interview

สดจากสวนลิ้นจี่ ปีนี้ชาวสวนหน้าใส ขายได้คุ้มค่าเหนื่อย ‘เราให้มันกิน มันก็ให้เรากิน’

วิธีหาข่าวอย่างหนึ่งของเราคือขี่มอเตอร์ไซค์ดูบ้านเมือง มองชีวิตผู้คน

เจอใคร เรื่องไหนน่าสนใจ จอดพักรถ แวะเข้าไปคุย

นอกจากแม่น้ำลำธาร กาลเวลาเมษายนต่อพฤษภาคม สิ่งที่ดึงดูดใจ ผ่านเมื่อไรต้องชะเง้อชะแง้ทุกครั้งคือสวนลิ้นจี่ โดยเฉพาะตำบลเมืองจัง ใจกลางหรือศูนย์รวมผลไม้ของจังหวัดน่าน

ไม่รู้จักมักจี่ดีนัก แต่สีแดงๆ บนต้นเขียวๆ สดๆ ยั่วยวนลิ้น และความอยากรู้อยากเห็น อยากฟังเรื่องราวชีวิตชาวสวน

เรณู วรยศ อายุ 67 ปี เกิดที่เมืองจัง เรียนจบ ป.4 แต่งงานอายุ 18 มีลูกสองคน เรียกตัวเองว่าเป็นชาวไร่ชาวสวนเต็มปาก ปลูกมะม่วง ลำไย ส้ม ข้าว ข้าวโพด กล้วยหอม มะพร้าว ชะอม ส่วนลิ้นจี่นั้นแน่นอนคล้ายวิชาบังคับ เคยส่งประกวดและชนะเลิศ ได้อันดับหนึ่งมาแล้ว

เรื่องปลูกไม่ค่อยน่ากังวล เหมือนเกษตรกรคนอื่นๆ ปัญหาของบ้านนี้เมืองนี้คือราคาขาย ยิ่งผลไม้อายุสั้น การขนส่งไม่ดี วิธีแปรรูปยังไม่ลงตัว รายได้แต่ละปีล้วนขึ้นกับโชคชะตา ปีนี้รอด ปีหน้าก็ลุ้นกันใหม่ วนเวียนไปเช่นนี้ อยู่กับงาน อยู่กับเหงื่อ ทำหน้าที่ผลิต เป็นแหล่งอาหารของแผ่นดิน

คนเพิ่งพบเจอกัน–เป็นใคร มาจากไหนก็ไม่รู้ เรณูแทนตัวเองว่าแม่ เปิดบ้านต้อนรับด้วยไมตรีและเล่าเรื่องลิ้นจี่เมืองน่าน

 

 

เป็นยังไงบ้าง ลิ้นจี่ปีนี้ น่าพอใจมั้ย

ราคาพอใจอยู่ เพราะมีพ่อค้ามารับซื้อหลายที่ เราเลือกราคาขายได้ เฉลี่ยแล้ว 16-17 บาท ที่ต่ำกว่านี้ลูกเล็กๆ หน่อยก็ 10-12 บาท เป็นพวงๆ เหมือนกันนี่แหละ ไม่ใช่พวกเศษหรือร่วงๆ สูงสุดปีนี้อยู่ที่ 20 บาท แล้วลดลงไป 16-17 ถือว่ารับได้ ปีที่แล้วเปิดครั้งแรก 30 บาท แล้วลดลงไป  28-27-20 จนเหลือแค่ 5-8 บาท ลูกโตๆ กิโลฯ ละ10 บาท ปีที่แล้วไม่พอใจ ถึงห้าบาทนี่คือเลิกเลย เก็บขายไม่ไหว ไม่คุ้ม แต่ปีนี้โอเค แรงงานไม่เดือดร้อน ไม่ต้องจ้าง ทำสองคนผัวเมียได้ วันละสิบตะกร้า สองร้อยกิโลฯ บางวันเอาแค่ห้าตะกร้า ลงกันเช้าๆ ตั้งแต่หกโมง ทำถึงเที่ยง เพราะบ่ายมันร้อน มันแห้ง

