พลบค่ำ, ลูกค้าในผับยังเบาบาง นักดนตรีหนุ่มสองคน กับอีกหนึ่งหญิงสาว ประจำตำแหน่งหน้าเวที แสงสีพร้อม
ประสามืออาชีพ คนจะน้อยจะมาก ถึงเวลาโชว์ the show must go on
‘หมิว’ ปาริชาติ ยาน้อย ขับรถจากบ้านในอำเภอเวียงสา มาร้องเพลงประจำอยู่ที่ร้าน We’ LoFT ตั้งแต่ช่วงทุ่มถึงสองทุ่มครึ่ง ทุกวัน (บางวันเข้าเวรแทนเพื่อน ลากยาวไปถึงห้าทุ่ม) อีกบางวัน มีอีเวนต์งานแต่ง งานบวช งานเปิดตัวสินค้า ฯลฯ โดยรวมน่าจะถือว่าเป็นนักร้องที่งานชุกคิวทองคนหนึ่งของจังหวัดน่าน ก่อนหน้านั้นเธอร้องอยู่ตามผับที่กรุงเทพฯ เป็นงานเสริม หารายได้พิเศษ เพราะสถานะจริงๆ คือไปเรียนหนังสือ (ปริญญาโท, คณะนิเทศศาสตร์และนวัตกรรมการจัดการ, นิด้า)
‘หมิว ปาริชาติ’ เป็นลูกสาวแม่ค้ากล้วยฉาบ ผ่านการประกวดร้องเพลงมาเกินร้อยเวที เป็นนักล่ารางวัลที่คู่แข่งขันบางคนอยากถอนตัว เรียนมัธยมฯ ที่น่าน แล้วไปต่อมหาวิทยาลัยนเรศวร พิษณุโลก เคยเป็นตัวแทนจังหวัดไปแข่งในรายการ ‘กิ๊กดู๋ สงครามเพลงเงินล้าน’ เข้ารอบ 6 สุดท้าย เคยเซ็นสัญญากับค่ายเพลง กำลังเริ่มต้นการทำงาน แต่ความโหดร้ายของโควิดก็ทำให้เธอต้องตัดสินใจกลับบ้าน
เริ่มงานครั้งแรกในฐานะผู้ช่วยเจ้าพนักงานที่อำเภอเวียงสา หมดสัญญาแล้วลาออก ต่อมา, เมื่อมีเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล เธอลงสมัคร และได้รับเลือกตั้ง (ได้คะแนนเป็นอันดับสอง) ทำงานมาแล้วหนึ่งปี และยังสนุกบนเส้นทางการเมือง ทำชมรมท่องเที่ยวน่านใต้ (เวียงสา, นาน้อย, นาหมื่น) หุ้นกับญาติเปิดร้านหมาล่า และยังมองหาโอกาสใหม่ๆ ให้ชีวิตวัยยี่สิบแปด
เราคุยกันหลังวันเลือกตั้งผู้ว่าฯ กรุงเทพฯ เล็กน้อย ในฐานะนักร้อง นักการเมืองท้องถิ่น คำถามแรกจึงทักทาย ถามไถ่ สำรวจกระแส..
คุณคิดเห็นยังไงที่สามสี่วั
ก็ไม่แฟร์ ทำไมกรุงเทพฯ มีได้ ทุกอย่างอยู่ที่นั่นหมดเลย ความเจริญ ศูนย์รวมอำนาจ แต่จังหวัดอื่นๆ ต้องทำตามที่เขาสั่งลงมา เราไม่มีอิสระในการปกครองตนเอง ถึงจะมีการปกครองส่วนท้องถิ่น แต่สิ่งต้องทำ เราต้องทำตามคำสั่งจากส่
คนกรุงเทพฯ เลือกได้ คนต่างจังหวัดเลือกไม่ได้ คุณรู้สึกน้อยใจมั้ย รู้สึกไม่เท่าเทียม ?
