“ผมอยากสร้างคอมมูนให้คนมาพูดคุยกัน เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงแบบบ้านสวนดอก ที่น่าน”
‘ติ๊ก’ วิทยา ไชยคำหล้า อายุ 25 ปี เกิดและโตที่เชียงใหม่ พ่อเป็นตำรวจ แม่เปิดร้านลาบและขายข้าวแกง จบมัธยมฯ ต้นจากโรงเรียนหอพระ ทำผ้าป่าหาเงินซื้อเครื่องดนตรีวงโยธวาทิตรุ่นแรก
ปวช. ไปเรียนต่อช่างสถาปัตย์ รู้ตัวว่าชอบ แต่ไม่รัก สนใจศิลปะและดนตรีมากกว่า กลั้นใจอยู่จนครบโควต้า ปวช. 6 ปีจบ ช่วงค้นหาตัวเองใช้ชีวิตเป็นพ่อค้าสายเขียว พ่อค้าข้าวมันไก่ เจ้าของฟาร์มปลาทอง ปลาสวยงาม มีดีเอ็นเอของพ่อค้า อยู่ที่ไหนก็ต้องหาเงินให้ได้ ตอนนี้ย้ายสัมมะโนครัวตามคนรักมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เวียงสา จังหวัดน่าน สนใจเรื่องสมรสเท่าเทียม อนาคตอยากจดทะเบียนสมรส มีลูกบุญธรรม
แม้ว่าจะอยู่ไกลก็ไม่หวั่น เพียงมีความเคลื่อนไหวตามแนวทางประชาธิปไตย เชียงใหม่หรือกรุงเทพฯ เขาพร้อมเดินทางไป แม้ว่าเพื่อนจะขอออกค่าลาบ หลู้ ต้มขม ส้มตำ ข้าวเหนียว ก็ห้าม “ที่นี่ผมเป็นเจ้าเมือง และมื้อนี้ผมก็เป็นเจ้ามือ” ใครจ่าย มีเลิกคบ
หลังงานค่ายฝึกเขียน เขาแสดงความอ่อนโยนท่ามกลางวงล้อมของบทกวี “ผมไปอยู่ที่ไหนมา ถึงไม่รู้จักหนังสือและธรรมชาติเลย” พูดพลางนอนเหยียดยาวบนผืนหญ้าริมตลิ่ง ในยามท้องฟ้าผีตากผ้าอ้อม แสงตะวันจะตกดิน บางวรรคจากห้วงลึกของเขายังถูกบอกเล่าซ้ำๆ
“ใครไม่มีอะไรจะเสีย จงมายืนข้างหลังกู
กูจะวิ่งฝ่าห่ากระสุน
เป็นโล่เหล็กกำบัง
กูจะพามึงไป ไปให้ถึงฝั่งฝัน ฟ้าทองผ่องอำไพ
จงจำไว้! สหาย มึงจงจำไว้!
เมื่อกูล้มลง มึงจงวิ่งไป”
เป็นลูกชายร้านลาบ คุณทำลาบเป็นมั้ย
เป็นสิ โอ้ สุดยอดลาบสองมือ ลาบลีลา ได้หมด
ไม่คิดทำร้านลาบที่เวียงสา ?
ก่อนย้ายมาน่าน มีฟาร์มเล็กๆ โกลด์ฟิชเฮาส์เชียงใหม่ เพาะปลาทองขาย ก่อนนั้นแย่กว่านี้เยอะ ช่วงเรียนมีปัญหากับที่บ้าน ชอบทะเลาะกัน นิดๆ หน่อยๆ โมโหกันแล้ว ออกจากบ้านมากับรถมอไซค์เวฟคันเดียว เช่าคอนโดฯ กับเพื่อน ชีวิตดำดิ่ง เข้าสู่ยุคมืดเต็มตัว ถือเป็นที่สุดในเรื่องระยำตำบอน เมื่อก่อนเป็นสายเขียว ไม่รู้ทำไมตอนนั้นมันยังผิดกฎหมาย
ใช้กัญชาเป็นประจำ ?
