สวัสดีครับพี่หนึ่ง
สองสามวันที่ผ่านมา ผมกับครอบครัวต้องอยู่โดยไม่มีไฟฟ้าใช้ในบริเวณส่วนใหญ่ของบ้าน
เข้าใจว่าบรรดาหนูซึ่งก็เป็นผู้อยู่อาศัยฟรีในบ้านหลังเดียวกันกับพวกเราคงเผลอหรือมันเขี้ยวกัดสายไฟบนฝ้าเพดานจนขาดกระจุยและช็อตกระจาย คัทเอาท์หลักที่มักจะตัดอยู่บ่อยๆ หลายวันก่อนหน้า ทำตัวเป็นเซฟตี้คัทที่ดีให้กับผู้อยู่อาศัยด้วยการไม่อนุญาตให้เราสับขึ้นไปยังตำแหน่ง on ได้อีกจนกว่าจะมีใครไปแก้ปัญหาสายไฟขาดหรือไฟฟ้าลัดวงจรเสียก่อน
ตอนแรกชั่งใจอยู่ว่าจะเรียกข่างไฟฟ้ามาแก้ปัญหาไปก่อนดีไหม แต่ก็ไม่มั่นใจว่าช่างที่เรียกมาจะแก้ปัญหาได้รึเปล่าเพราะงานไฟฟ้าทั้งหมดในบ้านนั้นถูกจัดการและวางระบบโดยดีนแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น อีกอย่าง เหลืออีกไม่กี่วันดีนก็จะกลับมาจากเกาะอังกฤษแล้วด้วย พวกเราเลยตัดสินใจอยู่กันแบบกึ่งมีและไม่มีไฟฟ้าใช้ไปก่อน
เรื่องสำคัญที่สุดของบ้านที่ไม่มีไฟฟ้าใช้ก็คือตู้เย็น แวบแรกที่รู้ว่าไฟจะดับนานตอนกลางดึกนั้นผมนึกถึงสิ่งประดิษฐ์ตัวนี้ในทันที อาหารที่แช่ไว้จะเป็นอย่างไร น้ำแข็งจะละลายกลายเป็นน้ำไหลเจิ่งนอนพื้นหรือไม่ เช้าของวันแรกที่ตู้เย็นปราศจากไฟฟ้า ผมเปิดมันออกมาเพื่อสำรวจความเสียหายและวัดระดับความเย็น ปรากฏว่าอุณหภูมิภายในตู้ยังพอมีความเย็นอยู่บ้าง กับข้าวและเนื้อสัตว์ยังพอมีสภาพที่จะทำกินได้อยู่ นี่ทำให้ผมตระหนักได้ถึงแก่นของความเป็นตู้เย็น คือไม่มีใช่แค่สักแต่ผลิตความเย็น หากแต่ยังต้องเก็บความเย็นที่ผลิตออกมาไว้ให้นานที่สุดเพื่อให้ประหยัดไฟด้วย
ดูๆ ไปก็คล้ายบัญชีรายรับรายจ่ายส่วนบุคคล จะรับเท่าไรก็ขึ้นอยู่กับกว่าจ่ายออกไปเท่าไรด้วย ถ้าจ่ายน้อยก็ไม่จำเป็นต้องรับมาก
โชคดีที่ตั้งแต่พวกเราย้ายมาอยู่บ้านดีนครั้งแรกๆ ดีนช่วยเดินสายไฟจากด้านนอกมาไว้ที่ชานบ้านเพื่อเสียบปลั๊กปั๊มน้ำสำหรับบ่อเลี้ยงปลา ปลั๊กพ่วงตัวนี้จะเป็นแหล่งพลังงานให้ตู้เย็นจนกระทั่งวันที่เราจะมีไฟฟ้าใช้อย่างปกติ
หลังส่งลูกเข้าโรงเรียนเสร็จผมกับหลินก็ไปหาซื้อปลั๊กพ่วงที่มีสายยาวสักสิบเมตรมาต่อกับปลั๊กพ่วงตัวเดิมเพื่อลำเลียงกระแสไฟฟ้าไปยังตู้เย็น ทุกวันนี้ตู้เย็นนี่โคตรสำคัญเลยนะครับ นอกจากจะทำความเย็นให้กับข้าวไม่เน่าเสียแล้ว ยังเป็นที่เก็บอาหารอีกหลายอย่างที่มักจะอายุไม่ยืดเวลาวางไว้ข้างนอกด้วยที่มันล่อมด แมลง แมลงสาบ และหนูเสียเหลือเกิน เดี๋ยวนี้ผมหรือลูกซื้อขนมอะไรมาก็มักแช่ไว้ในตู้เย็น เอาออกมากินอาจไม่อร่อยเหมือนตอนเอาไว้ที่อุณหภูมิห้อง แต่ก็ปลอดภัยและดีกว่าโดนมดตอมหรือหนูแทะ (แหะ แหะ)