อยากเป็นคนกรุงเทพฯ บ้าง (หัวเราะ) อยากให้ทุกจังหวัดมีสิทธิเลื
ทำไมคุณถึงมาเป็น สท.
ตอนนั้นเพิ่งเรียนจบโท เจอโควิด กลับมาอยู่บ้าน ทางอำเภอเปิดรับสมัครคนที่ได้รั
แม่บอกว่าไปเลย แล้วเราเอาไง ?
หาข้อมูลก่อน ว่าเป็น สท. แล้วต้องทำอะไรบ้าง
ทำอะไร ?
หน้าที่หลักคือเป็นผู้ตรวจสอบฝ่
มีงบกี่บาท อำเภอเวียงสา ?
ปีละเกือบๆ แปดสิบล้าน ดูแลทั้งหมด 19 หมู่บ้าน แต่เงินส่วนใหญ่ใช้ไปกับบุ
มีสิทธิ์คิดนโยบายอะไรมั้ย หรือทำตามเท่านั้น ?
ไม่มีสิทธิ์ เพียงแต่เราสามารถนำเสนอความต้
สท. เวียงสา มีกี่คน ?
12 คน มี 2 เขต เขตละ 6 คน
ตอนแรกที่บอกแม่ยุให้สมัคร แล้วขอศึกษาบทบาทหน้าที่ก่อน พบว่าน่าสนใจยังไง คุณถึงสมัคร ?
ได้ช่วยงานชาวบ้าน และมันตรงกับสิ่งที่
ช่วงก่อนเลือกตั้ง หาเสียงยังไง ?
มีผู้ช่วยหาเสียงดี คือแม่ (หัวเราะ) แบรนด์เราโอเค เป็นที่รู้จักของคนในพื้นที่ เขาเห็นมาตั้งแต่เด็ก
มีผู้สมัครกี่คน ?
14 คน เอา 6 คน หมิวเดินไปทุกบ้าน ในเขตเราทั้ง 9 หมู่บ้าน ไปกับแม่บ้าง กับป้าบ้าง สองคนนี้รู้จักคนเยอะ คนท้องถิ่น ก็แนะนำกันไปว่าลูกสาวเพิ่งเรี
เข้าไปทำงานมาแล้วปีหนึ่ง มีอะไรสำเร็จ ก้าวหน้า อะไรที่เป็นปัญหา ?
ด้วยหน้าที่ สท. เราทำได้แค่เข้าประชุม พูด จี้ๆ ก็ยังไม่เกิดผลอะไร เปลี่ยนแปลงไม่ได้ เช่น บุคลากรเยอะ เปลืองงบ ถามว่าเราลดคนได้มั้ย มันก็ไม่ได้ ทำได้แค่พูด หรือถ้าฝ่ายบริหารทำอะไร ชาวบ้านเดือดร้อนอะไร เราเอามาพูดในสภา ให้เขาได้คิด ได้เห็นว่ามันเป็นแบบนี้
แล้วพูดไป เขาฟังมั้ย ?
ก็รับนะ แต่ไม่ทำ บอกว่างานเยอะ และมีแผนของเขาอยู่แล้ว
เท่าที่ไปคุยกับชาวบ้านมา ปัญหาใหญ่สุดเรื่องอะไร ?
จริงๆ คนบ้านเราอยู่ไปตามมีตามเกิด ไม่ค่อยเรียกร้อง ถ้าถามเขาว่ามีปัญหาอะไร ส่วนมากจะนึกถึงถนนหนทางที่มั
แพสชั่นการเมืองอยู่ระดับไหน หลังจากอยู่กับมันมาปีหนึ่ง ?
ค่อยๆ เพิ่ม และบางครั้งก็ท้อบ้าง แต่สุดท้ายก็คิดว่าไม่ได้ว่ะ เราอยากลุกขึ้นมาหาพรรคพวก ต้องแบบนี้ๆ ต้องแข็งแรงขึ้น ยอมไม่ได้ ผ่านมาหนึ่งปี เริ่มมีเพื่อนที่เห็นด้วยกันบ้
แปลว่าต้องทำอาชีพอื่นเสริม ?
