หน้าฝนสีเขียวครอบครองน่าน โดดเด่น เรืองอำนาจอยู่สีเดียว เขียวทุ่งนา เขียวภูเขา ความหลากหลายจะเดินทางมาหลังตุลาฯ พฤศจิกาฯ ไปแล้ว กลีบบอบบางของดอกไม้ส่วนใหญ่สู้ฝนไม่ไหว หลบไปบานหน้าร้อน
ในเดือนฤดูเขียมสี บางซอยในเขตเมืองเก่ามีสีให้พินิจ สงสัย ตื่นตะลึง พาสเทลบางๆ พอมี ผสม คัดสรร ด้วยรสนิยมจิตรกรเอก และกำแพงบางบ้านก็จัดสีสดใส่เต็มๆ
เขาคงตกผลึกแล้ว ว่าชีวิตเรียบๆ สีเรียบๆ มันน่าเบื่อ
จะอยู่กันอย่างไรในสีเดียว ความคิดบังคับแบบเดียว
เมื่อโลกมีสีให้ชื่นชม ซอยมีคนนิยมสร้างสีสัน เราก็เดินเก็บเกี่ยว บริโภค
บ้านหลังนี้นักร้องนักดนตรีหนุ่มเคยพำนัก เขาตั้งชื่อน่ารักว่า ‘น่านไดอะล็อกบังกะโล’
จากเหนือกลิ่นน่านกลับเข้ากรุงแล้วสามสี่เดือน แต่คนในซอยน่าจะไม่ลืมรถมอไซค์คันนั้น ชายร่างสูง หน้าตาดีคนนั้น ควันบุหรี่ และเพลง ‘บุญช่วย’
“ปลิวไปตามแรงลม ใบไม้ร่วงหล่น ลอยไปตามเวลา ชีวิตผู้คน อยู่มากี่ฟ้ากี่ฝัน สุดท้ายต้องจาก ฝากไว้เพียงความทรงจำครั้งหนึ่ง ให้ได้คิดถึงตลอดไป”
อีกบางวรรคในเพลง ‘ชีวิตสามัญต้องหมั่นหาเงิน’ ที่เขาแต่งเองร้องเองในนาม ‘เยิงบอย’
“ในน้ำก็ไม่มีปลา ไร่นาก็ไม่มีให้ทำ กลับบ้านก็คงลำบาก ต้องอดอยากอยู่กับความจำยอม”
“สมบัติเก่าก็ไม่มี ที่มีอยู่ก็มีน้อย คนที่บ้านยังเฝ้าคอย ฝันลอยๆ หาเงินไม่ทัน”
และ “เลือกเกิดมาก็ไม่ได้ มีแค่เพียงใจดวงน้อย ทุกคืนวันยังเฝ้าคอย ฝันน้อยๆ จะลอยถึงฝั่ง”
หลังนั้นเจ้าของเป็นสล่า ลองไปปรึกษาเขาเถอะ คุณจะต่อเติม ทำบ้านแบบไหนล่ะ หรือสนใจบั้งไฟ หนังกลอง เขาทำได้ครบ จบทุกความต้องการ จบสมชื่อคนเป็นช่าง
เมื่อก่อนพวกหนุ่มๆ มารวมกันที่นี่ ทุกเย็น สมัยเมื่อครั้งนายช่างยังดื่มจัด เสียงเพลงไม่เคยขาด บรรยากาศครึกครื้น มีชีวิตชีวา ครั้นร่างกายสังขารแสดงผลว่าทนตรากตรำมามาก รากแก้วที่เคยแข็งแรงคงมั่นสั่นคลอน สล่าปรับพฤติกรรมใหม่ พักสุรายาดอง บ้านหน้าวัดหลังนี้เงียบเหงาลงไปบ้าง แต่ใบหน้าเจ้าของสดชื่นขึ้น หลังนอนซมมายาวนานในระดับที่ทำใจแล้วกับความตาย
เขาไม่กลัวมันเลย แม้นาทีเผชิญหน้ามัจจุราช พร้อม ยอมรับ ล้อเล่นได้
งานสีดำที่พี่น้องบางคนเตรียมตัวทำใจแล้ว ปรับสีใหม่ ลบมันออกไป ชีวิตคงยังมีสีสนุก
‘ศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ’ ป้ายไวนิลที่แขวนไว้หน้าวัดพูดตลอดเวลา
ไม่รู้เขาบอกใคร บอกทำไม มีแง่มุมไหนได้ประโยชน์
ได้หรือเสีย ?