สูบทั่วไปแหละ ไปๆ มาๆ เราเข้าถึงแหล่ง ซื้อมาครั้งละเยอะๆ เข้าถึงราคามากกว่า ราคากลางก็รับมาห้าพัน หนึ่งกิโลฯ เป็นกัญชานำเข้ามาจากลาว สูบแล้วฟิน ขายได้กำไร
ขายยังไง
ตัดแบ่งเป็นก้อน จนชีวิตพัง แม่วอนขอให้กลับบ้าน พังเลย โดนจับหลายครั้ง ข้อหาครอบครองกัญชา มันเกิดการฟอกเงินมหาศาล เริ่มจากกัญชาเหมือนใบเบิกทางไปเรื่องอื่น เป็นธุรกิจ รู้จักกัญชา จะมีเฮโรอีนเข้ามา ดีลกับรุ่นพี่ไปชายแดนเชียงใหม่ เข้าทางบ้านกุ๊บกั๊บ ขึ้นไปเอาของ เรียกว่าหนึ่งออน ขวดสปอนเซอร์ เป็นเฮโรอีน ออนละหมื่นถือว่าถูก แต่เสี่ยง การขึ้นไปเอาของมีขึ้นลงครั้งเดียว ต้องมีการนัดเวลาที่ถูกต้อง เวลาขี้ดินไถลต้องขึ้น มันล่มสลายไปแล้ว คนข้างบนก็โดนจับหมด เป็นความล้มเหลวที่เป็นประสบการณ์ชีวิต เราเอาของมาสามารถเเบ่งได้เป็นบิ๊กชั่งตวงของเฮโรอีน 15 บิ๊ก ราคาประมาณห้าพันบาท เรารู้ว่าเป็นของผิดกฎหมาย โดนจับประหารชีวิตแน่นอน ดีลกับพ่อค้ากัญชารายใหญ่เเลกเปลี่ยนสินค้า เราต้องการขายแค่กัญชา ต่อมาเปิดร้านตัวเองด้วย ขายข้าวมันไก่หลังวัดอุโมงค์
ทำอาหารได้หลายอย่างเหรอ
บ้านเราทำอาหารอยู่แล้ว ข้าวมันไก่ได้ ขายข้าวมันไก่ การทำอาหารคือความสุขตอนอยู่ในครัวนะ แต่ไม่ใช่ทุกอย่าง ไก่ต้ม ไก่ทอด ไก่กรอบ ไก่ราดซอสเขียวหวาน ขายดี แต่เหนื่อย ตีสามตีสี่ไปเอาไก่ นั่งปั่นน้ำจิ้ม ปอกกระเทียม สนุกดี อารมณ์เปิดร้านบังหน้า เกิดเครือข่าย เฟซบุ๊กยังไม่ได้ยืนยันตัวตน ผมก็จะล่าลูกค้า เอากัญชามาทีละลูกหนึ่งกิโลฯ เราก็แบ่งเพื่อน ขายสามสี่ร้อย สต็อกของยี่สิบสามสิบกิโลฯ เก็บเป็นก้อน ชีวิตเริ่มพังตั้งเเต่ช่วงนั้น ตอนนั้นมีแฟนคนแรกเป็นสาวประเภทสอง เป็นความรักจบลงเพราะเรื่องเฮโรอีน แฟนก็ติดเฮโรอีน ทะเลาะกันรุนแรง อกหักแล้วรักพังมาก ล่มสลายพร้อมกับร้านข้าวมันไก่ โดนจับสองครั้ง ตำรวจลงกัญชา เรียกว่ารวยแล้วเลิก
มีเงินเก็บถึงล้านมั้ย
เกิน
ทุกวันนี้อยู่ด้วยเงินก้อนนั้น ?