ใช่, ช่วยแม่ขายกล้วยฉาบ ร้องเพลง หุ้นกับญาติๆ เปิดร้านขายหมาล่าเมื่อปลายปีที่
ที่ว่าเยอะคือมีร้องประจำที่ร้
ร้านวีลอฟต์ ทุกวัน ตั้งแต่ทุ่มถึงสองทุ่มครึ่ง อีเวนต์เดือนที่ผ่านมาก็ 5-6 งาน ก็โอเค รวมแล้วได้พอๆ กับเงินเดือนสท. (หัวเราะ) ใช้เวลาประมาณสามชั่วโมง จบ รับเงิน ตอนนี้หมิวทำชมรมท่องเที่ยวน่
ตอนอยู่กรุงเทพฯ ร้องเพลงในผับด้วยมั้ย ?
เกือบทุกวัน เริ่มจากประกวด ตั้งแต่ประถมฯ มัธยมฯ ประกวดมาเกินร้อยเวที ออกงานบวชงานแต่ง ขึ้นบ้านใหม่ บางทีเราไปร่วมงานเฉยๆ แต่พอคนเห็น อ้าว น้องหมิวมา เขาขอให้ร้องเพลง ปีหนึ่งมีเป็นสิบๆ งาน
ผลการประกวด ?
ตอนเด็กได้ชมเชยบ้าง ที่สองบ้าง พอสักประถมฯ ปลาย หรือขึ้นมัธยมฯ ก็เรียกว่าได้ที่หนึ่งตลอด
ชนะเลิศมาสักกี่ครั้ง ?
ไม่ได้นับ มันเยอะ (หัวเราะ)
เกินยี่สิบครั้งมั้ย ?
เกิน มันมีงานทุกปี ปีละหลายครั้ง หลายเวที เราไปแข่งทุกปีก็ได้ทุกปี จนมีคนมาสมัครบางคนถามว่า งานนี้น้องหมิว ปาริชาติ มามั้ย ถ้ามา เค้าไม่มาแข่งแล้ว (หัวเราะ)
พูดได้มั้ยว่าในจังหวัดนี่คื
ใช่, พูดได้เลย เป็นที่รู้กันว่าที่สุดในรุ่น ..ไม่ได้โม้ค่ะ ถามคนสายประกวด สายร้องเพลง ต้องรู้จัก
รางวัลใหญ่สุดที่ได้คือ ?
งานใหญ่ก็ตกหลักหมื่น หลายครั้งอยู่ รองๆ มาก็ห้าพัน สามพัน จำรางวัลทั้งหมดไม่ได้ มันเยอะ เยอะเกิ๊น (หัวเราะ) เคยไปแข่งในรายการ ‘กิ๊กดู๋ สงครามเพลงเงินล้าน’ เข้ารอบ 6 คนสุดท้าย เป็นตัวแทนจังหวัดน่านไปแข่ง กำลังเรียน ป. โท ช่วงว่างจากเก็บข้อมูลวิจัย เขามาคัดนักร้องที่เทศบาลเมื
ชอบร้องเพลงอะไร ?
ได้หมด ทุกแนว ลูกทุ่ง สตริง เก่าใหม่ บางที่เขาจะถามว่าร้องเพลงนี้
ที่ชนะมาบ่อยๆ และเป็นนักล่ารางวัล มีวิธีฝึกฝนตัวเองยังไงให้ก้
ฟังเพลงเยอะ พยายามเก็บเทคนิค ช่วงจะแข่งก็ซ้อมหนักกว่าตอนฟั
เคยเรียนร้องเพลงมั้ย ?