การให้ผลผลิต ถือว่าดกมั้ยปีนี้

อยู่ในระดับปานกลาง แต่ลูกใหญ่ ถ้าแม่ไปขายสิบตะกร้า คัดเล็กได้แค่ตะกร้าสองตะกร้า นอกนั้นลูกใหญ่ เก็บมาแล้วเอาไปขายที่บ้านหมู่ห้า ขายส่ง ยกขึ้นรถ เขาจะตรวจของเราก่อนว่าเป็นยังไง ใหญ่หรือเล็ก เปิดหน้าดู บางทีเทดูก้นตะกร้า เรียกว่าถ้าหน้าเหมือนตูด ตูดเหมือนหน้า ลูกใหญ่เสมอกัน จบ ผ่าน ดูสามครั้งเป็นแบบนี้หมด เขาไม่ดูแล้ว รับไปกรุงเทพฯ เลย พ่อค้าบางเจ้าไปอีสาน ไปลาว แม่เลือกขาย วันนี้ดูราคาเจ้านี้ โอเค ถ้ายี่สิบบาท ขายตรงนี้ก่อน พรุ่งนี้ ถ้าไม่ได้ราคาก็หนีไปอีกจุด ที่ไหนลงใหม่ๆ ราคาจะดี

คือมีพ่อค้ามารับซื้อหลายจุด เราก็เลือกเอาว่าเจ้าไหนให้ราคาพอใจ ไปถึงขายได้เลย ?

ใช่, มีเท่าไรไม่อั้น เขาเอารถหกล้อมาหลายคัน แต่ละวันซื้อ 500-600 ตะกร้า เขาเอาเยอะ ลิ้นจี่มันดีตรงนี้ พ่อค้าเข้ามาเยอะ ปีก่อนๆ พ่อค้าไม่ค่อยเข้ามา เขาก็ซื้อเราถูก ปีนี้เราเลือกขายได้ ขอให้มีของเถอะ เล็กก็ซื้อ ใหญ่ก็ซื้อ ขายแล้ว รับเงินเลย ชาวสวนอย่างเราก็สบายใจ แต่ทุกปีมันรีบ พ่อค้ามีเจ้าเดียว เราไปรับตะกร้ามารอบแรก เขาบอก รอบนี้สิบโมงนะ เราต้องเก็บให้ทันสิบโมง มันเร่งรีบมาก ถ้าเที่ยงนี่ค่อยยังชั่ว ปีนี้เขาให้ถึงบ่ายสองโน่น เราเก็บเช้า ค่อยๆ นั่งคัด สบาย ไม่ต้องรีบ

วงการลิ้นจี่ต้องไม่ค้างคืน ?

ไม่มี หรือถ้าจะค้างก็ได้ มันอยู่ที่คนรักษา เก็บไม่ให้โดนแดด และอย่าเพิ่งเด็ดใบ บางคนใช้ยาทัมใจละลายน้ำ รด มันจะสด สีสวย อยู่นาน

ปลูกลิ้นจี่ต้องใช้ยาฆ่าแมลงมากน้อยแค่ไหน

ใส่ฮอร์โมน พ่นยาไม่ให้หนอนเจาะหัว ถ้าเห็นลูกขยาย กำลังจะออกสีเหลืองแล้วก็หยุดเลย แต่ช่วงเล็กๆ เท่าหัวไม้ขีด เราต้องพ่นยา กันไม่ให้เจาะหัว ถ้าเจาะ ตูดจะแหลม ลูกจะไม่กลม เนื้อบาง ถ้าจะให้ดี 7-15 วัน ก็ต้องพ่น ทิ้งนานกว่านี้ไม่ได้ แล้วก็มียาที่ใส่เพื่อขยายเม็ด ก็คือน้ำหมักนั่นแหละ ชุดหนึ่งพันห้า ใช้แล้วลูกมันขยายดี