อยู่บ้านป่าหรือบ้านนอกซึ่งเต็มไปด้วยสัตว์น้อยใหญ่นี่เผลอๆ ตู้เย็นอาจสำคัญกว่าอยู่บ้านในเมืองที่ขาดเหลืออะไรก็สั่งซื้อได้ทันทีทางโทรศัพท์เสียอีก
กาแฟซึ่งเป็นเครื่องดื่มหลักในช่วงกลางวันของเราก็ต้องมี เราเริ่มจากต้มน้ำจากเตาแล้วทำกาแฟดริปแบบที่ฮิปสเตอร์ชอบทำกัน แต่ไม่ได้หยอดอย่างบรรจงหรอกครับ เทๆ ให้น้ำร้อนแม่งไหลผ่านผงกาแฟก็พอได้กาแฟดำมาจิบแก้ขัด วันรุ่งขึ้นเริ่มรู้สึกรักโลกไม่อยากเปลืองกระดาษกรอง ก็ไปคว้าเอากามอคค่าพอตของดีนมาใช้โดยมิได้บอกกล่าว (ก็เจ้าของบ้านไม่อยู่ และสิ่งที่เราทำก็ไม่ได้ทำให้ของเค้าเสียหายนี่หน่า) จวบจนวันนี้หลินย้ายเครื่องชงกาแฟความดันคู่ใจที่ต้องใช้ไฟฟ้ามาไว้บนชั้นข้างๆ ตู้เย็นซึ่งมีปลั๊กพ่วงอยู่ เป็นอันว่าผ่านมาสามสี่วันพวกเราหาวิธีผลิตของเหลวสีดำในแบบที่เราคุ้นชินและปรารถนากลับมาได้ดังเดิม
ยามนี้โคมไฟหัวเตียงที่หลินและลูกซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิดก็ถูกย้ายมาไว้บนโต๊ะกินข้าวที่ชานบ้านไว้ส่องสว่างยามค่ำคืนคู่กับเทียนไขในขวดโหลเปล่าที่เคยใส่แตงกวาดองไม่กี่วันก่อน ทุกวันนี้ถ้าจะทำกับข้าวกินกันเราก็มักจะต้องเริ่มสักห้าโมงและทำให้เสร็จภายในหกโมง แสงสว่างประดิษฐ์นั้นมีจำกัดและมีแค่บางจุด บางกิจกรรมนั้นต้องทำโดยอาศัยแสงสว่างจากธรรมชาติ และทางเดียวที่จะทำได้ก็คือการเคารพเวลาธรรมชาติ ใต้หลังคาในบ้านที่เราอยู่ แค่หกโมงเย็นพื้นที่ในครัวก็เริ่มมืดแล้ว ดังนั้นทำอาหารอะไรก็เอาให้เสร็จก่อนนั้น มันทำให้ผมนึกถึงความสุขอย่างนึงของการตื่นเช้าหรือเช้ามืดในช่วงที่ผ่านมาด้วยว่า บางทีนอกจากจะนั่งดื่มกาแฟ สูบบุหรี่ อ่านหนังสือ หรือดูโทรศัพท์อย่างเงียบสงบเพียงคนเดียวแล้ว ผมยังมักเอาเสื้อผ้าทิ้งลงเครื่องซักผ้าไว้ด้วย พอฟ้าสางและพระอาทิตย์เริ่มให้ความร้อนและแสงสว่าง เสื้อผ้าเปียกๆ ที่หอมฉุยจากน้ำยาปรับผ้านุ่มก็ถูกพาดบนราวตั้งแต่นาทีแรกๆ ของกระบวนตากแห้งตามธรรมชาติ ถ้าวันนั้นไม่มีฝน เพียงแค่เที่ยงวันเสื้อผ้าเหล่านั้นก็แห้งสนิท