เข้าคอร์สจริงจัง ไม่เคย แต่ตอนเรียนมหา’ลัย มีเข้าค่าย มีอบรมเรื่องเพลง ก็จะเข้าร่วมตลอด เพื่อช่วยปรับเทคนิค ช่วง ป.โท ไปเรียนเทคนิคเพิ่มกับครูก้อย ลูกศิษย์อาจารย์โรจน์ อาจารย์โรจน์คือครูสอนร้
แนวทางที่ชอบ หรือถนัดเป็นพิเศษ ?
ตอบยากมาก เพราะชอบไปหมด ได้ทุกแนว ไม่มีตายตัว การที่เราบอกว่าชอบสิ่งนี้ พอสิ่งอื่นมา เราไม่ชอบ มันไม่ใช่ หมิวเป็นคนที่เวลามีอะไรใหม่ๆ เราไปดู ไปฟัง ชอบทดลองเรียนรู้ ถามว่าอะไรร้องง่าย ก็คงเพลงป๊อป สบายๆ ผ่อนคลาย แต่เพลงลูกทุ่ง แพรวพราว ก็ทำได้ ลูกทุ่งจ๋าๆ เลย ได้หมด พุ่มพวง เมื่อก่อนเป็นเพลงบังคั
ลูกทุ่งสายทรมาน มันคือยังไง ?
เสียงสูง ใช้ลมเยอะ คัฑลียาใช้เทคนิคขั้นสูง มีน้อยคนที่ทำได้ เราทำได้ คนเลยชอบฟัง มันก็ท้าทาย ถามว่าชอบมั้ย ไม่ชอบเท่าไร เพราะการร้องมันทรมาน ให้ร้องทุกวัน ก็หนัก ร้องป๊อปสบายๆ ดีกว่า ‘น้ำตาจระเข้’ ใช้เทคนิคหลายอย่าง ‘สุสานคนช้ำ’ เสียงสูง ใช้ลมเยอะ แต่คนชอบฟัง ไม่รู้เพราะอะไร เวลาไปงานบวช งานแต่ง คนชอบขอเพลงลูกทุ่ง ตอนนี้เอ็นจอยร้องในร้านเหล้า ชิลๆ สตริงสากล เก่าใหม่ปะปน
ร้องของใครเยอะ ?
อิงค์ วลันธร, แหวน ฐิติมา, ดา เอนโดฟิน, ใหม่ เจริญปุระ, นันทิดา พวกเพลงเก่าๆ บางเพลงก็เก่าเกิ๊น (หัวเราะ) ร้องในงานแต่ง
เพลงบังคับงานแต่งคือเพลงอะไร ?
‘แพ้ใจ’ ใหม่ เจริญปุระ, เพียงแค่ใจเรารัก, จงรัก, วิมานดิน, ใจรัก, บุพเพสันนิวาส, เสน่หา..
อยู่ในโลกแสงสลัวยามค่ำคืน ร้องเพลงให้คนกินเหล้าฟัง คุณดูแลตัวเองยังไง มีอะไรอันตรายหรือเปล่า ?
ไม่นะคะ เรารู้และต้องรับมือ พูดจาลวนลาม มีบ้าง เพราะเขาเมา เหมือนมาแซว มาจีบ มีอันตรายมั้ย.. มีครั้งนึง อันนั้นคือเมา หมิวอยู่ร้านหมาล่า เขาโทรฯ สั่งให้ไปส่ง ตำรวจกินเลี้ยงกันหลังโรงพัก แล้วมีตำรวจคนหนึ่งเมา ไม่รู้เรื่อง มาโอบเรา หมิวสะบัด –อย่าทำแบบนี้ได้มั้ยคะ บอกเสียงแข็ง คนเมา มันไม่รู้เรื่อง เขาก็นิ่งไป และคนที่ได้ยินเสียงหมิว เขามาดึงตำรวจคนนี้ออกไป ส่งกลับไปเลย นายสั่ง เอามันไปเก็บ กลับบ้าน
เคสที่มาโดนตัวมีครั้งเดียว ?
