจริง รองเท้าวิ่งมันจะมีพื้นหนา พื้นบาง ซัพพอร์ทกี่มากน้อย พื้นแข็ง พื้นนุ่ม มันแล้วแต่ใครชอบแบบไหน ความที่เทคโนโลยีพัฒนาไปเรื่อยๆ รองเท้าคู่นี้ใส่แล้ววิ่งเร็วขึ้น

ยังไงนะ ?

มันมีจริงๆ ค่ะ ไปดูระดับโลกได้เลย ถ้าเขาไม่ใส่คู่นั้นก็ไม่สามารถทำสถิติที่ดีขึ้นได้ แต่อย่างเราไม่ได้ไปถึงขั้นนั้น เราไม่ใช่สายเร็ว เราสายวิ่งออกกำลังกาย อาจมีคู่เก่งไว้ใส่แข่งขัน แล้วก็มีคู่ซ้อม 

ถ้าเอาแบบราคากลางๆ สักเท่าไร

สามพันกว่าบาท ก็ได้ยี่ห้อดีๆ แล้ว แต่มีไปถึงราคาหลักหมื่นที่เทคโนโลยีไปไกลมาก จัดเต็ม ขึ้นอยู่กับงบประมาณของเรา กำลังทรัพย์ ถ้าจ่ายไหว การได้ของดีมันก็ดี แต่ถ้าไม่มีงบขนาดนั้น ของย่อมลงมา ราคาต่ำลง อาจจะเหมาะกับเรามากกว่าด้วยซ้ำ ขึ้นอยู่กับสไตล์การวิ่งของแต่ละคนด้วย ถ้าสายเร็ว เทคโนโลยีพวกนี้ช่วยซัพพอร์ทระดับหนึ่ง แต่ถ้าวิ่งไม่เร็วมาก ใส่ของพวกนั้นก็เปล่าประโยชน์ 

ทุกวันนี้มีรองเท้ากี่คู่

เฉพาะวิ่งเทรล สาม แต่ถ้าวิ่งถนน มีอยู่สี่ค่ะ 

นอกจากรองเท้า มันมีอะไรอีก ที่ดูเหมือนว่าไม่มีอะไร

เสื้อผ้า การวิ่งนานๆ อย่างวิ่งเทรลเป็นร้อยกิโลฯ เสื้อผ้าสำคัญค่ะ เพราะการวิ่งมีเหงื่อ เปียก พอเปียก จะเกิดการเสียดสี ถ้าเลือกชุดที่ช่วย เช่น ใส่แล้วไม่อุ้มน้ำ ระบายเหงื่อดี มันก็ช่วยให้วิ่งสบายตัวขึ้น วิ่งเทรลมีอุปกรณ์เพิ่มมาอีก เช่น เป้น้ำที่ต้องใส่ของบังคับ เวลาไปแข่งขัน หมวก แว่นกันแดด แล้วแต่เราชอบมั้ย บางคนมีผ้าคาดหัว นาฬิกา อันนี้สำคัญ เอาไว้วัดระยะทาง เดี๋ยวนี้สังเกตว่าวัยรุ่นหรือคนทำงานทั่วไปจะใส่นาฬิกาวิ่งในชีวิตประจำวันเยอะ เพราะมันเป็น smart watch จับก้าวได้ จับเวลา ที่สำคัญคือมันเบา ใส่สบาย ลืมนาฬิกาที่เราเคยใส่ไปเลย ทุกวันนี้ใส่แบบนี้อยู่เรือนเดียว

ตอนวิ่ง มือถือไม่ได้พกติดตัว ?

เป็นบางครั้ง ถ้าสนามแข่งขัน เขาให้พก เผื่อเหตุฉุกเฉิน ไว้ติดต่อได้

สรุป ทั้งร่างกาย เลือกแค่ราคากลางๆ ก็แทบจะหมื่นเหมือนกัน ?

ใช่ค่ะ เพราะเสื้อผ้ามีตั้งแต่หลักร้อยไปจนหลายพันบาท ขึ้นอยู่กับฟังก์ชันว่าเราชอบแบบไหน จะเอาแบบเนื้อผ้าเฉพาะนักวิ่ง หรือเสื้อที่ระลึกของงานก็ใช้ได้ เพียงแต่เราจะชอบดีไซน์หรือเปล่า เดี๋ยวนี้เขามีกลุ่มที่เอาของมาขาย เสื้องานนี้ ฉันไม่ชอบ ก็ขาย ใครชอบก็ซื้อไป เป็นกลุ่มในเฟซบุ๊ก ไว้ปล่อยของ ใช้รองเท้าคู่นี้แล้วไม่ชอบก็เอามาปล่อยในราคาที่คุยกันเอง ก็ดี บางทีเรามีของเยอะ ลงสิบงาน ได้เสื้อสิบตัว ใส่ไม่ทันหรอก และไม่ใช่ว่าเราชอบทุกตัว ไม่ชอบก็ขาย แปลงสินทรัพย์มาเป็นทุน