ไม่ๆ ลงแล้วเริ่มต้นใหม่ เหมือนเวรกรรมแฟนคนนั้นจนวันนี้ ขับรถออกจากบ้าน เขาบอกว่าจะกลับไปหาแม่ แล้วไม่กลับมาเลย
เศร้าหรือเปล่า
สติแตก ตามหาเป็นเดือน คนรู้จักกัน รู้ว่าจะไปตามหาที่ไหน จนวันหนึ่งเลิกตาม ชีวิตก็ดาวน์ไปเรื่องอื่นๆ อีก
มูฟออนได้เพราะอะไร
มีเพื่อนรักเป็นนักศึกษาแพทย์ รู้สึกเป็นเพื่อนที่รักกันได้ สุดท้ายเขาก็ตาย ไปทำศัลยกรรมทำนม หมอเจาะลงปอด ปอดแตกตาย ช่วงนั้นเริ่มจะแยกย้ายกันเราคงเป็นได้แค่เพื่อน เขาคนลำพูน เป็นช่วงกำลังฮีลใจ มาเจอโอม (แฟนคนปัจจุบัน) สุดท้ายโอมก็เป็นคนขับรถพาไปงานศพ เขารู้จักกันด้วย พอดีกับแม่มาตามที่ร้านข้าวมันไก่ ก็ยกของให้แม่หมดเลย เคานท์เตอร์ โต๊ะ
เริ่มใหม่ ขายของกับแม่ ทำปลาทอด ปลานิลทอด ขายโคตรดี วันละสิบห้ากิโลฯ ร้านเจ๊สาวอยู่แม่เหียะ หลังสนามบิน ใกล้ตลาด แต่ยืนนานกว่าตลาด เป็นร้านควันท่วมๆ ยี่สิบสามสิบปี ขายปลาทอดนะ กำไรโคตรดี ขายตั้งแต่สี่โมงถึงสามทุ่ม กำไรวันหนึ่งแปดร้อยถึงพันห้า ปลากิโลฯ ละสี่สิบถึงหกสิบ เราใช้วันหนึ่งสิบห้ากิโลฯ ปลาตัวยักษ์เราขายร้อยห้าสิบในกระทะ พอทำปลาทองเวิร์กตามกระแสตลาด เลิกทอดปลา เลี้ยงปลาทองอย่างเดียว ยืนหนึ่งในเชียงใหม่นะ
เริ่มสนใจปลาทองตอนไหน
ไปเดินงานไม้ดอก เจอร้านป้ายยา ปลาทองสองสามตัว ตู้พันสี่ ปลาทองตัวละร้อยกว่าบาท เอามาเลี้ยงในแฟลตแพทย์ ห้องเล็กๆ ห้องโอม เป็นปลากระแสปลาทองห้าสี ปี 2019 ก่อนโควิด ก่อนม็อบคณะราษฎร เข้าถึงแหล่งปลา ปลาเอามาขุนให้อาหาร แล้วก็ขาย เป็นปลากระแส เราเข้าถึงราคา รับมา 15 บาท ราคาตลาด 120 เราซื้อมาเป็นร้อยตัว
ในแฟลตเลี้ยงกี่ตัว
ที่เล็กๆ วางกะละมังผสมปูนสองใบ ขายได้ซักพักคนขึ้นลงแฟลต ขายออนไลน์ไม่มีหน้าร้าน ป้าหอเริ่มบ่นแหละ จึงย้ายไปทำฟาร์ม ทำเป็นปีเริ่มจาก หยุดวันเสาร์ ลงเสาสร้างเอง พาแฟนชวนแม่ลุงไปทำ เราแยกเกรดปลาไว้ มีทำเพจ เที่ยงคนก็มาจอดหน้าบ้าน ปลาล็อตนี้ B B+ 3A เขียนราคาเลย 80 บาท 50 100 มันสนุกกว่า ร้านปลา open farm เปิดให้ตัก มาดูปลากัน
เคยออกงานวัดที่ใช้กระดาษตักมั้ย
งานวัดไม่เคย แต่เคยออกงานสัตว์เลี้ยง งานบูธ งานตลาด งานไม้ด่าง เมญ่า เอาปลาทองไปออก กำไรเจ็ดพันแปดพัน ขายปลาวันเดียวขายเที่ยงปิดสี่โมง ขาจรขาประจำ พวกประเภทบ้าปลาทอง ลูกค้าเฉพาะ ตามมาจากเพจบ้าง กลุ่มปลาสวยงาม ปากต่อปาก
รับปลาจากที่ไหน
ราชบุรี บ้านโป่งเป็นตลาดปลาสวยงาม Fish Village เอารถกระบะไป ช่วงเปิดร้านไปกับเพื่อนในวงการปลาทองที่พิษณุโลก ไปซื้อปลาเดือนละครั้ง ช้อปปิ้งปลากลับมาขาย เป็นแหล่งของมัน ที่มันเพาะปลาทองและปลาสวยงาม ไม่มีที่ไหนแล้วนอกจากทำเอง บ้านคนทั่วไปใครก็เพาะปลาขายได้