ใช่, ตอนอยู่กรุงเทพฯ ร้องในผับส่วนใหญ่เขาเกรงใจ อาจจะแบบ.. ขอจับมือได้มั้ย ก็ได้ จับมือ แต่ไม่มีมาโอบ ถ้าโอบ เราไม่โอเค ต้องจัดการ แต่ขอจับมือ ไม่มีปัญหา ขอถ่ายรูปหน่อย ถ่าย หมิวว่าอยู่ที่การแต่งตัวด้วยมั้
เคยใส่กระโปรงสั้นๆ บ้างมั้ย ?
เคย แล้วแต่โอกาส แต่ไม่อยากใส่ไปร้องเพลง ..ไม่รู้สิ ไม่ชอบมั้ง ไม่ชอบให้ใครมามอง
ตอนเป็นนักศึกษาใส่มั้ย ?
ใส่ แต่ทุกคนก็ใส่กันหมดไง แต่นี่เราเป็นผู้หญิงอยู่บนเวที
สรุปว่าสังคมกลางคืนก็ไม่มี
มีบ้าง ลงจากเวที วงนั้นวงนี้กวักมือเรียก มาหาโต๊ะนี้หน่อย เราก็ไปเนาะ เหมือนเป็นหน้าที่ บางคนเป็นเอฟซี ติดตามมานานแล้ว เขาไนซ์กับเรา ไม่รุ่มร่าม เขารู้อยู่แล้วว่าเราเป็นยังไง เขาเรียก เราก็ไปสักแป๊บ ทักทาย ถามไถ่
ชนแก้ว ?
ชนน้ำเปล่า (หัวเราะ) เขาไม่ได้ว่าอะไร แต่ก็มี ลูกค้าบางคนสั่งดริงก์มาให้ คอกเทลแก้วนึง เราก็ดื่ม แก้วเดียวแค่นั้น จบ หรือมีลูกค้าผู้ชายที่ไม่เคยรู้
คิดว่าจะเอาจริงเอาจังกับการร้
กับทางค่ายก็เงียบๆ ไปแล้ว ปีนี้หมิวจะยี่สิบแปด ก็นั่งมองว่าชีวิตเรา ณ ตอนนี้ยังทำได้ ร้องเพลง สนุกสนาน เอนเตอร์เทน ทุกคนยังรุ่นราวคราวเดียวกัน แต่ถ้าอายุสี่สิบ จะให้มาเอนเตอร์เทนบนเวที
อายุงานของการเป็นนักร้องน่าจะถึงสักเท่าไร ?
อีกสักห้าหกปีน่าจะแม็กซ์แล้ว ไม่เกินสามสิบห้า จริงๆ ครูก้อยก็ติดต่อมา ถามว่าหมดสัญญากับค่ายหรือยัง เขาส่งข่าวเรื่
ใจตอนนี้เอนมาทางน่าน ?
ใช่, ตัดใจจากกรุงเทพฯ แล้ว อยากอยู่บ้าน ที่ผ่านมาเคยกลับไปแล้วมันมี
การแข่งขันสูงมั้ย วงการนักร้องเมืองน่าน ?
ไม่เยอะเลย ยิ่งนักร้องหญิงเมืองน่าน หายากมาก นักร้องชายมีเยอะ นักดนตรีเยอะ ไม่เข้าใจว่าเด็กมัธยมฯ รุ่นใหม่ๆ ร้องเพลงไม่เป็นหรือไง ทั้งที่เป็นอาชีพที่หาเงินง่
เคยได้สูงสุดเท่าไร ?