ลำโพงที่ติดตั้งตามยอดเสาไฟในซอยพูดซ้ำๆ คล้ายนกแก้วนกขุนทอง
ทั้งปีทั้งชาติพูดอยู่เรื่องเดียวคือเชิญชวนทำบุญ
นาย ก บริจาคกี่บาท
นาง ข บริจาคกี่บาท
นาย ค บริจาคกี่บาท
ฯลฯ
เสียงตามสายมีไว้แจ้งข่าวชาวบ้าน น่าสนใจว่าตอนที่รถกระบะคันหนึ่งถูกโจรกรรมหายไปจากวัด ลำโพงหลายตัวในซอยเงียบสนิท
ทำไมและทำไม ? ให้เดา–มันคงสำคัญน้อยกว่าเรื่องการโน้มน้าวให้บริจาค
ใช่ไหม ? ก็แค่รถคันเดียวหาย
ซอยนี้มีพ่อค้าคนหนึ่งมาขายของทุกวัน
สินค้าของเขาคือขนม ของกินเล่นต่างๆ นานา ที่ไปรับมาอีกที คัดสรรเอาแต่เจ้าที่มีฝีมือ ซื้ออะไรกินไม่ค่อยผิดหวัง
ข้าวของนับร้อยเมนูนั้นผูกหิ้วมากับจักรยานคู่ชีพ วิธีของเขาไม่เหมือนใครเลย คือจูงเท่านั้น ไม่ขึ้นขี่ เดินไปหาลูกค้าประจำ ส่งเสียงเรียกถึงประตูบ้าน วันนี้เอาอะไร ของมันเยอะ เบื่อขนมนี้ ขนมนั้นก็น่าสนใจ
โควิดสองปีที่คนอื่นบอกว่าแย่ หาเงินยาก เขาเอาตัวรอดได้ด้วยรอยยิ้ม เดลิเวอรี่ และสินค้าที่คนซื้อไว้ใจได้
ฝั่งตรงข้าม ริมถนนใหญ่เป็นที่ตั้งของวิทยาลัยเทคนิค ซอยนี้จึงมีหอพักชายหญิง เสาร์อาทิตย์เงียบเหงาเพราะละอ่อนกลับบ้าน วันธรรมดาคึกคัก โดยเฉพาะช่วงเย็น หนุ่มๆ แว้นมาหาสาวน้อย อีกหลายคืนเมื่อหลายคนเจอกัน เสียงสนั่นลั่นซอยจนดึก ผู้อาวุโสที่นอนยากบอกหนวกหู ไม่รู้กาลเทศะ ส่วนผู้อาวุโสที่มองโลกแง่ดีชอบความมีชีวิตชีวา
หอหญิงตรงหัวโค้งตรงข้ามห้องสมุดเคยมีตำรวจมาสืบสวน ตามหาใครบางคน
ใครนะ ใครกัน ขโมยชุดชั้นในละอ่อนที่ตากแขวนไว้บนราวริมระเบียง
กล้องวงจรปิดถูกเปิด
นักเขียนแซวกันหลังแก้วเหล้า เสียใจกับสาวๆ เจ้าของเครื่องนุ่งห่ม บ้างดีใจที่หลักฐานในภาพระบุชัดว่ารูปพรรณสัณฐานมิจฉาชีพห่างไกลและไม่ใช่คนที่เรารู้จัก
พูดถึงตำรวจ ซอยนี้เคยมีเหตุให้ถึงหูถึงมือเจ้าหน้าที่พิทักษ์สันติราษฎร์อยู่บ้าง เช่น ในค่ำคืนดึกดื่นที่มีบางเราใช้เสียงดังรบกวนเพื่อนบ้าน ยามวิกาลนั้นจึงมีตำรวจมาตักเตือน และมีบ้างเหมือนกันที่ไม่ถึงมือตำรวจ เป็นลูกค้าเกสต์เฮาส์นั่นเองที่ตะโกนบอกให้เจ้าของบ้านหยุดการใช้ปาก และถือกีตาร์ออกจากบ้านไปอย่างขมขื่น
ขี้เมาบางคนบ่นเบาๆ ว่าเพลงที่ร้องก็ออกไพเราะ ทำไมมาขับไล่กัน
เพื่อนฝูงตบหลังโอบไหล่ให้กำลังใจอย่างสุภาพว่า–เพลงที่มึงร้องดีเลยโว้ย ดีมาก แต่มันดึกแล้วเข้าใจไหม คนเขาจะหลับจะนอน
ผู้หญิงคนนั้นถูกพูดถึงบ่อยๆ
แคแรกเตอร์นางไม่เหมือนใครเลย กิจกรรมที่นางทำทุกวันยิ่งแตกต่าง
ทั้งเช้าและเย็น นางขี่มอไซค์มาพร้อมกับข้าวปลาอาหารเต็มตะกร้า อาหารหมาแมว ขับและแวะจอดตามจุดต่างๆ ทั่วเมือง
เข้าใจว่าซอยนี้มีหมาแมวบุตรบุญธรรมของนางนับสิบ บางบ้านขอบคุณในไมตรี บางบ้านแปะป้ายว่าขอร้อง อย่าให้ (เลี้ยงเองไหว) เศษอาหารที่กระจัดกระจายมันดึงดูดแมลงวัน หนู มด ฯลฯ ยามมองก็ไม่งามตา