ดูสนุกกับการขายปลาที่เชียงใหม่ ทำไมถึงมาอยู่น่าน
แฟนใช้ทุนเสร็จ สามปี ช่วงน้ำท่วมเวียงสา เคว้งอยู่ ไม่รู้จะทำอะไร อยากเปิดร้านกาแฟคิดว่ายุ่ง มีลูกค้าปลาสวยงามยังดูแลได้ เลยทำร้านปลาสวยงาม ทำแต่ปลาทองเงียบกริบ ศึกษาตลาดเพิ่มปลาเข้ามา สัตว์เลี้ยงเข้ามา สภาพคล่องไม่ได้ ขายสินค้าฟุ่มเฟือย
อยู่น่านแรกๆ รู้สึกยังไง
ไม่รู้ว่าอะไรคือปัญหาใหญ่ตอนนั้น แต่เดินทางไม่ยาก เชียงใหม่สำหรับผมสองชั่วโมงเอง เเพร่ เด่นชัย ไวนะ กลางคืนมันสนุก ขับคนเดียว ถ้าพาเพื่อนไปก็ห้าชั่วโมง นั่งรถทัวร์กรีนบัสเจ็ดถึงแปดชั่วโมง เคยเร่งด่วนไปกรุงเทพฯ เหยียบจากท่าวังผาไปกรุงเทพฯ ห้าชั่วโมง ไปหน้า สทช. เอาสีไปสาด ชอบน่านนะ แต่เหงา เราอยู่จนลืมว่าเป็นคนเชียงใหม่ เชียงใหม่สังคมเมือง เรื่องรถติด ไปเชียงใหม่ก็รู้สึกว่ากูอยู่ตรงนี้มาเหรอ วุ่นวาย ทีแรกมาอยู่น่านทำใจไม่ได้ จะมาอยู่ในป่าเหรอ น่านแค่นี้ เวียงสาแค่นี้ ไม่มีญาติ รู้จักแฟนคนเดียว
เมืองน่านมีขนส่งสาธารณะมั้ย
มีนะ เคยนั่งรถหวานเย็นมั้ย เราเคยนั่งหน้าแห้งหมด เวียงสาเข้าเมือง ประมาณชั่วโมงครึ่ง ขับเองคงประมาณสิบห้านาที อยากลองเอารถมาซ่อมในเมือง รู้จักคนขับรถลุงเริง ลุงเริญ คนขับรถมีไม่กี่คน ไม่กี่คัน บางทีฝากเลือดมาส่งที่สวนตาลแล็ป ครั้งละสี่สิบ ช้า สโลว์ มาถึงน่านแท้ๆ
อันนี้มองว่าเป็นขนส่งสาธารณะ ?
(หัวเราะ) ใช่เหรอ เย็นช้า หน้าแห้ง ถ้าชีวิตว่างกว่านี้จะนั่ง
ม็อบที่ไปนี่เลือกไปแบบไหนบ้าง
ม็อบจัดตั้งก็ไป ม็อบมวลชนก็ไป แต่ไปต้องรู้ว่าไปเพื่ออะไร ไปเพื่อเป็นแนวร่วมในขบวนนั้น เพื่อหน้าที่บางอย่าง รักษาความปลอดภัย ทำในสิ่งที่ทำได้
อยู่เชียงใหม่รู้สึกตื่นตัวทางการเมืองได้ยังไง
โซเชียลมีเดีย เรื่องมันเกิดตั้งแต่รัฐประหาร เรารับรู้ข้อมูลตื่นรู้ เกิดการตั้งคำถาม ต้องออกไปหาความจริง เราแทบไม่อ่านเกี่ยวกับเรื่องนกหวีด เราดูความเป็นกลางเรื่องความสงบเรียบร้อย รัฐบาลออกโฆษณาต้านโกง มันดูย้อนแย้ง คุณโกง แต่สอนต้านโกง โฆษณา สสส. เด็กต้านโกง ในโรงพยาบาลพวกนี้พบเห็นการโกงทุจริต แต่ทุจริตเอง แจ้งว่าทุจริตจะยอมรับมั้ย จริงนะ อีกเรื่องโตมาพร้อมกับ กูkult เราไม่เข้าใจในตอนนั้นเขาเกลียดชังอะไรหนักหนา มันมีมีม จึงทำให้ศึกษา ข้อมูลหายากมาก ใต้ดินมาก ไม่ใช่สายอ่านหนังสือ ชีวิตไม่มีการจดบันทึก แต่ตามจากอินเทอร์เน็ต สงสัยก็ค้นหาดู ‘โดยธรรม’ คืออะไร สงสัยว่าทำไมมีเมียเยอะได้ ทำไมต้องหมอบคลาน