ฉีดแล้วต้องทิ้งไว้กี่วันถึงเก็บได้ คนกินไม่อันตราย

15 วัน ไม่ต้องพ่นอะไรแล้ว พอออกเหลืองๆ รอ ปล่อยให้แก่ เก็บขายเลย กว่าจะได้เก็บจริงๆ ก็ประมาณยี่สิบวัน เพราะถ้ามันไม่แดง เราขายไม่ได้ ระยะการฉีดมานานแบบนั้น กินไม่เป็นไร สวนบ้านเรานี่เขามีคนมาเก็บไปตรวจว่ามีสารตกค้างมั้ย เพราะว่าเราเข้ากลุ่มของเกษตรจังหวัด บางทีเขาแอบไปเอาที่สวนเลย ไม่บอกเรา ตรวจแล้วเขาจะบอกเลย ของใครมีสารตกค้าง เขาสอน เอาง่ายๆ คืออย่าพ่นตอนใกล้สุกมาก ห้าหกวันก่อนเก็บขาย ห้ามพ่น เด็ดขาด มันอันตราย ถ้าจะพ่นก็ใช้แค่พวกสารไล่แมลงที่เราหมักไว้ อันนั้นทำได้ ไม่เป็นไร เพราะเราทำเอง ใช้พริกแกง ยาขื่น เหล้าขาว แล้วก็ข่า เอาไปสับๆ แล้วหมักไว้ในถังร้อยลิตร

สูตรพวกนี้ใครคิด

ไปอบรมมาจากเกษตรน่าน เขาจะเรียกชาวสวนไปอบรม มีงบให้ไปทำน้ำหมัก ปุ๋ยหมัก เรารู้สูตรแล้วมาทำเอง ทำแบบนี้มาห้าหกปีแล้ว เขาอบรมตลอด ไปมาหลายรอบ ตั้งแต่ปี 41-42 บางทีมาตรวจดิน ดินใครเย็น ดินใครชื้นแค่ไหน ให้เราไปปักกลางสวน ดูเลขระดับความชื้นเท่าไร เขาสอน เมื่อก่อนอบรมที่สวนเลย สมัยนี้ไปนั่งคุยกันในห้องแอร์ (หัวเราะ) เขามีหนังสือมา มีรายชื่อมาให้ไปอบรมที่นั่นที่นี่ ไปเจอเกษตรตำบล เกษตรอำเภอ เขาจะมาช่วยเราดูแล ให้เราปฏิบัติตามปีละหลายครั้ง อย่างตอนนี้ถ้าทุกคนเก็บหมดแล้ว เดี๋ยวเขาก็จะเรียกอบรมตัดแต่งกิ่ง ใครทำหรือยัง ใครยังไม่ตัด ยกมือขึ้น ดูแลต่อเนื่อง ตัดแต่งกิ่งแล้ว มันออกยอดมากี่ชุด ของสวนไหน ชุดที่หนึ่ง ชุดที่สอง ยกมือ ..ทำสวน มันไม่ใช่ง่ายๆ 

ต้องดูแลเยอะ ?

ถ้าเราไปอบรม เขาก็มาดูแลเรา จ่ายยาเอามาหว่านใต้ต้น ฆ่าเชื้อ บำรุงดิน สำรวจว่าดินใครดี ไม่ดี ต้องใช้ปุ๋ยอะไร เขาจะแจ้งเรา มีหนังสือบอก ที่ดินนี้ เอาปุ๋ยสูตรนั้นสูตรนี้

แล้วดินสวนนี้เป็นยังไง

ดินของแม่ดี แต่ดินนาเสีย เป็นกรดเป็นด่างเยอะ ข้าวให้ผลไม่ค่อยดี แต่ผลไม้ดีหมด ดินดี หวาน

ต้นลิ้นจี่ที่มีอยู่ในวัยไหน อายุเท่าไร

ถ้าเราไม่แต่งก็วัยชรา เพราะอายุสี่สิบกว่าปีแล้ว ถ้าไม่แต่งมันแห้ง ตายเป็นกิ่งเป็นก้าน หักเลยก็มี นี่เราคอยตัด แต่ง คอยดู ถ้าตรงไหนมันสูงไป เราตัด แต่งสาวให้มัน ..ก็ช่วยได้ ถ้าเราแต่ง เอาปุ๋ยไปให้มันกิน ปุ๋ยยูเรีย ใส่ให้มันแตกใบอ่อน

