the letter

บ่ายสุดท้าย กับเธอ

พี่หนึ่งครับ

รถทัวร์ National Express ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรไปมากนักจากสิบกว่าปีก่อน ทั้งแบบยี่ห้อ ทั้งขนาดที่นั่ง ประเภทของวัสดุที่ใช้บุเก้าอี้นั่ง การตบแต่งภายในตัวรถ สีและยี่ห้อรถ ฯลฯ ยังเหมือนกับที่ผมจำได้

อะไรต่างๆ เหล่านี้ผมจำได้ว่าเป็นเหมือนเดิม

ทั้งๆ ที่จริงแล้วมันก็คงจะเปลี่ยนแปลงรายละเอียดอะไรไปมากมายนั่นละครับ อาจจะเป็นเพราะความดื้อดึงของความทรงจำที่ยืนยันจะให้มันเป็นเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไป เพราะที่นั่นอาจจะเป็นพื้นที่ปลอดภัย เป็นที่ลี้ภัย เป็นหลุมหลบภัย

สิบกว่าปีก่อนผมเดินทางจากลอนดอนขึ้นไปเอดินเบอเรอะด้วยรถทัวร์ของบริษัทนี้ เป็นรถเที่ยวกลางคืน เก้าอี้นั่งของเขาไม่ได้เหมือนนครชัยแอร์ คือไม่ได้ใหญ่โตเป็นโซฟา ไม่ได้มีเครื่องนวด ไม่ได้มีจอทีวีอะไรให้ดูหนังฟังเพลง ไม่ได้มีพนักงานต้อนรับมาคอยอำนวยความสะดวก ไม่มีการประกาศจากคนขับสัญญาว่าจะขับรถอย่างดีที่สุด

มีเพียงเก้าอี้ขนาดมาตรฐานตัวหนึ่ง และซองตาข่ายเล็กๆ ข้างหน้า เอาไว้ใส่ของกระจุกกระจิกเท่านั้น

แน่นอนว่า ถ้าไม่เหนื่อยจริงๆ หรือไม่กรึ่มจริงๆ การจะนอนหลับไปทีเดียวในสถานการณ์เช่นนั้นทำได้ยากมาก

แต่ก็นั่นละพี่ มันเป็นหนทางของการเดินทางแบบประหยัด

ขณะที่เธอกำลังพยายามขยุ้มยาสูบเข้ามาผสมกับกัญชาที่ยำเอาไว้แล้ว เขามองออกไปข้างนอกหน้าต่างบานใหญ่ เห็นละอองฝนโปรยลงมา ฟ้าที่ดูเหมือนจะคายแสง กลับเปลี่ยนไปสู่ความมืดครึ้มอีกครั้งหนึ่ง

เสียงน้ำที่กำลังเดือดอยู่ในกาทำให้เขาลุกขึ้นยืน เปลี่ยนอิริยาบถ เขาก้าวไปยืนตรงเคาน์เตอร์ครัวเพื่อเตรียมชา เท่าที่เขาเห็น ดูเหมือนจะมีแต่ยี่ห้อ Twinings

ส่วนนมก็เป็นนมข้าวโอ๊ตที่ทำมาพิเศษ สำหรับใส่ชาหรือกาแฟ นมประเภทนี้เป็นที่นิยมของคนกินอาหารวีแกนซึ่งงดนมวัว เป็นนมแบบพิเศษที่สามารถใส่ในชาหรือกาแฟและจะเป็นเนื้อเดียว ปกตินมข้าวโอ๊ตทั่วไปจะไม่ผสมเป็นเนื้อเดียวกับกาแฟ แต่จะตกเป็นตะกอนขาวๆ

เขาหยิบถุงชาใส่เข้าไปในแก้วใบใหญ่ คิดอยู่ในใจว่าแก้วชาของคนอังกฤษมักมีขนาดใหญ่เสมอ จากนั้นรินน้ำร้อน ก่อนจะยืนรอมองสีน้ำตาลเข้มจากถุงชาร่ายรำออกมาสู่น้ำใสในแก้ว ค่อยๆ เปลี่ยนน้ำทั้งหมดเป็นสีน้ำตาลเข้ม

สักพักเขาก็หยิบนมกล่องนั้นขึ้นมา ฉุกคิดไปว่าอาจจะไม่ถูกต้องนักที่จะเรียกมันว่านม เขาอาจจะต้องเรียกมันว่าน้ำข้าวหรือเปล่า การที่เขาเรียกว่านมอาจจะไปทำให้ใครไม่พอใจหรือเปล่า

“เสร็จแล้ว ฉันเตรียมแบบที่เบาหน่อยไว้ให้คุณ”

