จากสถานีรถไฟสามเสน ซื้อตั๋
นานๆ มีโอกาสเข้ากรุง เจอแม่ค้า
1
“ลูกค้าเยอะมั้ย ช่วงนี้..” ผมเริ่มต้นง่ายๆ สั้นๆ
ไม่คิดว่าคำตอบของเขาจะยาว
จะพูดยังไงดี แท้จริงคือเขาบอกเล่ายืดยาว แต่ความหมายของมันคือการคิดสั้น
2
โชเฟอร์แท็กซี่อายุใกล้ๆ หกสิบ จบ ปวช. การตลาด เป็นคนกรุงเทพฯ โดยกำเนิด
ขับรถรับส่งผู้โดยสารมาแล้วห้
โดนเชิดเงินไปห้าแสน
จากที่เคยมีอยู่มีกิน เขากลายเป็นหนี้ หนี้ทั้งเงินและหนี้หัวใจเจ็
เพราะคนที่เชิดไปก็คือเพื่อนที่
3
“แจ้งตำรวจแล้วก็เงียบ เขาบอกยั
ตัวเขาเองเฝ้าแวะเวียนไปหาที่บ้
“หายหัวไปเลย ตั้งแต่วันนั้นยั
สถานะเดิมไม่ได้ร่ำรวย แต่เคยอยากซื้ออะไร ก็พอจับจ่ายซื้อหา เคยอยากกินอะไรก็ได้กิน เขาสิ้นเนื้อประดาตัวนั่นเรื่
หวาดระแวง กลัวการคบคน ไม่ไว้เนื้อเชื่อใจใคร
เขาไม่ชอบความรู้สึกที่เป็นอยู่
จู่ๆ ก็กลายเป็นคนโดดเดี่ยว ใครเข้ามาใกล้ก็อึดอัด กังวล
อยากมีเพื่อนใหม่ แต่ต่อไม่ติด ความคิดในการมองโลกแง่ร้
4
ตกงาน หลังร้านเจ๊ง เขาไปสมั
สมัครไปเป็นสิบที่ มีคำตอบเดี
“นึกว่าหมู” เขาหัวเราะ “ยั
แค่ยาม.. นั่นสิ แต่ยามจะไม่ได้ ยามมืดมิดอับจนหนทาง มันก็ไม่ได้จริงๆ
“เตรียมหาเงินตัดชุดแล้วด้
“น่าจะเรื่องอายุมั้งครับ ผมคงแก่แล้ว ยามแก่ๆ ใครเขาจะเอา”
5
taxi driver คือทางออก
ก้าวแรกดำเนินไปอย่างน่าพอใจ วันๆ หนึ่ง เงินพัน หรือพันสองพันสาม มีติดกระเป๋ากลับเข้าบ้านเป็
กลีบกุหลาบโรยลงบนถนนชีวิตเพี
ค่าเช่ารถห้าร้อย ค่าแก๊สสามร้อย คล้ายปืนจ่อขมับ เป็นต้นทุนบังคับให้วิ่งเร่หาลู
โชคดีมีน้อยกว่าโชคร้ายเสมอ
หลายวันหาเงินไม่ได้ หลายวันวิ่งขาขวิดยังไงก็ขาดทุน
ผู้ชายเขาไม่ร้องไห้กันหรอก–เ
อีกบางคืน เขาขับรถมุ่งหน้าไปสะพานปิ่
6
“เห็นข่าวคนกระโดดน้ำตายบ่อยๆ นะครับ รองเท้าวางอยู่ข้างรถ คนหายไปแล้ว”
เหมือนๆ เราทุกคน, สองสามปีมานี้ ข่าวการฆ่าตัวตายเกิดขึ้นรายวัน
เขารู้ เขาเห็น และแต่ไหนแต่ไรมาก็ไม่เคยคิดสั้
“อยากตาย ไม่รู้จะอยู่ไปทำไม”
เหตุผลของเขาพรั่งพรู
“มันไม่มีค่า”
“เกิดมาจน”
“ไม่มีกิน”
“ไม่มีลูกเมีย ไม่มีใคร”
“ไม่ได้ฆ่าคนอื่น คงไม่บาปอะไร”
