สวัสดีพี่หนึ่งจากกรุงเทพฯ ครับ
ขออภัยที่ส่งจดหมายมาให้โคตรช้า (นิสัยแย่ๆ นี่แม่งทำโคตรง่าย ลองทำไม่กี่ครั้งก็เริ่มติ
ย้อนคิดไป ไอ้พื้นที่ตรงนี้ของบ้านนี่
ถ้าให้นักจิตวิญญาณนิยมกล่าว ก็คงจะบอกว่าจุดนี้มีแหล่งพลั
ย้อนไปสักสามสิบปีก่อน เดินจากจุดนี้ไปไม่กี่ก้าวก็
ว่ากันว่าคนเรามักจะเหมือนกับปู่
ผมว่าเป็นไปได้มาก ที่
ก่อนกลับมากรุงเทพฯ ครานี้ ผมพบชาวกรุงอีกสองคนที่เริ่
อีกหนึ่งเป็นนักออกแบบสาวที่
ไม่กี่สัปดาห์ก่อน เธอแวะมาผมที่บ้านแล้วเล่าให้ฟั
บ้านพักบนเกาะกำลังเป็นที่ต้
เรื่องเหล่านี้ไม่เป็นปั
แม้ว่าในทางกฏหมายชาวต่างชาติ
สำหรับผม ถ้าสร้างแบบนั้นมันดูไม่เป็
ที่สำคัญ ค่าเช่าระยะยาวต้องไม่แพงเกิ
ถ้าสร้างสำเร็จ มันคือทริบิวต์
ไว้โครงการเป็นรูปเป็นร่าง ผมจะนำเสนอหมู่บ้านแห่งมิ
ด้วยรักและมิตรภาพ
จ๊อก
ตอบ จ๊อก
รูปมุมดูดบุหรี่นั่งเสวนาหน้าบ้านคุณทำให้หลายเรื่องไหลมาเป็นสายน้ำ
แม่น้ำสายนี้มักมีจุดเริ่มต้นในยามราตรี และถ้าไม่ล่วงอรุโณทัยก็คล้ายไม่มีวันเหือดแห้ง
หนหนึ่ง กับหมาป่า บุรุษร่างเล็กผู้มีหัวใจหนาราวพจนานุกรม ครูแห่งวิชาชีพและพี่ชายที่ย้ำซ้ำๆ กับเราเป็นสิบรอบร้อยรอบว่าอย่ากลัวเสียเหงื่อ ถ้าทำงานกระทั่งเหงื่อกลายเป็นเลือดได้ก็จงภาคภูมิใจ เพราะการออกแรงย่อมหมายถึงผลผลิต คือโอกาส คือการสร้างสรรค์ มีแต่สัตว์พิการเท่านั้นแหละที่นอนงอมืองอเท้าอยู่ที่บ้าน
หนหนึ่ง กับ วาด รวี (หรืออีกนาม เป้ ปาเกียว) ค่ำนั้นเรานั่งซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์พี่เขามาจากศูนย์สิริกิติ์ งานสัปดาห์หนังสือเพิ่งเลิก นัดแนะกันแล้วว่าไปต่อบ้านนาย เป้ขอเอามอเตอร์ไซค์ไปเก็บที่บ้านก่อน เราซ้อนไป และจับแท็กซี่มุ่งหน้าสู่ทิศตะวันตกของบางกอก ขำที่เป้พูดกับจ๊อกว่า–มา และอย่าหนีไปนอนก่อนนะมึง ชอบชวนดีนัก
ที่ชวนก็เพราะพี่แกไม่ค่อยจะยอมออกจากถ้ำ กระนั้น คำดังกล่าวก็ไม่ศักดิ์สิทธิ์ว่ะ เพราะที่สุดคืนนั้นจ๊อกก็นอนก่อนใคร พูดถึงเป้ วันที่เลิกจากงานพี่วัฒน์ (24.04.2022 แยกคอกวัว) เรานั่งซ้อนท้ายเขาไปมูนชายน์บาร์ (ต้องกำกับ บอกทางตลอด เพราะเขามืดบอดเรื่องเมรัยสถาน) กินดื่มกันยาวถึงเที่ยงคืนกว่า ซึ่งนับว่าพิเศษ วัตรปฏิบัติของเป้ ปกติสองสามทุ่มก็ต้องโบกมือขอแยกย้ายแล้ว เป็นคืนที่บทสนทนาสนุก ได้น้ำได้เนื้อ (พรรคพวกเราเยอะ แยกกันนั่งสามโต๊ะ เรากะป่าน กะตุ๋ย นั่งคุยกับเป้) ใครจะนึกว่าสิบกว่าวันถัดมา เป้ก็เข้าโรงพยาบาล และอีกสัปดาห์เศษก็จากเราไป