นับเป็นความโรคจิตอย่างหนึ่งของผมที่ในบางเรื่องบางราวชอบใช้ทุกหยดของโอกาสให้คุ้มค่าดั่งตาแก่ที่แสนตระหนี่ขี้เหนียว (ฮาฮา)
ตกค่ำหลังมื้ออาหารเย็น ลูกชายผมหิ้วตะเกียงไฟฉายอีกอันเข้าห้องน้ำเพื่อส่องแสงสลัวๆ เวลาอาบน้ำแปรงฟัน และหิ้วต่อไปห้องนอนเพื่อแต่งตัว รวมทั้งใช้โคมไฟอันเดียวกันนี้ให้แสงสำหรับการอ่านหนังสือก่อนนอนอีกด้วย
ปกติครอบครัวเราก็เข้านอนกันเร็วอยู่แล้ว สองทุ่มไม่เกินสามก็หัวถึงหมอน แต่พอต้องใช้ชีวิตแบบมีไฟฟ้ากระปริบกระปรอยเรายิ่งเข้านอนเร็วกว่าเดิม เดี๋ยวนี้ทุ่มนึงก็เริ่มจะหลับตากันแล้ว แม้ไม่มีไฟฟ้าสำหรับแสงสว่างและพัดลมในห้อง แต่ก็โชคดีบนความบกพร่องการเดินไฟอีกจุดของดีน ตอนช่างมาติดตั้งแอร์เมื่อสองเดือนก่อน สายไฟสำหรับเครื่องปรับอากาศในห้องนอนที่ดีนทำไว้นั้นใช้การไม่ได้ ช่างแอร์ชื่อเบิร์ดเลยเดินสายไฟแอร์ไปเสียบไว้ที่ปลั๊กนอกบ้าน ตอนพวกเรานอนกันมืดๆ ตั้งแต่หัวค่ำจึงเย็นฉ่ำแบบสบายๆ ด้วยความเย็นจากเครื่องปรับอากาศแทนที่จะเป็นลมพัดเอื่อยๆ จากพัดลม
ผมมาทบทวนดู ในยามที่ไฟฟ้าขาดแคลน สิ่งที่เรารักษาไว้และทำให้มันเกิดขึ้นอยู่รอบๆ ตัวเราก็คือความเย็น เย็นในตู้เย็น และเย็นในตอนนอน ใครๆ มักพูดถึงความสำคัญของความร้อนในแง่ของการเป็นแหล่งกำเนิดพลังงานให้มีชีวิตอยู่ได้ ส่วนนึงนั่นอาจเป็นมโนทัศน์ของคนที่มาจากดินแดนเขตหนาว แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนเกาะเขตร้อนในครั้งนี้บอกกับผมว่าความความเย็นอาจสำคัญกว่าในดินแดนแถบนี้ เย็นโดยสัมพัทธ์เมื่อเทียบกับอากาศโดยรอบ เย็นพอที่จะทำให้ของไม่เน่าและอารมณ์คนไม่บูด
โดยรวมๆ ผมมีความสุขกับการไม่มีไฟฟ้าใช้บ้าง ไม่ได้โรแมนติไซส์แบบโฆษณาโง่ๆ ของบริษัทผูกขาดเบียร์เจ้านึง แต่สุขกับการแก้ปัญหาเรื่องนี้ของสมาชิกในครอบครัวและการปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ไม่ปกติ อีกไม่กี่วันบ้านเราก็จะกลับมามีไฟฟ้าใช้ เราจะไม่ถวิลหากลับไปใช้ชีวิตแบบกึ่งมีไฟฟ้าใช้แบบถาวรหรอก แต่เราจะจำได้ว่าในช่วงนั้นเรามีความรู้สึกดีกับอะไรบ้าง และบางทีอาจผนวกเอากิจกรรมหรือกิจวัตรแบบไม่มีไฟฟ้ามาใช้ตอนที่เรามีไฟฟ้าใช้อย่างเหลือเฟือก็ได้
ทุกอย่างค่อยเป็นค่อยไป งวดนี้ผมส่งงานเร็วขึ้นหนึ่งวัน หวังใจไปยังงวดหน้าว่าจะส่งจดหมายถึงพี่เร็วขึ้นกว่าอีกนิด
ด้วยรักและคิดถึงครับลูกพี่