ออกไปร่วมตั้งเเต่ตอนไหน
เราสนใจเรื่องสมรสเท่าเทียม กับโอมเชื่อมั่นในความรัก อนาคตของเราอยากจดทะเบียนสมรส มีลูกบุญธรรมด้วย เป็นโอกาสพิเศษ แฟนเพิ่งจะเปิดคลินิก มีคนมาฝากครรภ์ เขาไม่ต้องการ ถามว่าหมอจะเอามั้ย แฟนเป็นคนผ่าคลอด ปัญหาคือเด็กคนนี้จะถูกไปฝากเลี้ยงบนดอย ครบหนึ่งเดือนจะถูกไปเลี้ยงในบ้านเด็กกำพร้า โอกาสต่อหน้าเราตรงนี้ วันหนึ่งถ้าจะเลือกบุตรบุญธรรม เราไม่มีโอกาสเลือกเด็กได้ ผมก็งง เพิ่งเปิดคลินิกกับร้านปลาได้หกเดือน
น้องเกิดวันตรุษจีน ตั้งชื่อว่าอั่งเปา แฟนผมเป็นพ่อ มันเข้าถึงสิทธิได้ดีกว่า จากไม่คิดไม่ฝันว่าจะมีลูก จริงๆ เป็นคนคิดอยากวางรากฐานชีวิตอยู่นะ พอมีกำแพงตัวนี้เราทำให้รู้ว่าอย่างไรไม่มีวันมีลูก แต่คิดสักวันหนึ่งจะเป็นสองเฒ่าผู้ยิ่งใหญ่ อยู่เวียงสา จะทำร้านปลา เจ๊งร้านปลา ทำอะไรออกไปไหนเรื่องของเรา วันนั้นตัดสินใจ ลงร้านไปเเล้ว พร้อมจริงเหรอ จนแฟนบอกว่าไปดูหน้าเด็กก่อนมั้ย วันสองวันน้องก็เข้าตู้อบ น่ารัก ไม่มีอะไรที่พอดีขนาดนี้แล้วนะ ถ้าทิ้งเขาไป เด็กคนนี้จะต้องมีชีวิตลำบากขนาดไหน นมซักหยดแม่เด็กเค้าก็ไม่ให้กิน ไปอยู่ห้องพิเศษเลย ดย. (ศูนย์อำนวยการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม กรมกิจการเด็กและเยาวชน) มันช้าเกี่ยวกับรับบุตรบุญธรรม อยู่ด้วยกันตลอดปีครึ่ง มาทดลองเลี้ยงหนึ่งปี ดย. เคยไปเยี่ยมบ้าน แล้วทำเอกสารหาย โทรฯ มาบอกต้องไปเยี่ยมบ้านใหม่ แฟนผมจิกเมื่อไรจะเสร็จ ติดโควิดอะไรไม่รู้
รู้สึกดีมั้ย มีลูก
เปลี่ยนความคิดเลย เราไม่มีจุดหมายไง ชีวิตแค่จะทำงานหาเงินกับช่วยเหลือสังคม แฟนก็ชอบ ไปอัลตราซาวด์ ตรวจสุขภาพ ช่วยชาวบ้าน
เห็นบอกว่าอยากตั้งคอมมูน มันเป็นยังไง
ถก คุย แลกเปลี่ยน มันเหมือนที่ผมทำเชียงใหม่ ที่บ้านสวนดอก ขึ้นกระดานว่ามันคืออะไร กระจายอำนาจให้คนรู้ทั้งจังหวัดว่าจะทำอะไร
เป็นการเปิดพื้นที่หรือเปล่า
ประมาณนั้น ให้แลกเปลี่ยนทางความคิด อยากให้มันเป็นพื้นที่เซฟโซนของอุดมการณ์นี้ รู้สึกน่านปิดกั้นข้อมูลด้วยระบบชีวิต น่านถูกกดทับบางอย่าง ถูกปลูกฝังหรือเปล่า ในความเป็นเมืองรักเจ้า ผมเกลียดน่านอยู่อย่าง ทำไมต้องขึ้นป้าย ‘ศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำจังหวัด’ ทำไมอิสลามอยู่ไม่ได้ แล้วเขาไม่ใช่คนเหรอ ต้องรับความหลากหลายหรือเปล่า
คิดยังไงที่เพื่อนๆ ไปม็อบแล้วมีปาร์ตี้ลาบต่อ
มันเป็นมื้อที่ยิ่งใหญ่ จุก อิ่ม กินหลายคน อารมณ์สิบคนผลัดกันจก
เป็นอาหารที่ไปกินคนเดียวได้มั้ย