ตั้งแต่วิ่งมา เคยเจอเรื่องแย่ๆ หรือบาดเจ็บอะไรมั้ย

เคยเจอหมากัดครั้งหนึ่ง คิดว่าเค้าไม่ตั้งใจกัดหรอก แต่วิ่งมาเห่าแล้วเบรกไม่อยู่ อ้าปากมาแล้ว หุบไม่ทัน ธรรมชาติหมาเค้าจะไม่คุ้นกับคนวิ่ง คนเดินไม่ค่อยมีปัญหา แต่ถ้าวิ่งไม่คุ้น นักวิ่งกับหมาเป็นของคู่กัน ไม่รู้จะแก้ยังไง รู้แต่ถ้าวิ่งมา เราก็หยุดเดินซะ วิ่งไม่ได้ วิ่งเค้าจะยิ่งไล่ ..โชคดีที่ไม่ค่อยบาดเจ็บ อาจมีสะดุดล้มนิดๆ หน่อยๆ บ้าง แต่ไม่เป็นเรื้อรัง ไม่เคยเจ็บนานๆ อาจเพราะเป็นคนไม่วิ่งอย่างเดียว ชอบเล่นเวทด้วย จริงๆ มันสำคัญกับนักวิ่ง บางคนวิ่งอย่างเดียว ไม่ได้เสริมความแข็งแรง แต่เราเล่นเวทด้วยซึ่งมันช่วยได้มาก วิ่งมาเจ็ดปี ไม่เคยเป็นตะคริวระหว่างวิ่งเลย เคยเห็นหลายคนวิ่งขึ้นเขาไกลๆ ต้องหยุดพักเพราะเป็นตะคริว แต่เราไม่เป็น ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากเล่นเวท

เคยเป็นครูสอนด้วย ?

ใช่ๆ เรารู้มูฟเมนต์ ท่าไหนช่วยเรื่องอะไร เดี๋ยวนี้หาในออนไลน์ได้หมด เสิร์ชยูทูบเลยว่าเวทเทรนนิ่งฟอร์รันเนอร์ เราแค่ทำตามให้ถูกต้อง เวลาลูกค้าเจอเหรียญที่ห้อยในร้าน บางทีเขาถาม เราจะบอกทุกครั้งว่าอย่าวิ่งอย่างเดียวนะ เล่นเวทด้วย มันช่วยจริงๆ บางคนวิ่งอย่างเดียว ตะบี้ตะบัน เจ็ดวันวิ่งซ้อมทั้งเจ็ดวัน เราก็ โอ้.. ไม่จำเป็นต้องขนาดนั้น อาทิตย์หนึ่งวิ่งสามวันก็ดีแล้ว หลังจากนั้นมาเวทดีกว่า มันจะเปลี่ยน คนละเรื่อง ต้องลอง

วิธีดูแลร่างกาย สำหรับคนชอบวิ่ง ?

นอนค่ะ นอนให้พอ อย่าอดนอน จะนอนดึกหรืออะไรก็แล้วแต่ เราก็นอนดึกบ้าง แต่รวมๆ คือต้องนอนให้พอ ดื่มน้ำเยอะๆ เมื่อก่อนดื่มน้ำน้อย และนอนไม่ค่อยดี ก็พยายามปรับ ดื่มน้ำให้มากขึ้น เรื่องกิน ถ้าจะวิ่งยาวๆ ก็กินเยอะกว่าปกติ เพื่อเตรียมพลังงาน ความที่อายุมากขึ้น ก็เน้นกินผักให้เยอะที่สุดแล้วกัน เท่าที่จะทำได้ ค่อยฝึกไป วัยใกล้จะสี่สิบ แต่คิดว่าร่างกายดีกว่าเมื่อก่อน เพราะปรับพฤติกรรมหลายอย่าง จากที่บางมื้อไม่มีผักเลย ตอนนี้ต้องกิน อยู่บ้านด้วยไงคะ เรามีเวลา มีทางเลือก เป็นคนที่แทบไม่ออกไปกินข้าวนอกบ้าน ส่วนใหญ่ทำเอง นอกจากโอกาสพิเศษ ถึงออกนอกบ้าน