จ๊อก
ตอบ จ๊อก
คนนอกแสงไฟอย่างเราน่าจะเข้าใจดีมากในเรื่องเล่าของคุณ ตั้งแต่เนรเทศตัวเองจากเมืองหลวงมาอยู่น่าน ความมืดก็เป็นเรื่องใกล้ชิด กลายเป็นคนที่ใช้ชีวิตตามแสงแดด วันไหนตื่นเช้า ตะวันยังไม่โผล่ก็นอนกระดิกตีนเล่นใต้ผ้าห่ม รอแสงและการเริ่มต้นวันใหม่ ค่ำลง ไม่มีการงานเร่งร้อนก็นอนแม่งเลย โชคดีว่าเป็นพวกหัวถึงหมอนก็หลับ หลับได้ทุกที่ ทุกสถานการณ์ (นักนอนรางวัลหมอนทองคำ) วันไหนยังไม่อยากนอนเร็วก็ก่อไฟ นั่งเล่นอยู่มืดๆ ไฟมี แต่ใช้น้อย ไม่ค่อยเปิด หรือเปิดเท่าที่จำเป็นที่สุด จบกิจกรรมแห่งแสงสว่างนั้นแล้วก็ปิดไฟ คืนโลกสู่แสงธรรมชาติ
บ้านป่าหน้าฝน ไฟฉายต้องมีติดมือไว้ให้มั่น นอกจากความชื้น ลื่น มดแมลงมันเยอะ เดินในความมืดสุ่มเสี่ยงกว่าฤดูกาลอื่นๆ พูดเรื่องแมลง สักสิบวันก่อนเราโดนตัวอะไรกัดไม่รู้ ขับรถอยู่ดีๆ รู้สึกว่าเจ็บจี๊ดขึ้นมาบริเวณโคนขา เจ็บแสบปวดร้อน ถึงขนาดต้องหาที่จอด ถอดกางเกง หาหยูกยาทาตอนนั้น (ยังหาสัตว์ร้ายรายนี้ไม่มีเจอ เดาไม่ถูกว่าตัวอะไร เพราะวินาทีที่โดนเอามือเอื้อมไปบีบขยี้ก็คล้ายมีแต่ความว่างเปล่า มันกัดแล้วหายหัวไปเลย) พิษบาดแผลเหมือนงูมากกว่ามดหรือแมลงป่อง ปวดรุนแรงต่อเนื่องหลายชั่วโมง เดินไม่ตรงว่างั้นเถอะ รุ่งเช้าอีกวัน บวม เนื้ออ่อนๆ เป็นก้อนแข็งกินบริเวณกว้าง สี่ห้าวันละมั้งค่อยทุเลาลง หายเจ็บแสบ ปวด คัน แต่ก้มมองตอนนี้ก็ยังมีร่องรอยแผลตกสะเก็ดว่าโดนกัด
พูดได้ว่า ประสบการณ์ห้าสิบกว่าปี นี่คือการโดนสัตว์กัดที่สาหัสที่สุด และอย่างที่บอก ยังหาคู่กรณีไม่ได้ โคตรแปลกน่ะ กัดแล้วหายไปเลย พิษร้ายรุนแรงแบบว่าถ้าโดนสักสี่ห้าตัวนี่คงถึงมือหมอ เออ อะไรก็เกิดขึ้นได้จริงๆ ว่ะ ชีวิต แม้ในยามที่เหมือนเป็นไปไม่ได้ และไม่มีที่มาที่ไปใดๆ เลย
แลกกันละมั้ง ช่วงนี้คนกรุงเทพฯ ทุกข์หนักด้วยน้ำท่วม คนบ้านป่าก็เผชิญพิษภัยเถื่อนๆ งงๆ อะไรแบบนี้ไป ใครจะมีสายรุ้งให้นั่งมองตลอดเวลา
บ้านเราไม่มีตู้เย็น กินเบียร์และถนอมอาหารจากการแชร์กับเพื่อนบ้าน ไฟมันไม่พอ ใช้เยอะๆ มีสิ่งอำนวยความสะดวกมาก ไฟตก บางเรื่องเลยต้องหาวิธีเอาตัวรอด ซึ่งก็รอดบ้าง ไม่รอดบ้าง เหตุการณ์พวกไฟดับอาจนับเป็นความปกติอย่างหนึ่ง (หลังๆ ดีขึ้นมากแล้ว) ดับที ถ้าอยู่บ้านก็อาจแก้เรื่องอาหารทัน ถ้าไม่อยู่ก็ต้องทำใจกับเรื่องของเสียหายเน่าบูด แต่อยู่นานๆ ไป ความที่พอรู้สถิติการติดการดับของฟืนไฟก็ทำให้สต็อกอาหารไม่มีนักหรอก หาอยู่หากินไปวันต่อวันมากกว่า มันชัวร์ และว่าไปก็ดีที่ได้กินของสดๆ