ได้ แต่มันไม่ได้ ไม่มีกิจกรรมในการกิน เห็นมีคนชอบซอยจุ๊ กิจกรรมการกินที่ได้ร่วมวง ที่ร้านแม่ไปซื้อมา บางทีเป็นลูก เอาไม่ทัน ลาบหมดก่อน ถามเพื่อนดูใครอยากกินลาบมั้ย สั่งลาบ ย่าง ปลาดุกย่าง แกง บอกเพื่อนไว้แล้ว ไปซื้อลาบเจ๊สาว บอกติ๊กใช้มาซื้อ ให้เยอะหน่อย
ทำไมถึงสนใจเอาเรื่องศิลปะมาใช้ในม็อบ
อยากใช้ในรูปแบบสัญลักษณ์ เช่น เราส่งเสริมอักษรฟอนต์ประเทศทวย ที่แทรกอยู่ในกิจกรรม ประเทศทวยเป็นฟอนต์ของงานศิลปะชุดหนึ่ง มีความหมาย ในเจ้าของฟอนต์ก็ดีใช้ชีวิตอย่างมีความหมาย หาหลักการ เราต้องการหาคอมมูน เราต้องการถึงคนรากหญ้า ศิลปะทำให้เป็นการตั้งคำถาม ที่จับตาไม่ไว้วางใจรัฐสภา เกียกกาย ผมทำงานศิลปะของผม ใช้ถ้วยกินข้าวรีไซเคิล มันเหลือจากการกินหมูกระทะเมื่อคืนเขียน ยกเลิก 112
คิดเห็นยังไงกับการร่วมม็อบอภิปรายไม่ไว้วางใจที่เกียกกาย
เราเห็นคนที่ยืนอยู่เหลือไม่กี่คน แต่เป็นคนที่มีใจเหมือนกันทั้งหมด บางคนก็พูดว่านี่คือเศษซากจากคณะราษฎรปี 2020 ที่เหลือรอดมาจนถึงทุกวันนี้ อยู่สามวันสองคืน จนเก็บงานเก็บของ พวกเพื่อนที่เชียงใหม่ก็กลับ เราก็ไปนาบอนต่อ
สนิทกับเพื่อนทางเชียงใหม่ ?
เราเป็นคนเชียงใหม่ที่ไม่รู้ว่ามันมีอะไร เพึ่งรู้ว่าอยู่ตรงข้ามบ้าน ทำให้ได้พบเจอเพื่อน รู้สึกว่ามีกำลังใจรู้สึกว่าไม่ได้สู้คนเดียว บางคนไปม็อบคนเดียว เคว้งเหมือนกันนะ แต่ไปเจอข้างหน้าก็เหมือนได้เพื่อนใหม่ความคิดใหม่
มีส่วนร่วมใน performance art ได้ยังไง
กับเพื่อนที่เชียงใหม่ ตอนแรกไม่เข้าใจเขาจะสื่ออะไร จนไปสัมผัสความเป็นปัจเจกชน อาร์ตติสต์ นักกวี รู้สึกว่าเข้าถึงจิตใจได้ เขาทำกันอยู่แล้ว เราก็เอาด้วยเลย ผมใส่หน้ากาก กาย ฟอกซ์ วันนั้นผมรู้สึกว่าต้องการเป็นตัวแทนแห่งความโกรธแค้นของมวลชน ชูเครื่องหมายของเราให้เกิดภาพจำด้วย ประชุมไม่กี่วัน ทำงานกันหนักมาก วันนั้นเตรียมงานกันตีสาม ผมฝืนกลับไปหาแม่ที่โรงพยาบาล ได้นอนชั่วโมงเดียว ตีห้าไปถ่ายงานตามจุดสำคัญ ตลาด เมญ่า เรื่องแปดปีประยุทธ์ เสร็จ เที่ยงไปต่อม็อบเอเปค ป่าไม้ปะทะกัน กลับมาห้าโมงจัดงานต่อประตูท่าแพ
ทำไมถึงแสดงเป็นคนยกเอาเก้าอี้ ที่ประตูท่าแพ
เก้าอี้อยู่ที่บ้านผมเนิ่นนานยี่สิบปี รอวันฟาดกลับ ผมฟาดไปแล้วคุณคิดอะไรล่ะ ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เรารู้สึกอยากฟาดกลับ ความส้นตีนนั้น เอาความรุนแรงเจ็บแค้นไว้ที่เรา จะฟาดกลับด้วยเก้าอี้เหล็กสัญลักษณ์ความเกลียดชังที่เขามอบให้ ประยุทธ์ออกไปเเล้วอย่างไร อภิปรายไว้วางใจสอนอะไรเราบ้าง ไว้วางใจหมด เราจะหวังอะไรกับการเลือกตั้ง เราน่าจะอ่านเกมขาดได้แล้ว ไปกับเราไม่สามารถสู้แล้วชนะในวันนี้หรือพรุ่งนี้จะเสร็จ ผมเลยต้องหาความรู้ หาสิ่งที่ว่าตัวเองอยู่จุดไหน
