the letter

คนหนุ่มสาวและเบียร์จีน

พี่หนึ่งครับ

1. มองข้ามรั้วออกไปฝั่งโน้นคือประเทศเมียนมาร์

ถ้าไม่ได้เจ้าหน้าที่จากทางฝ่ายจีนเขาพาออกมาตรงนี้ คงจะเป็นเรื่องยากที่คนต่างชาติจะเลาะเลียบตะเข็บพรมแดนได้อย่างที่คณะของเราทำ เมื่อชั่วโมงที่แล้วมีรถทหารมาลาดตระเวนอยู่เป็นนานสองนานก่อนจะขับออกไป

ผมมองเห็นชาวเมียนมาร์นำข้าวสารมาตากอยู่กลางถนน แสงแดดที่ค่อนข้างแสบร้อนไม่มีผลอะไรนัก ไม่นานเราก็มายืนอยู่ตรงด่าน

มีรถต่อคิวกันหลายคันเพื่อจะเข้าตรวจ อนุญาตให้แต่ชาวจีนข้ามไปและกลับเท่านั้น ผมได้ยินว่าคนจีนจะไปเล่นคาสิโนทางโน้นกันมาก และเรื่องผลประโยชน์อะไรต่างๆ คงจะไหลเข้าออกกันเป็นรายวัน

เจ้าหน้าที่ทำงานกันมือเป็นระวิง ตรวจเอกสาร เปิดท้ายรถตรวจสิ่งของทุกอย่างที่อาจจะหลบหรือซ่อนอยู่ตามมุมไหนของรถ พร้อมๆ กันไปก็จำลองอำนาจศูนย์กลางของโลกใต้สวรรค์ออกมาอยู่ในอาคารขนาดใหญ่โตหลังนั้น ซึ่งตั้งตระหง่านประกาศให้หยุด แสดงอำนาจอธิปไตยที่ยากจะปฏิเสธได้ในพื้นที่ซึ่งมองข้ามไปส่วนใหญ่ก็เป็นภูเขาหรือเป็นที่นา

นอกจากคนที่เป็นเจ้าของรถขับผ่านด่านที่ว่านี้ โดยรอบๆ ผมไม่เห็นคนหนุ่มสาวมากนัก โดยเฉพาะเมืองชายแดนแห่งนี้ จะว่าไปแล้ว ผมไม่เห็นหมาจรจัดเลยสักตัวตั้งแต่มาถึงบริเวณพรมแดน

สถานที่ที่เรามาหยุดก็คือด่านลาเหมิ่ง นอกเมืองหล่งชวน ภายใต้เขตปกครองตนเองเต๋อหงและจิงพัว มณฑลยูนนาน ที่จะข้ามไปสู่เขตเมียนมาร์ภายใต้การปกครองของรัฐคะฉิ่น

แน่นอนว่าเราข้ามไปไม่ได้ เพราะไม่มีวีซ่า และแม้ว่าเรามีวีซ่าก็ไม่มีอะไรการันตีว่าเราจะข้ามไปได้ หรือเราจะข้ามไป

นอกจากด่านที่ว่านี้แล้ว ห่างออกไปก็เป็นห้องแถว อาคารบ้านเรือนของผู้คนที่อยู่เมืองชายแดนแห่งนี้ ซึ่งก็ดูจะไม่มีคนอยู่เสียส่วนใหญ่ พวกเขาหรือเธออาจจะออกไปทำงานที่ใดสักแห่ง ปล่อยให้อาคารเหล่านี้ดูรกร้าง จะมีก็ร้านชำสองสามร้านข้างทาง ที่มีป้ายรับสแกนจ่ายด้วยแอปวีแชท และคนสูงอายุที่เดินไปมาอย่างช้าๆ ราวกับว่าพวกแกเป็นส่วนหนึ่งของตัวอาคารเหล่านี้อย่างไรอย่างนั้น

คนเมียนมาร์เข้ามาทำงานฝั่งจีนแยะครับ ผมเห็นเขาเอาข้าวเปลือกมาตากบนถนน ตลอดทาง มีเกษตรกรปลูกข้าวโพด ที่จะมีรถสามล้อไฟฟ้าสีแดง ขนอุปกรณ์ ผลผลิต ระหว่างทางผมเห็นชาวนากำลังตัดหญ้าไปให้วัว มีบางเจ้ากำลังต้อนแพะให้ไปที่ไหนสักแห่ง มีเสียงกระพรวนเบาๆ ทุกคนเหมือนกำลังจดจ่อกับอะไรสักอย่าง

กำแพงคอนกรีตเสริมเหล็กทอดยาวไปตลอดแนว สลับไปกับรั้วเหล็กดัด มีป้ายตัวใหญ่สีแดงแขวนไว้ ไม่ต้องแปลก็พอจะเดาได้ว่า เป็นการประกาศห้ามข้ามแดนโดยไม่ได้รับอนุญาต มีประตูเล็กๆ ที่ลงกลอนไว้แน่นหนาอยู่ตรงมุมหนึ่งไกลๆ