คำขอร้องได้ผลตรงหน้าป้าย ห่างไปนิด แม่พระแห่งหมาแมวยังคงทำการงานของนางอย่างเข้มแข็งราวรับเงินหมื่นทุกเดือนจากเทศบาล
ตรงโน้นมีโฮสเทล สะอาดสะอ้าน ราคาไม่เกินจะจ่าย มุมนั้นมีร้านซักรีด ร้านข้าวซอย น้ำเงี้ยว
หน้าวัดมีศาลาแหล่งรวมพลของคนเกษียณ มีลานกว้างและเครื่องเล่น ออกกำลังกาย ตกเย็นบางวันมีแก๊งแอโรบิก ยืดเหยียดโยกย้าย ชวนมอง
ไรเดอร์หนุ่มสาวดูเหมือนจะชอบม้าหินใต้ต้นหูกระจง มันให้ร่มเงาดีอยู่ ระหว่างรอออร์เดอร์รัวๆ
ฝูงหมาอ้วนใจดี เมื่อก่อนพวกมันเคยรุมเห่าผู้คนแปลกหน้าที่แต่งกายรุงรังบ้าง เดี๋ยวนี้คงเบื่อ เจอใครก็วิ่งกระดิกหาง มองหาอาหารในมืออาคันตุกะ
ตรงข้ามหอหญิง บ้านไม้สองชั้นที่มีหนังสือเยอะๆ นั้นมีศิลปิน นักคิด นักเขียน แวะเวียนมาบ่อยๆ บางวันทั้งคนเขียนคนอ่านมากันทีเป็นร้อย นักการเมืองคูลๆ ก็เคยมา มันเป็นศูนย์รวมหลากหลาย ผู้คนจากทั่วสารทิศ ความคิดแตกต่างมาปะทะแลกเปลี่ยนทัศนะกัน
วาด รวี อ่าน ‘บทกวีคือการทรยศ’ เป็นสปีชเปิด ‘น่านโปเอซี’ ครั้งแรกที่นี่ เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2018
ศุ บุญเลี้ยง มาร้องเพลง ‘น่านน่ะสิ’ ค่ำวันที่ 22 ธันวาคม 2020 งานเปิดตัวหนังสือ ‘ตอบแสงตะวัน’
อุรุดา โควินท์, บินหลา สันกาลาคีรี, สุมาลี เอกชนนิยม, เรืองรอง รุ่งรัศมี, ธีร์ อันมัย, ตะวัน วัตุยา, เมฆ’ ครึ่งฟ้า, รชา พรมภวังค์, วนะ วรรลยางกูร, อนุชา วรรณาสุนทรไชย, ซะการีย์ยา อมตยา, ปาณิส โพธิ์ศรีวังชัย, พันธวัฒน์ เศรษฐวิไล, โตมร ศุขปรีชา, ยุทธนา อัจฉริยวิญญู, ธวัชชัย พัฒนาภรณ์, ภัทรุตม์ สายะเสวี, ฮวก-ชวด สุดสะแนน, บอย อิมเมจิ้น, อินทรชัย พาณิชกุล, ธิติ มีแต้ม, จิรเดช โอภาสพันธ์วงศ์ ฯลฯ ถ้าจะเอ่ยชื่อให้ครบคงต้องใช้พื้นที่อีกหลายบรรทัด ที่ผู้คนในยุทธจักรโคจรควบม้ามาเยือน
ความเป็นเพื่อนของใครหลายคนงอกงามผลิบานที่นี่ มีสถานที่ มีเวลา พลังอำนาจและการสร้างสรรค์ในมิติต่างๆ ย่อมก่อเกิด
อดีตเป็นเช่นนั้น ปัจจุบันและอนาคต สิ่งใหม่ๆ ยังดำเนินไปเช่นนั้น เป็นแสง เป็นสีสันรูปเงาให้เราขบเคี้ยวดื่มกิน เป็นจินตนาการที่ขับเคลื่อนสังคมสู่เสรีภาพ
บางทีคุณอาจไม่รู้.. ซอยนี้ยังมีกวีอีกคน–กัญชญา
เขายังลมหายใจด้วยกาแฟ เบียร์ หนังสือ และแมวสามตัว
เจ้าตัวอ้วนกลมสีขาวแต้มจุดดำนั้นชื่อ ‘มณเฑียร’ เวลาชาวน่านได้ยินคำนี้ หลายคนคิดถึงซอยและชุมชน บางคนบอกว่าเป็นชื่อวัด กวีหนุ่มพ่นบุหรี่ยัดไส้กัญชายิ้มอ่อนๆ บอกว่า–แมวผมเอง มันน่ารักและนิสัยดี แปลกๆ หน่อยตรงที่เวลามีความสุขเสือกชอบกัด.
เรื่องและภาพ วรพจน์ พันธุ์พงศ์