คิดเห็นยังไงเวลามีเหตุปะทะกับเจ้าหน้าที่รัฐ
ถ้าพลาดมาแล้วเราโดนยิง อย่างน้อยเรารักษาชีวิตเพื่อนได้ แม้ว่าจะตายโดยไม่ใช้สมองก็ตาม ผมไม่ได้กลัวตายไปแล้ว อยู่ที่ว่าจะตายเพื่อสิ่งใด พอมีลูกเมียก็ห่วงครอบครัวเป็นสำคัญ ควรแลกอย่างมีเหตุผล ทำอะไรในขอบเขตที่เรารับผิดชอบเองได้ มีราคาที่ต้องจ่าย จ่ายเพื่ออะไรเท่านั้นเอง จะไม่พึ่งเพื่อนนักกฎหมายอย่างเดียว ผมไม่เคยมองว่าคนหาประโยชน์จากม็อบ รับจากนักการเมือง ผมยังมีทุนซื้อตั๋วเครื่องบินไปกรุงเทพฯ ซื้อไก่ย่างห้าดาว เลี้ยงเบียร์เพื่อน ไม่เคยทำร้ายใคร แต่อย่าทำร้ายเรา ผมชอบความรุนแรงอย่างสร้างสรรค์ ต้องมีกลไกที่พร้อมจะตอกกลับ ทำสิ่งนี้ไม่ใช่จะไม่มีคนเกลียดเรานะ มีกลุ่มขวาพิฆาตซ้ายที่พร้อมทำร้ายเรา ความรุนแรงมันเกิดขึ้น ดูข่าวใช่มั้ย ชุดดำไม่มีการติดแผ่นป้ายทะเบียนในข่าว มาตีมาทำร้ายเรา
มีวิธีแก้ปัญหายังไง
อยากติดอาวุธในการโต้กลับ นั้นก็คือสติ
ฟังดูเป็นแนวพระพุทธศาสนา คืออะไรเหรอ
ชีวิตทุกคนสำคัญ มันควรต้องมีสติ หนึ่งในสิบควรมี เตือนสติเขาหน้างาน เตือนสติตัวเอง มันยั่วยุเราเพื่อให้เกิดภาพนั้น มันมีคนตั้งใจมาและโดนบังคับมาฝูงหมานั้น ผมจึงอยากลงไปกรุงเทพฯ อยากได้ความรู้เรื่องการสร้างความปลอดภัย
เจอเพื่อนที่โตมาด้วยกันเป็นตำรวจบ้างหรือเปล่า
ม็อบเอเปคเชียงใหม่ เจอรุ่นน้องที่หอพระ ชื่อฟลุค จำหน้าได้ ชี้หน้า มึงใช่มั้ยไอ้ฟลุค รีบถอดป้ายชื่อยืนอยู่แถวหลังเลย เป็นแฟนเพื่อน เคยรู้ว่าสอบตำรวจ การอยู่แนวหน้าทำให้ได้คุยกับตำรวจ จะรู้ว่าบางคนไม่ได้ตั้งใจจะมา นายสั่งมาคือเรื่องจริง ถามเขาว่ามาจากไหนอย่างไร ชวนคุย พยายามดึงสติเขาทำหน้าที่เพื่อครอบครัวของเขา เขาไม่ทำร้ายเรา เราไม่ทำร้ายเขา ถึงแม้จะมีแววตาของความเกลียดชังอยู่ในฝูงคนเหล่านั้น ม็อบที่เชียงใหม่ ตำรวจเชียงใหม่หมดกับกรุงเทพฯ ไม่ใช่เป็นสงครามการเมืองที่ถูกไล่ล่า มีเพื่อนที่อยู่ในเครือทะลุแก๊ส น่าเป็นห่วงมาก
เคยคิดจะย้ายประเทศมั้ย
ย้ายไม่ได้แล้ว เรามีลูก มีครอบครัว ต้องสู้อยู่ เราคิดว่ามันเยี่ยมมากถ้าเราตัวคนเดียว อาจจะไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ โยกย้ายส่ายสะโพกไปเมกา ไม่ได้แล้ว แม่ก็ค้าขาย เราก็อยากให้แม่ได้รัฐสวัสดิการ ผมเกิดในสังคมค้าขายนะ ผมเองก็เป็นพ่อค้า มันอยู่ในดีเอ็นเอ ต้องหาทางให้ครอบครัวอยู่ได้
สนใจเปลี่ยนศาสนาด้วย ?