ห้าล้าน (หัวเราะ / เว้นวรรคนาน) ห้าล้านกีบ ไปร้องที่ลาว เป็นอีเวนต์ใหญ่ พ่อเลี้ยงบ่อน้ำมัน เปิดบริษัทใหม่ ฉลองบ้านใหม่ จ้างวงเราไปเล่น ได้ทิปห้าล้านกีบ ตกประมาณสามหมื่นบาทไทย หารกันทั้งวง เหลือประมาณคนละสามพัน ก็เยอะอยู่ ที่กรุงเทพฯ ร้องร้านอาหาร คืนเดียวเคยได้เกือบเจ็ดพัน หารกับเพื่อนก็ได้สองพันกว่า ร้องไม่กี่ชั่วโมง หลักๆ ร้องอยู่แถวนวมินทร์ กับจตุจักร ถ้างานอีเวนต์ก็ไปทั่ว ขับรถไปเอง ตอนนั้นน้ำมันถูก ขนาดขับจากกรุงเทพฯ มาน่าน เติม 700 ยังเหลือ ตอนนี้ขับจากบ้านมาร้
เป็น สท. เป็นนักร้อง เป็นเจ้าของร้านหมาล่า ดูเหมือนโลกสมัยใหม่ คนต้องทำงานหลายอย่าง ?
ใช่, ทำอย่างเดียวไม่ได้แล้ว ไม่พอกิน ด้วยสถานการณ์ด้วยมั้ง เศรษฐกิจบีบให้ทุกคนต้องดิ้นรน ..แม่ชอบถาม ว่าจะไปสมัครงานที่ไหนอีกมั้ย จะสอบอะไรหรือเปล่า จะให้ไปเป็นข้าราชการประจำ มันไม่ใช่ไง (แม่นั่งอยู่ใกล้ๆ ช่วยเสริมว่า–เขาไม่ชอบ ก็ไม่รู้จะว่ายังไง แล้วแต่เขา ทำอะไรก็ได้ ให้หาเงินได้ ตั้งตัวได้ไวๆ) ชีวิตข้าราชการมันน่าเบื่อ ถ้าไม่ได้เป็นใหญ่ ไม่มีเส้นสาย คุณอยู่ไปก็เฉาตาย มันไม่มีอะไรก้าวหน้า
สนใจทำธุรกิจ ?
สนใจมาก แนวร้านอาหารนี่แหละ ร้านดีๆ นั่งชิล อยากให้มีดนตรีดีๆ ทำที่เวียงสา ก็ท้าทายอยู่ เมืองตอนนี้เงียบมาก เฉื่อยๆ เหงาๆ เราอยากมีร้านอาหารครอบครัว ดนตรีสำหรับคนแก่ น่าสนใจ เพราะเทรนด์ธุรกิจผู้สูงอายุ
หมิวบริหารเงินยังไง ?
ยังบริหารได้ไม่ดี แต่ไม่ถึงกับมีปัญหา เอาตัวรอดได้ ยืมแม่บ้าง (หัวเราะ) เอาไปลงทุน ยังไม่คืน พยายามดิ้นรนทุกทาง แต่แม่ก็อยากให้ไปหางานนั่นนี่
ในฐานะคนน่านที่เคยไปอยู่กรุ
อยากพัฒนาที่น่านนี่แหละค่ะ เพราะการย้ายไปต่างประเทศมันไม่
ปีนี้กำลังย่างยี่สิบแปด คุณพอมองเห็นตัวเองในวัยสักสี่
น่าจะเป็นเจ้าของธุรกิจอะไรสั
เดี๋ยวต้องขึ้นเวทีแล้ว รู้สึกเบื่อบ้างมั้ยกับชีวิตนั
ไม่เบื่อเลย ทำได้สบายมาก ร้องเพลงก็ได้ตังค์นะคะ เงินเป็นปัจจัยหลัก ..วันนี้แม่มาด้วย นอนรอในรถ จริงๆ แม่ปวดแขน หมิวไม่อยากให้แม่มาลำบาก เราโตแล้ว ดูแลตัวเองได้.
เรื่องและภาพ: วรพจน์ พันธุ์พงศ์