ผมเห็นต้นไทรขนาดยักษ์ น่าจะมีอายุหลายร้อยปี ยืนต้นตระหง่านราวเป็นประตูในเกือบทุกที่ แสดงอาณาเขตระหว่างสองสิ่ง ไม่ว่าจะเป็นระหว่างประเทศหนึ่งกับอีกประเทศหนึ่ง ระหว่างเมืองหนึ่งกับอีกเมือง ระหว่างพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์และพื้นที่สาธารณะ

ดูเหมือนว่าความพยายามกำหนดอาณาเขตจะเป็นเรื่องโบร่ำโบราณทีเดียว

2. เส้นทางที่เราเดินทางลัดเลาะผ่านด้วยถนนคอนกรีตหรือราดยาง เป็นเส้นทางที่ตัดกับถนนอีกประเภทหนึ่งที่อาวุโสกว่ามากคือเส้นทางสายไหม เป็นถนนที่ปูด้วยหินซึ่งใช้สำหรับเป็นเส้นทางการค้า ซึ่งเส้นทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีนนี้จะเป็นเส้นทางการค้าต่อไปจนถึงอินเดีย และแน่นอนว่าแอฟริกา ตะวันออกกลางและยุโรป

สินค้า ผู้คนและเส้นทางที่เชื่อมระหว่างทางตะวันออกของแผ่นมหาทวีปยูเรเซียจะมีส่วนที่ผ่านทางนี้ ผมมองตามถนนไป ได้ยินเสียงผู้ดูแลมรดกทางวัฒนธรรมพูด และมีคนแปลว่า ทางการน่าจะให้ความสำคัญและดูแลเส้นทางสายไหมให้มากกว่านี้ ไม่มีการทำป้ายและการดูแลบูรณะอย่างที่ควรจะเป็น

ผู้ดูแลมรดกทางวัฒนธรรมมองไปที่อาจารย์ฝรั่งชาวดัชต์ที่เป็นผู้ร่วมคณะของเราและพูดอะไรออกมาสักสองสามประโยค และได้รับการแปลว่า การได้พบคุณครั้งนี้เป็นเหมือนการได้พบกับมาร์โค โปโล อีกครั้ง และนี่จะเป็นการเชื่อมโลกเข้าหากันเหมือนที่เคยเกิดในอดีต


3. ตกเย็นย่ำหลังจากอาหารมื้อใหญ่ ผมถามนักศึกษาสองคนที่ติดตามมาทัศนศึกษาว่า มีเบียร์ท้องถิ่นอะไรน่าลองไหม พวกเธอตอบว่ามี แนะนำเบียร์ Wusu ซึ่งจะมีดีกรีเข้มข้นกว่าเบียร์ Dali V8 นิดหน่อย แต่อย่างหลังนี้จะหาได้ง่ายกว่า ผมบอกว่าน่าสนใจ เธอทั้งสองบอกว่าเดี๋ยวจะพาไปซื้อ

ทั้งสองคนมาจากคนละมณฑล คนแรกเป็นลูกนักธุรกิจ มาจากมณฑลเจ้อเจียง อายุยี่สิบต้นๆ คนที่สองเป็นลูกนายอำเภอหนึ่งในมณฑลยูนนาน อายุยี่สิบกลางๆ ต่างมุ่งสู่การเรียนระดับปริญญาโท และกำลังค้นคว้าเกี่ยวกับหัวข้อที่ตัวเองสนใจ

พวกเธอมักพูดกันในภาษาจีน และในบางครั้งผมจะได้ยินเสียงเห็นต่างทางความคิด คนหนึ่งหันมาเล่าให้ผมฟังว่า เพื่อนของเธอคนนี้พยายามเลียนภาษาจีนสำเนียงยูนนาน แม้ว่าเจ้าตัวจะมาจากฝั่งทางทะเล ใกล้เมืองหลัก ซึ่งมีสำเนียงอีกแบบหนึ่ง เธอฟังแล้วก็สงสัยว่า เพื่อนชาวเมืองของเธอคนนี้ทำไปทำไม

เพื่อนชาวเมืองคนนี้บอกว่า เธอรู้สึกเหมือนได้เป็นส่วนร่วมวัฒนธรรมที่เธอไม่คุ้นเคย ที่แปลกแตกต่างออกไป

ผมถามว่ามันต่างมากไหม วัฒนธรรมที่เธอบอกว่าไม่คุ้นเคย เธอตอบว่ามาก อย่างเช่นอาหาร เธอก็ไม่ชินกับเมนูรสชาติจัดอย่างนี้ เธอโตมากับอาหารทะเลซึ่งไม่ค่อยมีให้เลือกมากนักที่นี่