นานมาแล้ว เราเคยทะเลาะกับนักเขียนคนหนึ่ง ประเด็นอะไร ช่างมันเถอะ แต่มีวรรคหนึ่ง ความรู้สึกหนึ่งที่เราพูดกับเขาคือ นึกว่าคนที่รู้เรื่อง เข้าอกเข้าใจ จะมีชื่อเขาอยู่ด้วย เราเข้าใจผิด ที่จริงมันก็มีแต่ไผ่ (ไม้หนึ่ง) กับ เป้ วันที่พูดนั้นไผ่จากไปแล้ว และวันนี้เป้ก็จากไปอีกคน เออ แม่งฝ่ายเราแทบไม่เหลือใครเลย นี่พูดในความหมายของเพื่อนสนิทและรุ่นราวคราวเดียวกันนะ เพราะ ‘คนที่รู้เรื่อง คนที่เข้าอกเข้าใจ’ ในหมู่คนหนุ่มคนสาวตอนนี้เราว่ามีปริมาณเยอะมาก
นอกจากบ้านคุณ เป้เคยมานอนบ้านเราหลายคืน (ไม่นับมาน่าน/ อันนั้นหลายครั้ง และทุกครั้งก็ถูกใช้งานหนัก) เราชอบนโยบายช่วงนั้นของเป้ คือแต่ละปีตั้งใจว่าจะเดินทางยาวๆ เดือนสองเดือน ใช้เวลาอยู่กับตัวเอง เพื่อคิดและเขียนหนังสือ ก่อนมาน่าน เขาเพิ่งไปทัวร์ทางอีสาน ดูแฮปปี้ทีเดียว เราเองก็อยากใช้ชีวิตแบบนั้น ยังทำได้น้อย ไม่น่าพอใจ เห็นเพื่อนทำได้จึงพลอยยินดี ยิ่งมีเพื่อนแวะมา ระหว่างการเดินทางของเขาก็ยิ่งประทับใจ นึกออกใช่มั้ย การที่เรามีโอกาสได้เป็นเป้าหมายหรือที่พักพิงเล็กๆ น้อยๆ ให้เพื่อน มันเป็นความงดงาม ได้กินดื่มถกเถียงกัน ใช้เวลาร่วมกัน เรื่องตลกก็คือเป้ทะเลาะกับอีอ้อน (ชื่อแมว) ด้วย มันก็สมควรอยู่หรอก ดึกๆ ดื่นๆ เสือกแหกปากร้องไม่หยุด พี่เป้แกคงวิเคราะห์แล้วว่า มึงนิสัยไม่ดี ไม่มีกาลเทศะ จึงลุกขึ้นมาอบรมไปชุดหนึ่ง ทำนอง–หุบปากได้แล้ว คนจะนอน
เอาใจช่วยโปรเจ็กต์ใหม่ในฝันโรมานซ์ของคุณ มันคือการทริบิวต์ที่จ๊าบโดยแท้ รอประยุทธ์และโจรรัฐประหารสร้างไม่ได้หรอกว่ะ งานละเอียดอ่อนแบบนี้ เราต้องลงแรงทำเอง ทางน่านก็คิดๆ ฝันๆ ไว้อยู่ วันก่อน อ.ป๊อกมาเยือน (เขามางานของเขานั่นแหละ พอมีเวลาสั้นๆ ก่อนเดินทางต่อ เลยไปนั่งกินเหล้ากันสองสามแก้ว) เราเสนองานให้เขาช่วยเป็นตัวเชื่อม เรื่องทำโครงการแลกเปลี่ยน ชวนคนฝรั่งเศสมา residency ที่น่าน (หลักการคือ open แต่อยากเริ่มต้นด้วยคนฝรั่งเศสก่อนเพราะเขามีเครือข่ายทางโน้น และเรากำลังเรียนภาษา) สถานที่มีอยู่แล้ว ถ้าเราหาผู้คนที่หลากหลายมาพบเจอกัน ทำงาน ปะทะสังสันทน์ วาระเช่นนี้มันน่าจะนำสู่ความก้าวหน้าใหม่ๆ ได้
ตัวอย่างจากงานเทศกาล ‘น่านโปเอซี’ ทั้งสองครั้ง เป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ ว่าถ้าคิด ถ้าลงมือ ขอบฟ้ามันเปิด มันขยาย ความเป็นไปได้มันมีจริงๆ
ฝากคุณเดินเกมทางสายใต้ ตีโอบทะเลพะงันไป ของเราทางหน่วยเหนือจะค่อยๆ คิดอ่าน และหาเหลี่ยมเข้าทำ.
เกี่ยวกับผู้เขียน : จ๊อก (ชัยพร อินทุวิศาลกุล) เป็นคนทำโรงพิมพ์ที่สนใจศิลปะ วรรณกรรม และสังคมการเมือง เป็นผู้อยู่เบื้องหลังเทศกาลหนังสือเล็กๆ หลายครั้ง ใช้ชีวิตอยู่กรุงเทพฯ มานานปี วันนี้ตัดสินใจย้ายไปเป็นชาวเกาะพะงัน