essay

บางชื่อในเฟซบุ๊ก และโทรศัพท์บางเบอร์ที่ไม่มีผู้รับสายอีกแล้ว

         ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่หรือไม่ 

         โดยไม่มีเหตุผล ผมเปิดไปดูเฟรนด์ลิสต์ในเฟซบุ๊กของตัวเอง ไล่ดูจากรายชื่อแรกไปเร็วๆ มีชื่อที่จำได้และจำไม่ได้ บางชื่อเกือบจะกดลบออก แต่ก็ยังไม่ได้ทำ มีเหตุผลอะไรบางอย่างที่อยากกดลบ และมีเหตุผลอะไรบางอย่างที่ยังเก็บไว้ 

         ไล่ดูไปเรื่อยๆ แบบนี้ แล้วก็เห็นชื่อมิตรที่ได้จากไปแล้ว 

         ล้วนแต่ too young to die 

 

         ผมหยุดอยู่กับแต่ละชื่อไม่นานนัก ส่วนใหญ่ไม่ได้เปิดเข้าไปดูเฟซบุ๊กของเขา ผมคิดอะไรอยู่ในใจหรือ ผมไม่รู้แน่ชัดเหมือนกัน 

         เพื่อนของผมตายไปหลายคน อยู่มาอายุขนาดนี้ต้องมีเพื่อนที่ตายไปเป็นเรื่องธรรมดา 

         เพื่อนสมัยเรียนมหาวิทยาลัย เท่าที่รู้ คนหนึ่งตายไปราว 20 ปีแล้ว อีกคนหนึ่งก็น่าจะราวๆ 10 ปี 

          2 ปีก่อน เป็นเพื่อนที่ร่วมรับรู้ปัญหาจิตใจลึกๆ อีกคน คนนี้คบหากันจากไต้หวันต่อเนื่องมาจนเขาตายจาก 

 

          ปีที่แล้ว ปีนี้ ก็มีคนจากไป 

          ผมไม่ได้ลบเบอร์โทรศัพท์ของเขาในทันที บางคนผ่านไปช่วงหนึ่งแล้วลบ บางเบอร์ก็ยังเก็บอยู่ในเครื่อง เช่นเดียวกับชื่อบางชื่อในเฟซบุ๊ก ผมยังคงปล่อยไว้อย่างเดิม เหมือนจะเอาไว้ให้ใจตัวเองแตะต้องสัมผัส 

          ผมมักจะคิดถึงเพื่อนแต่ละคนในแต่ละช่วงอารมณ์ งานบางชิ้นขณะที่เขียนไปแต่ละวันก็คิดถึงเพื่อนไป บางวันผมอยากกดโทรศัพท์ไปที่เบอร์เดิมเพื่อบ่นหรือบอกเล่าอะไรบางอย่าง บางวันผมอยากบอกเพื่อน ว่าวันนี้ผมเก่งมากที่ทำงานได้อย่างน่าชื่นชมตัวเอง 

          ผมกำลังทำงาน และส่วนใหญ่แล้วผมก็ใช้เวลาชีวิตไปกับการเขียนหนังสือ 

          ผมมักคิดถึงเพื่อนบางคนเวลาที่ผมกำลังทำงาน ผมรู้ว่าเพื่อนจะมีความสุขที่รู้ว่าผมกำลังทำงานชิ้นที่เคยคุยกับเขาไว้ ผมรู้ว่าเขารอคอยกระดาษแต่ละแผ่นที่ผ่านออกมาจากมือของผม

 

          ผมละอายใจ หากตัวเองจะไม่ทำงาน ผมรู้ว่าเพื่อนของผมรอคอยกระดาษแต่ละแผ่นที่ผมจะเขียนจะแปลออกมา ผมรู้ว่าเขาห่วง และส่งกำลังใจช่วย บางวันผมบอกเขาในใจว่าผมเหนื่อยและคิดถึงเขา ถ้าเขายังอยู่ เราคงไปกินข้าวกินเบียร์กันสักมื้อ หรือบางทีเราอาจไปนั่งมองแม่น้ำ

         เวลาไปเจอเกสต์เฮาส์ หรือที่พักที่ชอบ ผมคิดถึงเพื่อนทุกที ผมรู้ว่าเขาจะชอบแบบเดียวกับผม 

 

         ปีนี้ผมน่าจะมีหนังสือใหม่ออกมา 

         ปีหน้าผมคาดหวังว่าตนเองจะจบงานอีกแฟ้มหนึ่งได้สำเร็จ 

         ผมมีแผนงานเรียงลำดับรอให้ไปทำอีกหลายอย่าง 

 

         เวลาหนังสือเล่มใหม่ออก ผมอยากเอาไปให้เพื่อนบางคนเป็นการเฉพาะ ผมรู้ว่าหนังสือเล่มใหม่แต่ละเล่มสามารถช่วยให้จิตใจของเพื่อนชุ่มฉ่ำขึ้นมาได้บ้าง โลกธุรกิจมันไม่ทำให้หัวใจของเขาชุ่มฉ่ำแบบนี้ 

         ผมกำลังตั้งใจทำงาน และผมกำลังคิดถึงเพื่อนบางคนที่ตายจากไป

         นี่ใกล้วันครบรอบวันตายของเขาอีกแล้ว.

 

 

nandialogue

 

 

เรื่องและภาพโดย เรืองรอง รุ่งรัศมี

หมายเหตุ : เป็นบันทึกเก่าเก็บ ไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่าเคยเผยแพร่มาก่อนหรือไม่ ผู้เขียนส่งต้นฉบับมาให้ วรพจน์ พันธุ์พงศ์ ในปี 2015 เวที nan dialogue ตั้งใจนำเสนอด้วยความระลึกถึง


เกี่ยวกับผู้เขียน : เรืองรอง รุ่งรัศมี (1953-2020) เป็นนักเขียน นักแปล คุรุเรื่องจีน มีผลงานหนังสือมากมาย อาทิ เดียวดายใต้เงาจันทร์, รวยรินกลิ่นชา, หมาป่าบนทุ่งกระดาษ, ธุลีดาวของยุคสมัย, มือสังหาร, กิ่งไผ่และดวงโคม, ความลับของทะเล, โอบกอดจันทรา ฯลฯ เขียนภาพเป็นงานอดิเรก โปรเจ็กต์แห่งชีวิตคือพจนานุกรมจีน/ไทย ที่มุมานะทำโดยลำพังนานปี เขาจากไปก่อนที่งานจะแล้วเสร็จ

You may also like...