เขาหันไปมองเธอด้วยสายตาขอบคุณ ข้างนอกละอองฝนยังโปรยลงมาสม่ำเสมอ

เขาอุ้มชาแก้วนั้นมานั่งตรงข้ามกับเธอ

“ไปไมอามีครั้งนี้ เป็นการพักผ่อนที่ดีเหมือนกัน แม้ว่าจะเป็นการทำงาน”

“ฉันรู้สึกเหมือนว่าฉันไม่ได้เป็นแค่ผู้ประสานงาน แต่เหมือนเป็นแม่ของพวกเด็กๆ จำนวน 25 คน”

เขามองควันกรุ่นจากชาแก้วนั้น และสบตากับเธออย่างสนใจ

“เกมเป็นอุตสาหกรรมที่ใหญ่มาก มีส่วนแบ่งการตลาดมหาศาล คนที่อยู่ในอุตสาหกรรมนี้มีอายุน้อยๆ ทั้งนั้น ประมาณ 23-30 ปี ฉันเป็นไม่กี่คนในทีมที่อายุมากกว่า 35”

เขาเริ่มยกชาขึ้นจิบ

“คุณรู้ไหม เด็กเหล่านี้ที่เริ่มก่อตั้งบริษัทเกมกันตอนอายุ 20-21 พออายุ 25 พวกเขากลายเป็นมหาเศรษฐีในวงการเกม มีรายได้หลายล้านเหรียญต่อปี พวกเขาเหล่านี้มีอายุไม่เกิน 25”

“ฟังดูเป็นวัยที่น่าสนใจกับการเป็นมหาเศรษฐี” เขาว่า

“เป็นมหาเศรษฐีช่วงโควิดนี่แหละ พวกเขายังไม่ได้พบเจอกับเพื่อนร่วมงานมากนัก ส่วนใหญ่ก็คือทำงานจากบ้าน รายได้ของบริษัทก็ขึ้นอยู่กับการที่คนออกไปไหนไม่ได้นั่นละ – นี่เป็นการประชุมของบริษัทครั้งแรกหลังจากโควิด คุณรู้ไหม ประชุมเริ่มเก้าโมง พวกเขามาห้องประชุมสิบโมงครึ่ง แล้วเข้ามาถามฉันว่า อาหารเช้าอยู่ไหน”

ละอองฝนข้างนอกหน้าต่างเบาลงบ้างแล้ว เธอพยักหน้าชวนเขาออกไปข้างนอก

กัญชามวนนั้นเข้มข้นกว่าที่เขาคาดเอาไว้ เขาแปลกใจที่ตัวเองเกือบจะสำลัก ทั้งๆ ที่ก็ไม่ได้รีบเร่งสูบอะไรนัก เขาพิจารณาถึงอากาศที่มืดครึ้มของแถบแฮมป์เชียร์

“ยาที่ฉันกินทุกวันก่อนทำงานมีส่วนผสมของสปีด ฉันหวังว่าอาการของฉันจะไม่ได้กระทบจังหวะการทำงานของคุณ ถึงเวลานี้ฉันรู้สึกว่าฤทธิ์ยาหมดลงแล้ว ถึงมาร่วมกับคุณได้ ว่าแต่ว่าคุณอยากกินอะไรเป็นพิเศษไหมเย็นนี้”

เขาไม่มีอะไรที่อยากลองกินเป็นพิเศษเลย เขาบอกกับเธอเช่นนั้น

“ถ้าอย่างนั้นฉันขอพาคุณไปลองชิมอาหารเม็กซิโกเจ้าอร่อย และจะขอชวนคุณไปดูหนังเรื่อง Avatar ภาคสองแบบ IMAX”

เขาบอกเธอว่าเป็นความคิดที่ดี พิจารณาถึงประสบการณ์ที่พึงจะได้รับแล้วก็รู้สึกพึงใจอยู่กลายๆ

“ระหว่างนี้ถ้าคุณอยากได้เบียร์ เราสั่งให้มาส่งที่บ้านได้ แล้วช่วงบ่ายเราค่อยเดินออกจากบ้าน” เธอยื่นโทรศัพท์ให้เขากดเลือกประเภทเบียร์ที่จะสั่งจากร้านชำที่ห่างออกไปไม่เกินหนึ่งกิโลเมตร

บ่ายแก่ๆ ของวันนั้น พวกเขาเดินออกจากบ้านพร้อมๆ กับแสงแดดที่ท้องฟ้าค่อยๆ คายออกมา

นี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาได้พบเธอ

ปรีดี

Malmö

18 Mar 2023

 

 

nandialogue

 

 


เกี่ยวกับผู้เขียน : ปรีดี หงษ์สต้น นักเขียน นักแปล นักวิชาการ ย้ายไปอยู่ประเทศสวีเดน เลี้ยงลูกไปพร้อมๆ กับสังเกตสังกาชีวิตที่เคลื่อนย้ายผ่านเวลาสถานที่ ภายใต้ระเบียบเสรีนิยมประชาธิปไตย

You may also like...