ตอนนี้สี่สิบ แล้วมันจะออกลูกไปอีกกี่ปี

นานนะ ถ้าเราดูแลมัน ถ้าเราไม่ล้ม มันอยู่กับเราตลอด หกสิบเจ็ดสิบปี อยู่ได้ ลิ้นจี่มันทน ถ้าช่วงแม่แก่ๆ ลูกหลานคงจะล้ม เขาทำไม่ไหว จริงๆ มันอยู่ได้ ถ้าเราแต่ง คอยดู มันอยู่กับเราไปตลอดนั่นแหละ ไม่เหมือนมะม่วง อยู่ไม่นาน โรคเยอะ แห้ง แมลงเจาะ

ดูแลมันดีเท่าลิ้นจี่หรือเปล่า

ดูมะม่วงเยอะกว่าอีก แต่มันตายง่ายเพราะหนอนเจาะต้น เขาบอก ให้เอายาฉีดเข้ารู ก็สู้ไม่ไหว ถึงตอนติดลูก บางปีก็สวย บางปีไม่สวย เป็นข้ีกลากขี้เกลื้อน ขายไม่ดี ปีนี้กำลังจะออก กิโลฯ ละสิบห้าบาทมั้ง ก็ดี ถ้าราคานี้ยาวๆ แต่มันไม่ค่อยยาวหรอก ยิ่งโชคอนันต์ แป๊บเดียวเหลือห้าบาท ลิ้นจี่ดูแลง่ายกว่า เรื่องห่อก็ไม่ต้อง มะม่วง ต้องซื้อกระดาษคาร์บอนมาห่อ ลิ้นจี่ไม่ต้องห่อ ถ้าห่อจะไม่ออกสี มันชอบแดด พันธุ์ค่อมสู้แดด แต่ไม่ค่อยทนฝน ปีนี้ฝนไม่เยอะเท่าไร ช่วงลิ้นจี่แก่ ฝนน้อย ลงหนักตอนเม็ดเริ่มออกสี กำลังจะขยาย นั่นแหละเหมาะกับลิ้นจี่ ฝนไม่มีปัญหาปีนี้

เหลืออีกเยอะมั้ย อีกกี่วันจะเก็บหมด

ยกเดียวหมดแล้วมั้ง รอที่เขียวๆ แดงก่อน จันทร์นี้ (9 พฤษภาฯ) น่าจะจบ รอแดงๆ อีกหน่อยจะเก็บ ถ้าสีโอลด์โรส สวย ..พ่อค้าเขาซื้อทุกวัน ไม่หยุด ซื้อจนหมดสวน ถ้าเขาจะไป เขาบอก ช่วงนี้ถ้าใครมี ให้รีบเก็บ แบบนี้เจ้าของสวนสบายใจ พ่อค้าก็สบายใจ วันไหนตลาดตาย หรือราคาลดลง เขาบอก วันไหนขึ้นราคา เขาบอก 

 

 

ไม่ต้องไปนั่งขายเองอีกแล้ว ?

ใช่, เป็นสิบปีแล้วมั้งที่ไม่ได้ไปนั่งขายเอง สมัยก่อนตอนยังไม่มีหลาน แม่ไปนั่งขายที่ตลาด พอมีพ่อค้าแบบนี้เข้ามา เราอยู่บ้าน แม่เป็นคนปล่อยตะกร้าให้เขา ปล่อยกล่อง แม่ไปหาลูกค้ามารับกล่องที่เรา ที่เราเยอะ เราก็ให้ลูกกับพ่อเขาเก็บลิ้นจี่สวนนี้ แม่ก็ไปเหมาสวนอื่นต่อ ไปเก็บกับเพื่อน เหมา เก็บมา เอาตะกร้าเราไปใส่ ถึงเวลาสามโมง เรานั่ง คอยรับตะกร้าว่าใครเอามาครบมั้ย สมมุติ นาย ก รับไปยี่สิบ มาส่งเท่าไร ครบมั้ย กากบาทว่าครบ ไม่ครบ ทำเหมาด้วย ตอนนั้นยังไม่แก่ วิ่งไหวอยู่ (หัวเราะ) เลิกไปเหมามาสิบกว่าปีแล้ว มีหลาน ทำไม่ได้ ไปไหนไม่ได้ แรกๆ มีหลาน เคยทำนะ จับหลานนั่งรถ มัดผูกกับเอว แล้วเอารถเข็นใส่ท้าย ไปรับตะกร้า

ช่วงไปรับเหมาก็พอได้เงิน ?