ตั้งแต่เด็กมีเพื่อนสนิทที่เป็นคริสต์ เราตั้งคำถามทำไมต้องกราบไหว้รูปปั้นที่มนุษย์สร้างขึ้น ไม่ได้ว่าผมไม่ได้นับถืออะไร แต่ไม่อยากเอากำแพงศาสนามาบอกว่าคุณไม่ใช่คน ผมว่าจะไปเปลี่ยนเป็นเครื่องหมายขีด ซึ่งแม่ผมเป็นคนพุทธยังถกไม่จบ แม่ตั้งคำถามว่า ถ้ามึงตาย ใครจะสวดศพให้มึง ใครจะเผาผี ฝังที่ไหน หรือให้อีแร้งกินเหรอ
ศาสนาในบัตรประชาชนก็เกี่ยวกับการตายเท่านั้นสิ ?
ใช่มั้ยล่ะ แม่ก็บอกถ้างั้นมึงก็ไม่ได้บวชให้กู ผมเคยบวช บวชให้พี่ชายเขาเสีย มันคือปมในชีวิตผม พ่อก็เสียเพราะเหล้าเบียร์ พี่ชายก็เหล้าเบียร์ ผมเลยเฉยๆ จากเหล้าเบียร์ กินน้อยไม่ให้ชีวิตเสียศูนย์ เรียนอยู่ ม.1 ก็เที่ยวผับแล้ว คนมันอยากจะไป พอเป็นพ่อแม่แล้วไม่อยากให้ลูกไป มันไม่ปลอดภัย
ถ้าประเทศเป็นตามที่ฝันแล้ว อยากทำอะไรต่อ
ใบ้เหมือนกัน ทำไมรู้สึกว่ากดขี่ มันจะกดขี่ทั้งชีวิต เหมือนจะต้องตายแล้วถูกส่งต่อ อำนาจมันสูงมาก ผมพยายามทำความเข้าใจว่างานที่ไม่ใช่งานคืออะไร อยากเปลี่ยนผ่านอยากจัดสรรเวลา อยากใช้ชีวิตตามใจ อยากเรียนรู้ อยากเก็บความทรงจำไว้ ทุกเส้นทางที่ผ่านมา และเก็บเรื่องราวเป็นไดอารี่ไว้ ความฝันอยากเลี้ยงลูกอยู่บ้าน มีกัญชาเติม ปลูกพริกทำสวน ไม่พอเพียงนะ เลี้ยงควายสบายใจ ผมชอบเลี้ยงสัตว์
ในประเทศนี้คนไม่มีรายได้ประจำจะเลี้ยงลูกยังไง
น่าเป็นห่วงนะ คิดหนักสำหรับคนรุ่นใหม่ มันใช้ทุนสูง ต้องพร้อมจะลางานเป็นค่าใช้จ่ายระยะยาวจนกว่าจะมาเป็นคน ต้องพร้อมจริง ผมอาจไม่พร้อมเรื่องเวลา แต่ไม่พร้อมต้องพร้อมในตอนที่มีกำลัง ไม่รู้ว่าเกษียณตัวเองเมื่อไร ทำอะไร แต่ทุกวันนี้เหมือนเกษียณตลอด
มีจังหวัดอื่นที่อยากไปอยู่ไหม
มีแต่บ้านที่คิดถึงเชียงใหม่ จากบ้านมาอยู่น่านไง แต่กรุงเทพฯ ไม่คิดว่าเป็นบ้านนะ มันร้อน อุดอู้ แออัด ไปเดินม็อบกรุงเทพฯ เพราะรู้สึกมันเป็นใจกลางปัญหา ใจกลางธุรกิจนะ ประเทศไทยคือกรุงเทพฯ นะทุกวันนี้ มีแต่กรุงเทพฯ ที่ได้เลือกตั้งผู้ว่าฯ เชียงใหม่ไม่ได้เลือก ต้องยกเลิกเมืองหลวง อยู่ที่ไหนก็ทำเงินได้ ไปอัดแน่นกันทำไม.
เรื่อง ซัน แสงดาว
ภาพ สองคน