นักศึกษาชาวยูนนานเล่าว่า คนฮั่นจากทางเมืองหลวงมักจะมองมาที่ยูนนานว่าเป็นดินแดนที่สวยงาม เป็นสถานที่ท่องเที่ยว เป็นมณฑลที่อยู่ของกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ แต่ขณะเดียวกันก็พัฒนาน้อยกว่า มีวัฒนธรรมที่ซับซ้อนน้อยกว่า อยู่ไกลปืนเที่ยง

ท่ามกลางมิตรภาพของสองนักศึกษา ผมเห็นความแตกต่างและความไม่ลงรอยกันอยู่ทั่วไป

ผมมองขึ้นไปที่ภูเขามหึมาที่รายล้อมเมืองจิ่วโจวนี้ รู้สึกว่าท้องฟ้าต่ำลงมามาก พลางนึกไปถึงอาการเมาความสูงไม่กี่วันก่อนหน้านี้ที่เมืองต้าหลี่

คนจีนในรุ่นพวกคุณมองเห็นชีวิตตัวเองอย่างไร ผมถามพวกเธอทั้งสอง

ฉันเห็นชีวิตของฉันชัดเจนมาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว ฉันจะเรียนหนังสือปริญญาโท พออายุ 25 ฉันจะแต่งงาน และจะทำธุรกิจเพื่อจะได้เลี้ยงดูพ่อแม่ของฉันได้

เธอหลุบสายตาลง แต่เหมือนกับว่าฉันไม่ค่อยได้สื่อสารกับพ่อแม่ของฉันเลย พวกเขาไม่เคยคุยกับฉันว่าพวกเขาคิดอะไร หรือไถ่ถามว่าฉันอยากได้อะไร ฉันจำได้ว่า ตอนยังเด็ก สักสิบกว่าขวบอะไรแบบนี้ ฉันกลับมาที่บ้าน แต่ว่าเข้าบ้านไม่ได้ คุณรู้ไหมว่าทำไม พ่อแม่ของฉันเขาซื้อบ้านใหม่ แล้วย้ายออกไปโดยที่ไม่บอกฉันเลย พวกเขามักทำอะไรแบบนี้

เพื่อนของเธออีกคนร่วมเล่าเรื่องของตัวเอง พ่อแม่ของฉันก็ไม่ต่างกัน พวกเขาไปไหนมาไหน ทำกิจกรรมด้วยกัน เมื่อวานพ่อแม่ของฉันไปตีเทนนิสกันหนุงหนิง นานๆ เขาก็จะโทรฯ มาหาฉัน ที่เรียนอยู่อีกเมืองหนึ่งสักที

แล้วพี่น้องของพวกคุณล่ะ ผมถาม เพื่อจะได้คำตอบว่าทั้งสองเป็นลูกคนเดียว

ทั้งคู่แลกเปลี่ยนบทสนทนากันเอง เพราะต่างคนต่างเพิ่งรู้จักกันไม่นาน ฝ่ายหนึ่งแสดงอาการทึ่ง เมื่ออีกฝ่ายบอกว่ามีอพาร์ตเมนต์เป็นของตัวเอง และยังมีการงานที่มั่นคง มีตำแหน่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐบาล ก่อนจะลามาเรียนหนังสือ

เช่นกัน อีกฝ่ายก็แสดงอาการตกใจที่อีกฝ่ายเก็บเงินเพื่อซื้อคอนโดฯ ได้เมื่ออายุ 20 และกำลังปล่อยเช่าเพื่อจ่ายค่าผ่อนได้ทุกเดือน มีความมุ่งหมายที่จะเก็บเงินให้ได้มากพอเพื่อเลี้ยงพ่อแม่และเลี้ยงลูก ซึ่งทั้งสองคนอยากมี

 

4. ดูเหมือนว่าพวกคุณสามารถตอบคำถามได้ชัดเจนว่า ตัวเองมีชีวิตอยู่ไปทำไม พวกเธอพยักหน้าแทบจะพร้อมกัน

บางครั้ง คนในรุ่นคุณหลายที่ทั่วโลก โดยเฉพาะในยุโรป คิดว่าชีวิตนี้ไม่ค่อยมีความหมายอะไร ไม่รู้จะอยู่ไปทำไม

พวกเธอบอกว่าไม่ค่อยแน่ใจว่าความรู้สึกนั้นเป็นอย่างไร

หลังจากมองไปที่หุบเขาที่ล้อมเมืองจิ่วโจวซึ่งกำลังจะถูกท้องฟ้ามืดลงห่มปกคลุม ผมโบกมือลาพวกเธอ กล่าวขอบคุณที่พาไปซื้อเบียร์เย็นๆ กระป๋องนั้น.


ปรีดี

10 Nov 2023

Malmöa

 

 


 


เกี่ยวกับผู้เขียน : ปรีดี หงษ์สต้น นักเขียน นักแปล นักวิชาการ ย้ายไปอยู่ประเทศสวีเดน เลี้ยงลูกไปพร้อมๆ กับสังเกตสังกาชีวิตที่เคลื่อนย้ายผ่านเวลาสถานที่ ภายใต้ระเบียบเสรีนิยมประชาธิปไตย

You may also like...