ได้ๆ ไม่มีขาดทุน เราไม่เหมาแพง ชาวสวนเขาเข้าใจ ..สนุกดี เวลาขายได้ ยิ่งสนุก ถ้าขายไม่ได้ก็บ่นกัน นั่งล้อมวง (หัวเราะ) ถ้าได้เงินก็เอาอีกๆ มันเพลิน

ถือว่าคุ้มค่าเหนื่อยมั้ย

ปีนี้คุ้ม พอใจ

ถ้าหมดลิ้นจี่ไปแล้ว ถึงคิวผลไม้อะไรต่อ

มะม่วง เริ่มๆ แล้ว ต่อไปก็ลำไย ประมาณกรกฎาฯ แต่ยังไม่เต็มที่ ต้องสิงหาฯ ไปจนถึงต้นๆ กันยาฯ กำลังดี พอหมดลำไยก็หยุด ปีหน้าว่ากันใหม่ ต้นปี เจอหน้ากันก็ถามแล้ว ติดมั้ยๆ ติดเยอะมั้ย ลิ้นจี่เริ่มก่อนเพื่อน มกราฯ จะออกดอก บางต้นออกกลางธันวาฯ รุ่นหนึ่ง ลิ้นจี่สบายใจ มะม่วงยังเหนื่อย ยิ่ง ‘โชคอนันต์’ เขาไม่ค่อยซื้อ คนไม่กิน ถ้าเอาไปกรุงเทพฯ ไม่ได้ขายเลย เขาบอกว่าไม่เคยกิน พันธุ์อะไร ไม่รู้จัก ปีที่แล้วไปขาย ทำมะม่วงแผ่น เอาโชคอนันต์ไปด้วย เขาจัดเต็นท์ให้เกษตรน่าน โอ้โฮ บ่นกันทั่ว อย่าบอกให้ไปขายอีกนะ ไม่ไปอีกแล้ว มันไม่มีใครซื้อ แต่พวกเขียวใหญ่ เขียวเสวย ขายได้ น้ำดอกไม้สีทอง ขายดี แต่ของแม่ไม่มี เขียวเสวยกินดิบ มัน อร่อย แช่ตู้เย็นไว้ได้หลายวัน 

ตอนข่าวข้าวเหนียวมะม่วงฮิตๆ มีผลอะไรกับชาวสวนมั้ย

ได้ยินอยู่ และอายุมันสั้น รอให้มันออกเต็มตลาดก่อน ถ้าพ่อค้ามาซื้อเหมือนลิ้นจี่ ก็ดี มาเยอะๆ มีหลายราคาให้เลือก นี่ก็ได้ยินว่าคนซื้อลิ้นจี่เขาว่าจะอยู่ต่อ รอมะม่วง เราก็คอยดู รู้ว่าที่ไหนรับซื้อ ก็ไปขายตรงนั้น 