เลือกได้ ก็เลือกแบบฟูลอ็อปชั่นนั่นแหละ ขอถนน น้ำ ไฟ ให้สมบูรณ์เหมือนชาวกรุง ชอบมาก อยากได้อยากมี แต่ระหว่างที่ยังเลือกไม่ได้ก็บริหารเงื่อนไข ทำยังไงให้อยู่รอดและมีคุณภาพชีวิตที่ดีพอสมควร
ตู้เย็นของคุณทำให้เราคิดถึงตู้เย็นในห้อง 214 เพื่อนหนุ่มคนหนึ่งซื้อมันมาด้วยความหวังว่าจะแช่เบียร์เย็นเฉียบไว้ดื่มกิน ความปรารถนาแสนสามัญนี้เป็นจริงในช่วงสั้นๆ สั้นมาก นอกนั้นมันคือตู้เย็นที่ว่างเปล่า เสียบปลั๊กไว้ ไฟแรง ไฟดีตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง แต่มันไม่มีข้าวของในนั้นเลย ทั้งเบียร์ที่วาดหวัง แม้กระทั่งน้ำเปล่า นานวันเข้า เรา (ผู้เป็นหนึ่งในสมาชิกรูมเมต) ก็คิดว่าควรถอดปลั๊กออกเถอะ เสียชาติเกิด มึงจะเป็นตู้เย็นไปทำแมวอะไร
เพื่อนหนุ่มทยอยลาจากห้อง 214 กันทีละคน สุดท้ายเหลือเพียงเรา และเขา ผู้เป็นเจ้าของก็ยังทิ้งตู้เย็นขนาดสักสองฟุตคูณสองฟุตตู้นี้ไว้ในห้อง หลายปีผ่าน มันคงยังเป็นตู้เย็นที่อาภัพที่สุดในโลกเหมือนเดิม จนสุดท้ายที่เราย้ายมาจังหวัดน่าน หอบหิ้วมันมาด้วย ใส่ท้ายกระบะรถเพื่อนหนุ่มคนหนึ่งมา แต่ไม่ได้ยกลงหรอก นาทีที่ขนสัมภาระลงคิดว่าอยู่กับเราน่าจะเปล่าประโยชน์ เลยยกให้เจ้าของรถไป เอาใจช่วยว่ามันคงกลับมาเป็นตู้เย็นปกติ มีไฟให้กิน มีเบียร์ให้แช่ เหมือนตู้เย็นอื่นๆ
พะงันหน้าฝนเป็นยังไงบ้าง มรสุมหนักเบาอย่างไรปีนี้ ทางน่าน ฝนยังเยอะ เราเป็นคนรักของสายฝนที่หลายใจ วันไหนมีแดดโคตรแฮปปี้ ฝนเย็นดี ฝนดีงามแน่ๆ แต่ตกติดต่อกันหลายวันแล้วชื้นเป็นบ้า หายใจไม่สบาย ขอแดดมาสลับบ้างเถอะครับพี่ ชีวิตที่ดีต้องสลับ ฝน แดด มืด สว่าง วนๆ ไป
มืดอย่างเดียวมันไร้ความหวัง มืดนานแล้วทนไม่ไหว ไฟฟ้าดับ ก็เดินหาเทียนหาตะเกียงมาจุด.
เกี่ยวกับผู้เขียน : จ๊อก (ชัยพร อินทุวิศาลกุล) เป็นคนทำโรงพิมพ์ที่สนใจศิลปะ วรรณกรรม และสังคมการเมือง เป็นผู้อยู่เบื้องหลังเทศกาลหนังสือเล็กๆ หลายครั้ง ใช้ชีวิตอยู่กรุงเทพฯ มานานปี วันนี้ตัดสินใจย้ายไปเป็นชาวเกาะพะงัน ทุกสัปดาห์เขาเขียนจดหมายมาคุยกับ วรพจน์ พันธุ์พงศ์ บรรณาธิการ nan dialogue