กินเหล้ามั้ย

ไม่ค่ะ ไม่สูบบุหรี่ ไม่กินเหล้า เมื่อก่อนเรียกว่าจิบๆ ไปกับเพื่อน แต่เดี๋ยวนี้ไปกับเพื่อนก็ไม่กิน เป็นนักวิ่งด้วย จริงๆ จะบอกว่านักวิ่งนี่ตัวดีเลย เขากิน แต่เราก็ไม่กิน เป็นคนไม่กินมาแต่ไหนแต่ไร เคยเมานะคะ ตอนสอนฟิตเนส ไปงานเลี้ยงวันเกิดเมมเบอร์ที่เขามาเล่นคลาสเรา ครั้งเดียว เข็ดเลย คงไม่เหมาะกับเรา กินให้รู้และจบ 

วิ่งมาหลายปี เห็นการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง หรือว่าได้อะไรจากมัน ?

เป็นอย่างหนึ่งในชีวิตที่ทำได้ดี เราอยากทำอีก จะวิ่งไปเรื่อยๆ ซ้อมอาทิตย์ละสามวัน หรือสี่ ถือว่าเยอะ แล้วแต่ด้วย ถ้าเราสมัครงานวิ่งไว้ อาจวิ่งเยอะกว่านั้น แต่ช่วงนี้ไม่มีงานก็วิ่งเท่านี้ แต่ละวันไม่เหมือนกัน ถ้าวิ่งเร็ว ใช้เวลาน้อยสุด ครึ่งชั่วโมง จบ หรือชั่วโมงนิดๆ วิ่งแบบไม่มีแพลนลงสนามไหน ส่วนถ้าวางแผนจะไปวิ่ง 60 กิโลฯ อาจมีวันซ้อมยาว สองชั่วโมง สองชั่วโมงครึ่ง หรือสามชั่วโมง สนุกที่ได้อยู่กับมัน

วิ่งเร็วแค่ไหน

ถ้าวิ่งยาว จะไม่เร็ว ชั่วโมงนึงประมาณแปดหรือเก้ากิโลฯ

เช้าหรือเย็น ?

เย็นค่ะ เป็นคนไม่ชอบวิ่งตอนเช้า เพราะไม่ชอบตื่นเช้า แค่นั้นเอง ไม่มีอะไร ตอนเย็นมีแรงมากกว่า ตอนเช้าเหมือนยังไม่ตื่น แต่บางคนชอบวิ่งเช้า เขาว่าอากาศดีกว่า มันก็ดีจริงๆ หน้าร้อน พื้นร้อน เราอาจต้องเตรียมตัวนิดนึง ส่วนตัวชอบวิ่งตอนเย็น ยกเว้นเพื่อนชวนซ้อมเช้า ก็ไปได้ คือต้องมีอะไรมากระตุ้น ให้ตื่นเอง ไม่อยากตื่น

ส่วนใหญ่วิ่งคนเดียว หรือมีเพื่อน ?

คนเดียว เพราะเวลาไม่ตรงกับคนอื่น เช่น ถ้าเขาจะไปห้าโมง ร้านเรายังไม่ปิด วิ่งคนเดียว สบาย เพราะไม่ต้องนัด ยิ่งไปเจอคนที่มาช้า เราต้องรอ มันเสียเวลานอน เราว่าไม่แฟร์ วิ่งคนเดียวสบายกว่า

ห่วงความสวยความงามอะไรมั้ย

ไม่คิดแล้วค่ะ ข้ามจุดนั้นไปนานแล้ว เราภูมิใจที่ร่างกายแข็งแรง เดี๋ยวนี้ไม่ได้วิ่งเพื่อลดน้ำหนัก แต่วิ่งเพื่อคงสภาพ เอาจริงๆ ตอนวิ่งเพื่อลดน้ำหนักมันไม่ลดนะคะ ยังไงก็ไม่ลด แต่พอเราไม่คิด ใช้ชีวิตปกติ ยิ่งช่วงซ้อมเยอะ น้ำหนักลงไปเอง เพราะเราไม่กินเยอะ พอวิ่งเยอะขึ้น มันลงโดยที่เราไม่ตั้งใจ

อยากวิ่งต่อไปเรื่อยๆ ทุกปี อยากไปลงแข่ง ?