ภาคภูมิใจในอาชีพเกษตรกรมั้ย ทำงานอยู่กลางแดด ได้ผลตอบแทนคุ้มเหนื่อยหรือเปล่

การเกษตร.. มันเป็นบางปี ถ้าปีไหนราคาดี ก็คุ้ม เราพอใจ ถ้าบางปี ของอะไรก็ไม่ดี ไม่มีอะไรดีสักอย่าง เราก็ไม่คุ้ม คุยกันว่าจะเอายังไง ชีวิตเกษตรกรของเรา ทำงานแล้วไม่ได้เงิน ข้าว ตั้งแต่ปีก่อนยังขายไม่ได้ มันถูก ราคาห้าบาท จะขายยังไง เราลงทุนไปเยอะ ก็เก็บไว้แบบนั้น ไม่ได้ขาย ปีนี้ลิ้นจี่ขายดี ราคานิ่ง แต่ที่ผ่านมาไม่มีอะไรดีสักอย่าง ปี 63-64 แย่มาก มันไม่มีอะไรแน่นอน เวลาได้ก็ได้ไม่เยอะ เราเลยต้องบอกตัวเองว่าอย่าฟุ่มเฟือย ได้เท่าไรก็เท่านั้น เอาแบบนี้ไปก่อน เราจะไปทำอะไรมาก ก็ไม่ได้ จะกู้ ก็เป็นหนี้อีก หาใช้คืนเขาไม่ไหว มีเท่าไร ทำเท่านั้น เพื่อนบ้านช่วยเราบ้าง เราช่วยเขาบ้าง แลกกัน ชีวิตเกษตรกรไม่ยั่งยืน ไม่ร่ำไม่รวย ปีไหนได้เยอะ เราดีใจ ปีไหนได้ไม่เยอะ ก็หน้าแห้ง หน้าหงิกหน้างอ หากินไป ตังค์ที่ได้มา เก็บ เอาไปซื้อปุ๋ย ซื้อยา แบ่งส่วนอันไหนเก็บไว้ซื้อกิน ค่อยๆ จ่าย

เคยมีความคิดอยากเปลี่ยนอาชีพมั้

อยากเปลี่ยนมาตลอด แต่ลองไปทำแล้วมันไม่ได้ผล เขามาอบรมทำขนม ทำอาหาร เอาไปขายก็ขายไม่ดี ส่งก็ไม่มีที่ส่ง ลองมาหมด ทำหมด แม่อยู่ในกลุ่มแม่บ้านด้วย พอเจ้าหน้าที่อนามัยมาอบรมให้ทำขนม มีงานที่ไหน เอาแม่บ้านไปทำขาย หาที่ส่งก็ไม่ได้ มันขายไม่ได้ หรือถ้าเรามาทำกับข้าว เอาไปตลาด ขายวันหนึ่งได้สองร้อยสามร้อย มันไม่คุ้มที่เราลงแรง คิดดูว่าตอนเย็นเตรียมของ พรุ่งนี้เช้า ตีสี่ ตั้งหม้อแกง ไปขาย ถ้าวันหนึ่งได้สักห้าร้อย ยังคุ้ม มีกำลังใจทำ แต่มันขายไม่ได้ ยิ่งขายหน้าบ้านยิ่งไม่ได้เลย ไม่มีคนเดินผ่าน ไม่รู้จะเปลี่ยนไปทางไหน ..ตกลงว่าก็ทำเหมือนเก่าเรานี่แหละ มีกล้วย ขายกล้วย มีส้ม ขายส้ม พอจ่ายเงินอันนั้นหมด เปลี่ยนไปหาอันโน้น 

ถ้าหมดคนรุ่นนี้ไป คิดว่าจะมีคนมาทำสวนลิ้นจี่อีกมั้ย

เด็กที่เคยทำกับคนแก่เขาอาจจะทำต่อ แต่บางคนปลูกต้นยางรอไว้แล้ว เตรียมไปทางอื่น บางคนล้มลิ้นจี่ทิ้งเลย ปลูกพริก มะเขือ ไปขายตลาด ทำไปเถอะ ใครทำอะไรได้ ทำไป มาทำเหมือนกันหมด มันขายไม่ได้ ต้องแบ่งกันทำ แม่ก็มาทำแบบนี้ เอากล้วยมาปลูก ชะอมเพิ่งลง กล้วยขายมาสองสามปีแล้ว ขายทีหนึ่งได้ 600-700 บาท ช่วงก่อนไม่มีโควิด กิโลฯ ละยี่สิบ เดี๋ยวนี้เหลือสิบบาท ปลูกข้าวไว้กิน ขายกล้วย ขายลำไย ลิ้นจี่ หาเงินไว้ซื้อกับข้าว ข้าวเราเองไง ไม่ต้องซื้อ ถึงอยู่ได้ เพราะมีข้าวกิน ถ้าซื้อหมดทุกสิ่งทุกอย่างก็ไม่ไหวนะ

หนัก แต่ถือว่ายังอยู่ในกลุ่มที่พอประคองไปได้ ?