“พยายามเต็มที่แล้ว สู้แล้ว”
…
สองสามครั้งที่เขาตั้งใจจบชีวิต ขับรถไปแล้ว ทำใจเลือกทางนี้แล้ว ไปถึงจุดที่กระโดดแล้วก็เคย แต่มันมีเสียงแว่วในหัว เสียงที่
7
“มึง-ยัง-ไม่-สม-ควร-ตาย”
เขาไม่รู้ว่าเป็นเสียงใคร เสียงพูดช้าๆ ชัดๆ ในนาทีแห่งความเป็นความตาย มันมีเสียงนี้ดังขึ้น
เขาเงี่ยหูฟังและเปลี่ยนใจ ขับรถกลับบ้าน
8
เคยเจอพระขึ้นแท็กซี่ เขาเล่
“จะบาปได้ยังไง ผมไม่ได้ฆ่าใคร ไม่ได้ทำให้
“ฆ่าตัวเองนี่แหละโยม ชีวิตเป็นสิ่งมีค่า”
“คนอื่นมี แต่ผมไม่มี.. ผมเกิดมาจน ตายๆ ไปซะ ชาติหน้าเกิดใหม่ อาจจะรวย”
“ถ้าเลือกได้ มันก็ดีสิโยม ..แต่มันจริงมั้ยล่ะ”
วรรคสุดท้าย พระท่านว่าอีก–ถ้าเลือกเกิดได้ อาตมาก็อยากเกิดมารวยๆ เหมือนกัน
9
แท็กซี่หลายร้อยคันจอดตายคาอู่
ภาพที่เริ่มคุ้นตากัน หลายคั
ทุกวัน, รถของเขายังคงวิ่ง เหมื
เขาบอกว่าน่าจะผ่านแล้ว จบแล้
ทำไมถึงคิดว่าผ่าน ทำไมถึงเชื่
“มึง-ยัง-ไม่-สม-ควร-ตาย” เขาเลี
“เริ่มมองโลกแง่ดีแล้วนะ” ผมแซว เขาหันหน้ามายิ้ม บอก–สาธุ
และเล่าอีกบางเรื่อง..
10
“ผู้หญิงสองคนหน้าตาดี แต่งตั
“ผู้ชายนั่งข้างหน้าคู่กับผมนี่ ถึงแล้ว เขาบอกไม่มีตังค์ พู
“บางคนวิ่งหนีไปเลยก็มี”
ผมถามเขาว่าเวลาเจอเหตุการณ์
นี่คือคำตอบของเขา
“จะไปทำอะไรได้ นอกจากถามตัวเองว่าเอาอีกแล้
11
ประเทศเปิดแล้ว คนขับแท็กซี่บอกว่านักท่องเที่
ความจริงยังคงโหดร้าย ค่ำลงเงินในกระเป๋ามีแค่ห้าสิ
“ทุกอย่างไม่มีทางเหมือนเดิมแล้
12
ริมถนนสาทร, ยามสาย
ชายคนหนึ่งเดินผ่านผมไป และย้อนกลับมา
“ขอตังค์กินข้าวหน่อยได้มั้ย”
อยู่จังหวัดน่านนานปี ผมไม่เคยเจอขอทาน ไม่เคยมีใครมาขอตังค์กินข้าว แน่ละ ไม่เจอ ไม่ใช่แปลว่าไม่มี แต่ถิ่นเก่าในบางกอกเจอบ่อย ไม่ว่าหิวจริงหรือจงใจต้มตุ๋น มิจฉาชีพ ทุกครั้งล้วนสะท้านสะเทือนจิตใจ
ลึกๆ แล้วไม่น่ามีใครอยากขอใครกิน และโดยลึกๆ เราท่านล้วนหลงรักชีวิต แม้ในประเทศและวันเวลาที่ไม่มี
ในนาทีที่หิวที่สุด คุณจะเลือกทางไหน
นาทีที่เจ็บแค้นโศกเศร้าไร้คุ
อวยพรให้ทุกชีวิตมีสิทธิ์ได้เลื
เรื่องและภาพ: วรพจน์ พันธุ์พงศ์