ค่ะ พยายามหาสนาม Race A ในปีนั้น ตั้งใจไปวิ่งให้จบ ซ้อมเพื่อสนามนี้ๆ จะวางแผนไว้ ปีหน้าที่คิดไว้คือโป่งแยง น่าจะไม่ต่ำกว่า 50 กิโลฯ เขาจะจัดช่วงพฤศจิกาฯ อาจมีต้นปีสักสนาม หรือกลางปี แต่ที่เล็งไว้แน่ๆ คือโป่งแยง มีระยะให้เลือกเยอะ ตั้งแต่ยี่สิบ ไปจนร้อย ปีหน้า ร้อยคงยังไม่ไป คิดว่าระยะ 50-60 กิโลฯ กำลังสนุก เอาระยะนี้ดีกว่า เน้นวิ่งสนุก วิ่งจบไม่ทรมานร่างกาย เพราะอายุมากขึ้น ไม่อยากฝืน

มีรายการไหนอยู่ในฝัน อารณ์ประมาณอยากพิชิต ?

ตอนนี้ไม่มีเลย บางคนเขาอยากไปโอลิมปิกของนักวิ่งเทรลที่ยุโรป เราว่าเราไม่ต้องขนาดนั้น ไม่จริงจังเท่านั้น ยกเว้น ถ้ามีโอกาสจริงๆ งานวิ่งพวกนี้ต้องเก็บสะสมคะแนน ต้องมีพอยต์ เรายื่นไป จะได้มั้ยก็ไม่รู้ เพราะถ้าคนเยอะ เขาจับฉลาก ซึ่งลึกๆ แล้วเราคิดว่ามันไม่ต้องขนาดนั้น วิ่งในประเทศก็พอ ในประเทศตอนนี้สนามเยอะมาก วิ่งทุกเดือนยังไม่ครบว่างั้นเถอะ จัดกันอาทิตย์ชนอาทิตย์ งานซ้อนกันก็มี ต้องเลือกว่าอยากไปสนามไหน ส่วนตัวชอบไปสนามที่เคยไปแล้ว สนามใหม่ๆ เราต้องหาข้อมูล ผู้จัดคือใครก็สำคัญ เพราะบางคนก็สักแต่จัดจริงๆ จัดให้จบๆ บางที่จัดแล้วโดนด่า ไปอีกที่ก็โดนด่าอีก จำชื่อผู้จัดนั้นไว้ เจอที่ไหน จะได้ไม่ไป

ส่วนใหญ่ที่โดนด่า เรื่องอะไร

เส้นทางโหดเกิน ก็มี โหดไม่เท่าไร ประเด็นคือมันไม่ใช่เส้นทางวิ่ง หรือเขาไม่ใช้กันแล้ว แต่คุณก็แบบ.. อยากคงคอนเซ็ปต์ว่าสนามฉันต้องโหด ต้องยาก ซึ่งไม่เหมาะกับพวกมือใหม่ คนมีประสบการณ์อาจสนุก แต่คนไม่เคยวิ่ง หรือวิ่งมาน้อย เขาจะรู้สึกว่าเอาชีวิตรอดมั้ย จริงๆ นักวิ่งเขาไม่ต้องการอะไรมาก แค่เส้นทางที่ปลอดภัย ริบบิ้นชัดเจน ไม่หลง อาหารตามจุดที่เพียงพอ มีคุณภาพ แค่นั้น เสื้อวิ่งไม่ต้องสวยก็ได้ เพราะสวย ไม่สวย ไม่เคยมีดราม่า ถือว่าเป็นความชอบส่วนตัว แต่อื่นๆ พื้นฐาน อาหาร น้ำ เส้นทางที่ชัดเจน จำเป็นต้องดีแค่นั้นเอง

เคยมีช่วงแสวงหาที่โหดๆ มั้ย รู้สึกท้าทายหัวใจ ?

ไม่ค่ะ เพราะเคยไปที่ค่อนข้างโหดแล้ววิ่งไม่จบ จะว่าเป็นเพราะเราอ่อนเองก็ไม่ใช่ จากสถิติ คนวิ่งจบแค่สิบเปอร์เซ็นต์ เราก็คือคนส่วนใหญ่ อะไรที่มันเยอะไป อย่าไปฝืน งานวิ่งมันต้องวิ่งไงคะ อาจมีเดินบ้างบางช่วง แต่ไม่ใช่งานปีนป่าย นั่นมันผิดเป้าหมายแล้ว

ค่าสมัครวิ่งแต่ละครั้งประมาณเท่าไร

สามสี่พัน ไปจนถึงเจ็ดแปดพัน ถึงหมื่นเลยก็มี หลากหลายมากค่ะ แล้วแต่เส้นทาง สถานที่ บางทีต่อให้แพงๆ คนก็ไปเยอะ ทั้งไทยทั้งฝรั่ง อย่างอินทนนท์นี่เรียกว่ารถติด ใครจะไปเที่ยวช่วงนั้นต้องเลี่ยง ทุกวันนี้นักวิ่งเยอะมาก