พอไปได้ เพราะเราทำหลายอย่าง เมื่อก่อนส่งลูกเรียนหนังสือ ก็ปลูกหม่อน เลี้ยงไหม เอาเงินเลี้ยงไหม ส่งลูกเรียน จากนั้นมาทำลิ้นจี่ต่อ เอาเงินจากลิ้นจี่เสียค่าเทอมลูก เลี้ยงไหม ส่งเป็นรายเดือนให้ลูก ต้องประคองไว้ให้ลูกก่อน แม่กับพ่อกินอะไรก็ได้ และต้องไปอบรมเพิ่มความรู้ เราเป็นคนไม่อยู่เฉยๆ ทุกวันต้องหาอะไรนิดๆ หน่อยๆ ขาย คนที่ไปไม่รอดเพราะไม่ค่อยขยัน ท้อง่าย อะไรก็ไม่เอา แต่เราบอกว่า เอาไปเถอะ อย่าหมิ่นเงินน้อย อย่าคอยวาสนา ได้เท่าไร เราก็เอา ขอให้มันมีกินวันนี้ เดือนนี้ไปก่อน มันไม่ใช่มีปีนี้ปีเดียว ปีหน้ามันอาจจะดีก็ได้

 

 

ไม่ท้อเหมือนคนอื่นบ้างเหรอ

มันท้อไม่ได้ เรามีครอบครัว มีลูกหลานต้องดูแล อดทนเอา อย่างผลไม้นี่ เวลามันออกลูกมา บางคนไม่ดูแลมัน แม่บอก ทำเถอะ มันออกมาให้เราแล้ว เราก็ดูแลมันให้ดี อีกหน่อยมันคงจะดี เราไม่ท้อ เราทำไป ดูแลต้นไม้ ลึกๆ แล้วเราอาศัยมันนั่นแหละ เราให้มันกิน มันก็ให้เรากิน อยู่กันไปหลายๆ ปี อยู่คู่กัน ..แม่จะเก็บลิ้นจี่ ลำไย กล้วย ไว้แบบนี้ จะอยู่กับมันไป เดี๋ยวนี้เขาล้มลิ้นจี่กันเยอะนะ ทำไม่ไหว ราคาแต่ละปีไม่นิ่ง แต่เมืองจังเราก็ยังมีเยอะ วันหนึ่งไม่รู้กี่ตัน ขายเยอะ เมื่อวานพ่อค้าบอกว่ารับไปหกร้อยตะกร้า ตะกร้าละ 18 กก. กี่ตันล่ะ เจ้านั้น เจ้านี้ เจ้าอื่นอีก ออกวันละหลายคันรถ บ้านเรามันเป็นเมืองลิ้นจี่ เมืองผลไม้อันดับหนึ่งของจังหวัดน่าน ช่วงก่อนที่ไม่มีโควิด เขาจัดงานกันคึกคัก ต้นพฤษภาฯ ช่วงนี้แหละ มีประกวดลิ้นจี่ ธิดาลิ้นจี่ สนุก กลางวันเอาลิ้นจี่ไปนั่งขายในงาน คิดถึงบรรยากาศเก่าๆ

ตำบลอื่นมีมั้ย งานเทศกาลลิ้นจี่

ไม่มี มีเมืองจังที่เดียว

คนปลูกชอบกินลิ้นจี่มั้ย

กินสิ บางวันกินจนไม่หิวข้าว (หัวเราะ) เห็นลูกใหญ่ๆ อดใจไม่ได้ ทำไป กินไป.

 

nandialogue

 

nandialogue

เรื่องและภาพ: วรพจน์ พันธุ์พงศ์

ภาพเขียน : สุมาลี เอกชนนิยม

 

You may also like...