วิ่งจริงๆ จังๆ มาเจ็ดปี คิดว่าตอนนี้มันมีส่วนสำคัญต่อชีวิตแค่ไหน

มาก ยิ่งเห็นเพื่อนนักวิ่งที่อายุมากกว่าเราเยอะๆ เช่น หกสิบกว่า เขายังวิ่งสบาย เราก็ เออ ถ้าเราอายุขนาดนั้นและยังวิ่งได้อยู่ มันก็ดี หลายคนอายุเท่าแม่เรา แต่แม่วิ่งแบบนั้นไม่ได้ ได้แค่เดิน ใครวิ่งได้ถือว่าดูแลตัวเองดี เราอยากดูแลตัวเองให้วิ่งได้ไปนานๆ อาจไม่ต้องวิ่งระยะไกล แต่วิ่งได้ ออกกำลัง เป็นการเช็กร่างกายไปในตัวว่ายังดีอยู่มั้ย

เคยมีช่วงทิ้ง หรือขาดหายไปเลยบ้างมั้ย

นานๆ ไม่มี มีแค่ช่วงที่ไม่ลงงานแข่งอะไรเลย เคยไม่ซ้อม ไม่สนุก มีบ้าง เหมือนมันเบื่อ เบื่อก็หยุด แค่นั้นเอง เป็นคนวิ่งตามอารมณ์ บางช่วงเล่นเวทอย่างเดียว เล่นนานเข้าพอเริ่มเห็นเพื่อนในเฟซบุ๊กไปวิ่งที่นั่นที่นี่ ความรู้สึกอยากจะค่อยๆ กลับมาเอง มันไม่ได้ถึงขั้น.. ฉันจะไม่วิ่งแล้ว อ้าว แล้วรองเท้าที่ซื้อไว้ล่ะ (หัวเราะ) ก็ไม่ได้ไง ยังวิ่งอยู่แหละ มีบางช่วงเบื่อ ก็หยุด แต่นั่นคือนานแล้ว ช่วงโควิดใหม่ๆ ซ้อมไปก็ไม่ได้ลงงาน จัดไม่ได้ เลยไม่ได้วิ่ง ช่วงนั้นอยู่กรุงเทพฯ ด้วยมั้ง สวนสาธารณะปิด ออกไปข้างนอกไม่ได้ เขาไม่อนุญาต หลายคนวิ่งที่บ้าน ช่วงนั้นลู่วิ่งขายดี คนซื้อมาวิ่งเองที่บ้าน คนอยากรักษาสภาพตัวเอง หาทางซ้อม เราก็เล่นเวทไป

ที่บ้าน ?

ใช่ๆ เราพอมีอุปกรณ์ อาจไม่ครบ เอาเท่าที่มี มันสะดวกกว่า ไม่ต้องรอคิว ชินแล้วด้วย

สภาพจิตใจ หรืออารมณ์มีผลมั้ย เช่นว่าถ้าเศร้า ไม่อยากวิ่ง หรือเศร้า ยิ่งอยากวิ่งระบาย ?

ไม่ได้เป็นคนมีปัญหามาก ถ้าไม่วิ่งก็แค่ไม่อยากวิ่ง ไม่เกี่ยวว่ามีอะไรในใจ อย่างวันนี้ถ้าตั้งใจจะไปวิ่ง อารมณ์ไหนก็วิ่ง คิดว่าไม่มีผล เป็นคนแยกแยะเรื่องนั้นเรื่องนี้มากกว่า ชอบอารมณ์ตอนวิ่งมากๆ ด้วย มีสมาธิ ได้อยู่กับตัวเอง และเป็น mission เราต้องทำในวันนี้ ส่วนเรื่องอื่นไว้ค่อยว่ากัน วิ่งให้จบก่อน ตั้งใจมาวิ่งก็วิ่ง

คิดว่าร่างกายหรือความเป็นผู้หญิงมีอุปสรรคอะไรต่อการวิ่งมั้ย

เป็นผู้หญิงก็ดีนะ การแข่งขันน้อยกว่าผู้ชาย เห็นเพื่อนนักวิ่งชายวิ่งเร็วมาก ยังไม่ติดถ้วย ไม่เคยได้รางวัลอะไร ขณะที่ถ้าเป็นผู้หญิง วิ่งขนาดนั้น คุณได้ที่หนึ่งไปแล้ว ร่างกายเราแบบนี้ อายุเท่านี้ ทำได้เท่านี้ ก็ถือว่าอยู่แถวหน้าๆ ของผู้หญิง.

 

 

nandialogue

 

 

เรื่องและภาพ วรพจน์ พันธุ์พงศ์

You may also like...